เด็กจบใหม่ครึ่งล้านจ่อเตะฝุ่น หางานในเว็บอีก 1.87 ล้านคน เหตุนายจ้างลดต้นทุน

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าของกิจการ หลายๆแห่ง ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดรับกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 3 ที่มีแนวโน้มรุนแรง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศให้ชะลอตัว ด้วยการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะการจ้างงานใหม่และสำรองเงินสดไว้ให้มากที่สุดเพื่อประคับประคองธุรกิจ

ดังนั้นการว่างงานในภาพรวม แม้มีโอกาสฟื้นตัวจากการส่งออกที่มีสัญญาณบวก ประกอบกับรัฐบาลไม่ได้ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ แต่ตลาดแรงงานยังมีความเสี่ยงและอ่อนไหว จากตัวเลขการว่างงานแฝง ที่สะท้อนผ่านข้อมูลจำนวนคนที่กำลังหางานเฉพาะในเว็บไซต์ Jobthai.com ที่ล่าสุดมีผู้ฝากประวัติแสดงความจำนงต้องการงานทำ 1.87 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่จบปริญญาตรี “หากพิจารณาเฉพาะนักศึกษาที่จบการศึกษาใหม่ปีการศึกษา 64 ที่เริ่มทยอยจบ มี.ค.-เม.ย.นี้อีก 520,000 คน ที่อยู่ในช่วงโควิด-19 ระลอก 3 ซึ่งมีทั้งระดับปวช., ปวส.,ปริญญาตรี ต้องเผชิญกับภาวะการหางานทำที่ยากลำบากมากขึ้น”

นายธนิต กล่าวว่า ผลกระทบการว่างงานของไทย จะเลวร้ายต่อเนื่องหรือดีขึ้น ขึ้นอยู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลเป็นสำคัญ โดยเอกชนซึ่งเป็นนายจ้างได้ปรับกลยุทธ์ไว้รองรับระยะยาวตั้งแต่ 6 เดือนไปจนถึงสิ้นปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปีนี้ แต่การกลับมาของโควิด-19 จะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจช้าลง อย่างไรก็ตามธุรกิจแต่ละส่วนจะมีความต่างกันออกไป โดยธุรกิจส่งออกและการขนส่ง ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน ทำให้ 2 ธุรกิจนี้ ยังประคองการจ้างงานเดิมไว้ได้ไม่มีการปลดแรงงานและยังมีโอกาสจ้างงานใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ได้รับผลกระทบมากสุดเนื่องจากโอกาสที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับเข้ามาปีนี้ค่อนข้างยาก ส่วนธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็อาจลำบากยิ่งขึ้นเพราะประชาชนไม่กล้าเดินทางท่องเที่ยว สิ่งที่สภาองค์การนายจ้างฯ เป็นห่วงมากที่สุด คือธุรกิจเอสเอ็มอีกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยวและบริการ ที่อาจไม่สามารถดำเนินกิจการให้อยู่รอดได้ จึงต้องติดตามมาตรการให้สินเชื่อผู้ประกอบการ วงเงิน 250,000 ล้านบาท ว่าจะเยียวยาได้แค่ไหน.