ธนาคารกลางสหรัฐ ยังเป็น “อิสระ” ได้แค่ไหน เมื่อทรัมป์ สั่งปลด “ลิซ่า คุก” พ้นกรรมการเฟด

ช่วงที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) พยายามกดดันเพื่อให้ “ลิซ่า คุก” (Lisa Cook) 1 ใน 7 คณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (Fed Board of Governors) ออกจากตำแหน่ง หลังลิซ่าต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ว่า ฉ้อโกงสินเชื่อบ้าน ซึ่งทำให้ทรัมป์ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใส สุจริตในการเป็น 1 ใน 12 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด

ล่าสุดวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ทรัมป์ประกาศบน Truth Social ของเขาว่า ได้สั่งปลด ลิซ่า คุก ออกจากตำแหน่ง โดยอ้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการถอดถอนเธอจากคณะผู้ว่าการของเฟด ซึ่งยกถึงกรณีที่ ลิซ่า คุก ให้ข้อมูลเท็จในเอกสารยื่นขอสินเชื่อบ้าน โดยระบุบ้านทั้ง 2 หลังที่อยู่ในรัฐมิชิแกน และ รัฐจอร์เจียว่าเป็นบ้านหลังหลัก ซึ่งอาจเข้าข่ายทุจริตการจำนอง

ฝั่ง ลิซ่า คุก เคยออกมาตอบโต้แล้วว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการเฟด และทรัมป์ไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการสั่งปลด ส่วนทางเฟดเองยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นอะไร

หลายฝ่ายจึงติดตามว่าผลของเรื่องนี้จะส่งผลต่อนโยบายการเงินสหรัฐฯ อย่างไร แต่หลังมีการประกาศนี้ฝั่งตลาดการเงินอย่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี, ดัชนีดอลลาร์ของ Bloomberg, S&P 500 Futures ปรับตัวลดลงทันที แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ทั้งนี้ การสั่งปลดผู้ว่าการเฟดครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์กว่าร้อยปีของการก่อตั้งเฟดเมื่อปี 1913 (พ.ศ. 2456) ซึ่งเฟดได้เป็นอิสระจากรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 1951 (พ.ศ. 2494) เรื่องนี้จึงอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางกฎหมายของสหรัฐฯ (แม้ว่าที่ผ่านมาจะเคยมีกรณีที่ประธานเฟดภูมิภาคถูกกดดันให้ลาออก เนื่องจากทำผิดกฎหมายการซื้อขายหุ้น)

แต่ที่สำคัญกว่าคือ ถ้าทรัมป์สามารถปลด ลิซ่า คุก ออกได้อาจจะทำให้ทรัมป์มี “เสียง” ในบอร์ดเฟด (The Fed Board of Governors) มากขึ้นเป็น 4 ใน 7 เสียงของคณะผู้ว่าการเฟด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของสหรัฐฯ อาทิ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นต้น 

ช่วงที่ผ่านมาทรัมป์ก็พยายามกดดันเจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) ประธานเฟดให้หั่นดอกเบี้ยนโยบายลงเสมอ จึงต้องติดตามกันว่าในการประชุมเดือน ก.ย. นี้ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยเหมือนที่ส่งสัญญาณมาในการประชุมแจ็กสัน โฮล (Jackson Hole) ครั้งล่าสุดหรือไม่

อ้างอิง Bloomberg, CNBC, BBC

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และ ข่าวการลงทุน และ การเงิน กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment