“บิ๊กตู่” ติดเบรกไม่ให้ขึ้นค่าเอฟที ส่งสัญญาณฉีกมติ กกพ. หวั่นภาระค่าไฟ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“บิ๊กตู่” ติดเบรกไม่ให้ขึ้นค่าเอฟที ส่งสัญญาณฉีกมติ กกพ. หวั่นภาระค่าไฟ

Date Time: 6 ส.ค. 2565 06:35 น.

Summary

  • “บิ๊กตู่” เบรกอีกแล้วจ้า สั่งยกเลิกแถลงข่าวขึ้นค่าเอฟทีงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.65 ก่อนแถลงจริงไม่กี่นาที ทำ กกพ. งง! เพราะการขึ้นค่าเอฟทีมีผลตามกฎหมายแล้วและไม่เคยมีการยกเลิกมติ กกพ. มาก่อน

Latest

ไทยเสี่ยงหลุดขบวน อาเซียนดิจิทัล ตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน ถึงเวลา“เร่งเครื่อง” ก่อนเวียดนามทิ้งห่าง

“บิ๊กตู่” เบรกอีกแล้วจ้า สั่งยกเลิกแถลงข่าวขึ้นค่าเอฟทีงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.65 ก่อนแถลงจริงไม่กี่นาที ทำ กกพ. งง! เพราะการขึ้นค่าเอฟทีมีผลตามกฎหมายแล้วและไม่เคยมีการยกเลิกมติ กกพ. มาก่อน ย้ำจะให้ช่วยกลุ่มเปราะบางต้องจัดสรรเงินให้ เปิดภาระ กฟผ. ถ้าไม่ให้ขึ้นค่าเอฟที แบกบาน 1.7 แสนล้าน เผยรัฐชงเคาะสูตรเก็บค่าไฟตามปริมาณที่ใช้ ใช้มากจ่ายมาก ใช้น้อยจ่ายน้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม เวลาประมาณ 10.00 น. สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้แจ้งยกเลิกด่วนการแถลงข่าวชี้แจงตอบข้อซักถามค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดใหม่ในเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 โดยเป็นการแจ้งยกเลิกก่อนถึงเวลาแถลงจริงไม่กี่นาที เนื่องจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้รับการประสานด่วนจากตัวแทนรัฐบาลที่อ้างคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทบทวนตัวเลขอัตราค่าเอฟทีที่ปรับขึ้น รวมทั้งให้หามาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ที่กำลังเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ การสั่งยกเลิกแถลงข่าวนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเดิมสำนักงาน กกพ. เตรียมแถลงตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามมติ กกพ. เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมาคือ ให้ปรับขึ้นค่าเอฟที งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ เป็น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย จากปัจจุบัน (พ.ค.-ส.ค.) ค่าเอฟทีอยู่ที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.79 บาทต่อหน่วย จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมที่ประชาชนต้องจ่ายรวมเป็น 4.72 บาทต่อหน่วย ตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นและผลจากเงินบาทอ่อนค่า จากปัจจุบันค่าไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า อัตราค่าเอฟทีที่ปรับขึ้นดังกล่าว ถือเป็นอัตราต่ำสุดเพราะยังไม่มีการคืนหนี้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แบกรับต้นทุนเชื้อเพลิงมาตั้งแต่ปี 2564 และการรับภาระงวดใหม่นี้จะทำให้ กฟผ.แบกรับภาระรวมแล้ว 170,000 ล้านบาท โดย กกพ. ได้แจ้งมติขึ้นเอฟทีให้ 3 การไฟฟ้า ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทราบแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบกิจการพลังงาน ที่ต้องแจ้งก่อนวันปรับเอฟทีจริงเป็นเวลา 30 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โจทย์ที่รัฐบาลต้องการให้ กกพ. ไปหาวิธีบริหารจัดการก่อนที่จะมีการแถลงข่าว มี 2 แนวทางคือ 1.ให้ กกพ.พิจารณา ต่ออายุมาตรการดูแลผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือกลุ่มเปราะบางไปจนถึงสิ้นปีนี้

โดยผู้ใช้ไฟฟ้าดังกล่าวที่จ่ายค่าไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าเอฟทีที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย (จ่ายเท่าอัตราเดิมของเดือน ม.ค.-ส.ค.) ซึ่งเดิมได้รับการอุดหนุนจากมาตรการที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ แต่การประกาศค่าเอฟทีงวดใหม่นี้ รัฐบาลไม่ได้จัดสรรเงินงบประมาณมาให้ กกพ. จึงทำให้ กกพ.ไม่สามารถดำเนินการตามที่รัฐบาลขอมาได้ 2.หากไม่สามารถดำเนินการได้เพราะไม่มีงบประมาณ รัฐบาลขอให้ กกพ.พิจารณาแนวทางใช้สูตรคิดคำนวณค่าไฟฟ้าใหม่ ภายใต้เกณฑ์ใครใช้ไฟฟ้าน้อยในแต่ละเดือน ก็ควรคิดค่าไฟฟ้าฐานและเอฟทีในอัตราต่ำ ใครใช้ไฟฟ้ามากให้จ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเรื่องนี้

กกพ. ยืนยันว่า ยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะต้องใช้เวลาดำเนินการ หากจะปรับสูตรค่าไฟฟ้า ก็จะต้องเปิดรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย และอาจต้องเสนอเข้าคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จึงไม่สามารถปรับสูตรได้ในการเรียกเก็บค่าเอฟทีในงวด ก.ย.-ธ.ค.นี้

ขณะเดียวกันผู้บริหาร กกพ. ได้ระบุว่า หลังจากนี้ต้องรอสัญญาณจากรัฐบาลอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะมติขึ้นค่าเอฟทีมีผลตามกฎหมายแล้ว หากยกเลิกมติก็จะถือเป็นครั้งแรกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือหากจะให้ กกพ. ออกมาตรการช่วยกลุ่มเปราะบางแบบเร่งด่วน ก็ต้องมีงบประมาณจากรัฐบาลมาสนับสนุน ซึ่งหากรัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณมาให้ กกพ. ได้ ก็ต้องดูว่าเป็นวงเงินจำนวนเท่าใด เพียงพอที่จะนำมาหักลดค่าเอฟทีได้มากน้อยเพียงใดด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กฟน. ว่า กฟน.ได้รับหนังสือมติการขึ้นค่าเอฟที งวดใหม่ก.ย.-ธ.ค.นี้แล้ว และได้ออกประกาศคำชี้แจงดังกล่าวนี้ให้ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้ารับทราบตามกฎหมายแล้วด้วย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ