รายได้-กำไรลด-ต้นทุนพุ่ง "เอสเอ็มอีไทย" ส่อวิกฤติ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

รายได้-กำไรลด-ต้นทุนพุ่ง "เอสเอ็มอีไทย" ส่อวิกฤติ

Date Time: 24 พ.ค. 2562 08:40 น.

Summary

  • “เอสเอ็มอีไทย” อ่วมหนัก ม.หอการค้าไทยชี้ดัชนีเอสเอ็มอีไตรมาสแรกของปีนี้รูดต่ำ เหตุต้องรับต้นทุนสูงขึ้น-รายได้กำไรลด-ขาดสภาพคล่อง จ่อปรับลดการขยายตัวเอสเอ็มอีปีนี้เหลือ 4.8% จาก 5% จับตาพิษ

Latest

เปิดบัญชีง่ายเกินจริง! ธปท.ลุยสอบพนักงานแบงก์ เอี่ยวบริการลับ เปิดบัญชีให้ “ชาวจีน”

ม.หอการค้าชี้ดัชนีไตรมาสแรกอ่วม

“เอสเอ็มอีไทย” อ่วมหนัก ม.หอการค้าไทยชี้ดัชนีเอสเอ็มอีไตรมาสแรกของปีนี้รูดต่ำ เหตุต้องรับต้นทุนสูงขึ้น-รายได้กำไรลด-ขาดสภาพคล่อง จ่อปรับลดการขยายตัวเอสเอ็มอีปีนี้เหลือ 4.8% จาก 5% จับตาพิษสงครามการค้าซ้ำเติม

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโส ด้านวิชาการและงานวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีเอสเอ็มอีประจำไตรมาสแรกปี 62 ปรับลดลงในทุกด้าน ทั้งดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ ความสามารถการทำธุรกิจ ความยั่งยืนของธุรกิจ และความสามารถการแข่งขัน โดยเอสเอ็มอีเผชิญกับการแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น และปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งกระทบรายได้และผลกำไร โดยผลสำรวจดัชนีเอสเอ็มอีไตรมาสแรกปีนี้เทียบไตรมาส 4 ปีที่แล้วพบว่า ดัชนีสถานการณ์ธุรกิจไตรมาสแรกอยู่ที่ 43.7 ลดลง 0.3 จุด ดัชนีความสามารถการทำธุรกิจอยู่ที่ 49.9 ลดลง 0.5 จุด ดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจอยู่ที่ 52.5 ลดลง 0.2 จุด ดัชนีความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจอยู่ที่ 48.7 ลดลง 0.3 จุด และคาดว่าในไตรมาสสองปีนี้ดัชนีจะอยู่ที่ 48.5 จุด โดยดัชนีมีค่าต่ำกว่า 50 จุด ถือว่าสถานการณ์แย่ลง

ทั้งนี้ เมื่อเทียบเอสเอ็มอีที่เป็นลูกค้าธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) กับกลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้า พบว่า กลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้า ธพว.ดัชนีความสามารถในการแข่งขันลดลง 0.5 จุด ขณะที่ลูกค้า ธพว. ดัชนีความสามารถในการแข่งขันลดลง 0.4 จุด ขณะที่การสำรวจความต้องการความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐนั้น กลุ่มตัวอย่างระบุว่า ต้องการลดอัตราภาษี ปรับปรุงโครงสร้างภาษี เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีการค้า และภาษีที่ซ้ำซ้อน ด้านการตลาด เช่น ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงออนไลน์ ด้านสินเชื่อ เช่น ลดข้อจำกัดในการอนุมัติสินเชื่อ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน

“เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯในขณะนี้ จะส่งผลกระทบต่อเอสเอ็มอีในประเทศ จากการชะลอการใช้จ่ายจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะกระทบธุรกิจต่อเนื่องในท้องถิ่น อาทิ โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และการขนส่งต่างๆ นอกจากนั้น ยังกระทบต่อการส่งออก หากจีนบริโภคน้อยลงอาจจะกระทบต่อการผลิตและส่งออกผลไม้และสินค้าเกษตรของไทย ซึ่งปัญหาสงครามการค้าจะต้องติดตามใกล้ชิด โดยเฉพาะในเดือน มิ.ย.นี้ ว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ โดยหอการค้าไทยยังประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 3.5% โดยครึ่งปีแรกขยายตัวได้ระหว่าง 3-3.2% ส่วนครึ่งปีหลังจะต้องขยายตัวได้ 3.8-4% ขณะที่การขยายตัวของเอสเอ็มอีน่าจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 4.8% จากคาดการณ์เดิม 5%”

ด้านนายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ ธพว.กล่าวว่า ผลสำรวจดัชนีต่างๆของเอสเอ็มอีจะปรับลดลง แต่สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นลูกค้า ธพว.ยังมีค่าเฉลี่ยดัชนีสูงกว่าเกณฑ์ บ่งบอกได้ดีว่า แนวทางสนับสนุนของธนาคารที่มุ่งให้ความรู้คู่เงินทุน ควบคู่สนับสนุนสร้างคุณภาพชีวิต เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ