นายกฯ เข็น GDP ปีนี้แตะ 3.5% ขอแบงก์พาณิชย์ปล่อยกู้มากขึ้น ขอแบงก์ชาติ ลดดอกเบี้ย ลดภาระประชาชน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

นายกฯ เข็น GDP ปีนี้แตะ 3.5% ขอแบงก์พาณิชย์ปล่อยกู้มากขึ้น ขอแบงก์ชาติ ลดดอกเบี้ย ลดภาระประชาชน

Date Time: 18 ก.พ. 2568 21:45 น.

Video

“SOURI” อาณาจักรขนม วิน-เมธวิน | Brand Story Exclusive EP.6

Summary

  • นายกฯอิ๊งค์ หวังดันจีดีพีปี 2568 ให้ถึง 3.5% จี้ ธปท.ลดดอกเบี้ย ขอแบงก์พาณิชย์ปล่อยสินเชื่อประชาชนและเอกชน ลั่นทุกกระทรวงต้องร่วมมือกัน ย้ำมีแค่นโยบายเดียวดันจีดีพีขึ้นไม่ได้

เมื่อเวลา 19.57 น. X บัญชีชื่อ Ing Shin ซึ่งเป็นบัญชีของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุข้อความว่า มติประชุมคณะรัฐมนตรี การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 1/2568 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย หรือ ครม.สัญจร สงขลา ทีมงานนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ภาพ 2 ภาพ เป็นการสรุปมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 18 ก.พ.2568 โดยมีข้อความในภาพระบุถึงรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 4/2567 ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ รายงาน GDP ไตรมาส 4/2567 ขยายตัว 3.2% เติบโตขึ้นเกือบทุกมิติ เมื่อเทียบช่วงไตรมาสที่ผ่านมา แสดงถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลดำเนินการมาโดยตลอด

แต่การลงทุนภาคเอกชนหดตัว ปัจจัยสำคัญคือ ภาคเอกชนไม่มีสภาพคล่องเพียงพอจะลงทุน พร้อมกับ ข้อความอีก 4 ข้อ คือ

  • ขอให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น เพื่อให้ภาคประชาชนและเอกชน โดยเฉพาะ SME นำเงินไปลงทุนได้ 
  • ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาลดดอกเบี้ย เพื่อลดภาระให้ประชาชน
  • มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมและดึงการลงทุนจากต่างประเทศ
  • ยกระดับการท่องเที่ยวให้เป็น Man Made Destimation 

โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สงขลาระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า ตามสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ได้ประเมินแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2568 ที่ 2.8 % ขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ 3% และพยายามดันให้ไป 3.5% โดยมั่นใจว่าในเดือนที่เหลือของปีนี้ จะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ 

โดยรัฐบาลจะขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะทำงานและแก้ปัญหาไปด้วยกัน โดยขอให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ดูแลมาตรการทางการคลัง ประสานการทำงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างใกล้ชิด เพราะทุกส่วนมีส่วนสำคัญอย่างมาก ทำอยู่ฝั่งเดียวไม่ได้ต้องช่วยกัน

“ตัวเลขทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ของปี 2567 เติบโตขึ้นเกือบทุกมิติ แต่ภาคลงทุนของเอกชนหดตัว ปัจจัยที่สำคัญ เช่น ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีที่มีสัดส่วน 75% ของประเทศ ได้รับการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์น้อย จะเห็นได้ว่าเป็นเวลานับ 10 ปีที่การพัฒนาธุรกิจต่างๆ ของภาคเอกชนลดน้อยลง บางอุตสาหกรรมที่เก่าไปแล้ว ไม่ได้รับเงินสินเชื่อในการพัฒนา ภาครัฐพยายามทำทุกเรื่องเพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน เรื่องการปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจ ทางรัฐบาลต้องคุยกับ ธปท. เพื่อร่วมมือกัน”

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้วสิ่งที่รัฐบาลทำพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง ทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและในเมืองรอง ภาคเอกชนเองต้องดูด้วยว่าการลงทุนเพิ่มในระบบทำได้อย่างไรบ้างเอกชนต้องช่วยด้วยทุกภาคส่วนจริง ๆ มันไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อวานนี้หรือเมื่อปีสองปีที่แล้ว แต่เกิดเป็นระยะเวลาที่ยาวนานฉะนั้นต้องช่วยกันทุกฝ่าย จากที่ตนเองได้เดินทางไปต่างประเทศก็พยายามที่จะดึงให้มาลงทุนในประเทศไทย

ความจริงแล้วเศรษฐกิจแย่พักใหญ่แล้ว ฉะนั้นการผลักดันทุกส่วนสำคัญมาก เราไม่สามารถทำหนึ่งอย่างแล้วเศรษฐกิจดีทันที นโยบายภาครัฐไม่ได้ออกมาแค่หนึ่งนโยบายแล้วจะกระตุ้นจีดีพีได้ ทุกกระทรวงต้องทำร่วมกัน จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยไปพร้อม ๆ กัน

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี" ได้ที่ 
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ