กระทรวงพาณิชย์ลุยปีหน้า ดันราคาผลไม้ ใช้ 17 มาตรการ

“จุรินทร์ออนทัวร์ ภาคตะวัน ออก” พาณิชย์เดินเครื่องประกาศ 17 มาตรการเชิงรุกดูแลราคาผลไม้ไตรมาส 1-2 ปี 65 ล่วงหน้าแบบครบวงจร ปลื้มผลประกอบการส่งออกผลไม้ 8 เดือนแรกปี 64 โกยรายได้เข้าประเทศ 1.69 แสนล้านบาท บวกเพิ่มถึง 46% ทุเรียนราชาผลไม้ไทยยังฮอตฮิตติดอันดับขายดีบวก 77% มังคุดบวก 24% ลำไยบวก 50% ขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอครบทุก 77 จังหวัด

พืชผลทางการเกษตรยังเป็นปัญหาหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จับมือกับตัวแทนเกษตรกร และผู้ประกอบการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ประชุมเร่งหามาตรการบริหารจัดการสินค้าผลไม้ไว้ล่วงหน้าทั้งระบบ โดยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 ต.ค.ที่โครงการศูนย์บริหารจัดการมหานครผลไม้ ต.วังโตนด อ.นายายอาม จ.จันทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผวจ.จันทบุรี ประชุมเตรียมการดูแลสินค้าผลไม้ปี 2565 หารือกำหนดมาตรการเพื่อบริหารจัดการผลไม้ล่วงหน้าทั้งระบบ ตามนโยบายสัญจรลงพื้นที่ “จุรินทร์ออนทัวร์ ภาคตะวันออก” โดยมีนายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา อดีต ส.ส.จันทบุรี นายอิทธิพล จังสิริมงคล นายชรัตน์ เนรัญชร นายชาติชาย วรพิพัฒน์ ตัวแทนเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้รับซื้อ ผู้ส่งออก ผู้บริการขนส่ง ทูตพาณิชย์ประจำต่างประเทศ และพาณิชย์จังหวัดที่มีสินค้าผลไม้ ร่วมรับฟังนโยบาย โดยที่ประชุมได้สรุปผลของการแก้ไขปัญหาปี 2564 และที่ผ่านมาเพื่อเตรียมการแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม

จากนั้นนายจุรินทร์แถลงสรุปมาตรการว่า วันนี้มาประชุมร่วมกับตัวแทนเกษตรกร ตัวแทน SMEs แปรรูปผลไม้ ล้ง ผู้ประกอบการ ส่วนราชการจังหวัด และกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งหน่วยงานราชการทั้งหมด ใน จ.จันทบุรี จ.ระยอง และ จ.ตราด เพื่อกำหนดมาตรการรองรับผลไม้ปี 65 ที่จะออกไตรมาสแรก และไตรมาสสองล่วงหน้าก่อน 6 เดือน เชิงรุก 17 มาตรการ 1.มาตรการเร่งรัดตรวจและรับรอง GAP ซึ่งมีเป้าหมายในปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 120,000 แปลง 2.มาตรการช่วยผู้ประกอบการหรือเกษตรกร หรือ ล้ง กระจายผลผลิตผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต กิโลกรัมละ 3 บาท ปริมาณ 80,000 ตัน 3.มาตรการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ส่งออกโดยจะช่วยเหลือดอกเบี้ยร้อยละ 3 และช่วยผู้ส่งออกที่ส่งออกผลไม้อีกกิโลกรัมละ 5 บาท ปริมาณ 60,000 ตัน 4.กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนให้ใช้ พ.ร.บ.เกษตรพันธสัญญา การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้านผลไม้ เพื่อเกษตรกรจะได้ทราบว่า ขายผลไม้ได้เท่าไหร่ มีคนซื้อที่มีหลักประกัน เซ็นสัญญาตามกฎหมายชัดเจนไม่ต่ำกว่า 30,000 ตัน

นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า 5.มาตรการส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในประเทศ ประสานงานกับสายการบินต่างๆ เปิดโอกาสให้โหลดผลไม้ขึ้นเครื่องบินในประเทศไทยฟรี 25 กิโลกรัม ตั้งแต่เดือน เม.ย. ปี 65 เป็นต้นไป 6.มาตรการช่วยสนับสนุนกล่อง พร้อมค่าจัดส่งผลไม้ที่ขายตรงจากเกษตรกร หรือกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ ไปยังผู้บริโภคโดยตรงโดยสนับสนุนกล่องมากขึ้นกว่าปี 64 ที่สนับสนุน 200,000 กล่อง ปี 65 จะสนับสนุนถึง 300,000 กล่อง 7.ในช่วงที่ผลไม้ออกเยอะจะสนับสนุนให้มีรถเร่ รถโมบาย ไปรับซื้อผลไม้ และนำออกจำหน่ายสู่ผู้บริโภค 15,000 ตัน 8.ประสานงานกับห้างท้องถิ่นและปั๊มน้ำมันเปิดพื้นที่ระบายผลไม้เพิ่มในปี 65 เป็น 5,000 ตัน 9.จะทำเซลส์โปรโมชันส่งเสริมการขายในต่างประเทศโครงการ Thai Fruits Golden Months ในตลาดจีน 12 เมือง เช่นเดียวกับปี 64 ซึ่งเป็นมาตรการที่ได้ผลดีมาก

รมว.พาณิชย์กล่าวต่อว่า 10.จะเจรจาจับคู่ซื้อขายทางธุรกิจในระบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า OBM มุ่งเน้นตลาดใหม่ เช่น อินเดีย และรัสเซีย เป็นต้น 11.จะส่งเสริมการขายในต่างประเทศในรูปแบบ THAIFEX-Anuga Asia จัดงานส่งเสริมการบริโภคผลไม้ระดับนานาชาติในช่วงเดือน พ.ค.ปี 2565 ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี 12.เร่งจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ไทยทั่วโลกเป็น 5 ภาษา 13.จะจัดอบรมให้ความรู้เรื่องการค้าออนไลน์แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และจะเพิ่มหลักสูตรการส่งออกเบื้องต้นให้ด้วย ตั้งเป้าอบรมให้ได้อย่างน้อย 1,000 ราย 14.ขอความร่วมมือจาก ผวจ. ที่เกี่ยวข้องในการเคลื่อนย้ายแรงงานเพื่อเก็บเกี่ยวผลไม้ และส่งเสริมการขาย 15.บางช่วงที่ขาดแคลนแรงงานให้ กอ.รมน.ส่งกำลังพลเข้ามาช่วยเก็บเกี่ยว และขนย้ายผลไม้ 16.กระทรวงพาณิชย์จะสั่งให้ทีมเซลส์แมนจังหวัด และทีมเซลส์แมนประเทศ ประสานงานกันช่วยระบายผลไม้ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศให้เข้มข้นขึ้น 17.จะบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดเพื่อให้เกษตรกรขายผลไม้ที่มีคุณภาพและได้ราคาดีไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้า และกฎหมายชั่งตวงวัดโดยเคร่งครัด

“ภาพรวมผลไม้จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3,500,000 ตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 8% มาตรการเชิงรุกจึงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเพราะหมายถึงซัพพลายจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 64 อย่างไรก็ตาม การส่งออกผลไม้ประสบความสำเร็จมากในช่วงปี 64 ในช่วง 8 เดือนแรก ม.ค.- ส.ค.สามารถส่งออกได้ถึง 169,000 ล้านบาท +46% เฉพาะทุเรียนส่งออกได้ 98,360 ล้านบาท +77% มังคุด 16,703 ล้านบาท +24% ลำไย 10,392 ล้านบาท +50% และยังมีมาตรการพิเศษ ที่กระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดเพิ่มมูลค่าจากพืชผลการเกษตร ทั้งผักผลไม้ พืชเกษตรอื่นๆหรือผลไม้ให้เป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูง โดยการส่งเสริมให้ขึ้นทะเบียน GI เพราะสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะสามารถเพิ่มมูลค่าได้เฉพาะปี 64 กระทรวงพาณิชย์ขึ้นทะเบียน GI ให้สินค้าทั่วประเทศไปแล้ว 152 รายการ และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาสามารถจดทะเบียนสินค้า GI ได้ครบทั้ง 77 จังหวัดแล้ว สินค้า GI ทั้งหมด 152 รายการ มีมูลค่ายอดขายถึง 40,000 ล้านบาท อย่าง จ.จันทบุรี มี GI แล้ว 3 ตัว คือ เสื่อจันทบูร พริกไทยจันท์ ล่าสุดที่จะทำพิธีมอบวันที่ 7 ต.ค. คือ ทุเรียนจันท์ คาดว่าจะมียอดส่งออกปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 45,000 ล้านบาท” นายจุรินทร์กล่าว