นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก สายกินสายเที่ยว พ่อค้าแม่ค้า พนักงานบริษัทมนุษย์เงินเดือน กลุ่มคนรุ่นใหม่ ผู้สูงวัยใกล้เกษียณเกือบ 19 ล้านคน แรงงานเกษตร แรงงานบริการหลากอุตสาหกรรมไปจนถึงแรงงานต่างด้าว
MI GROUP เปิดอินไซต์กลุ่มเป้าหมายการตลาดน่าจับตาปี 2568 พร้อมช่องทางการสื่อสารที่แนะนำ เพราะ ปีนี้ไม่ใช่เวลาของการยิงโฆษณากว้างๆ หรือจำกัดวงแคบจนเกินไป แต่ต้อง “เล็งแหลม” และกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ไปยังกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและการจับจ่ายสินค้าและบริการในหมวดที่แตกต่างกัน
8 กลุ่มเป้าหมาย “ต้องโฟกัส”
- แรงงานเกษตร “ผู้ปั้นอนาคตจากผืนดิน” – 12 ล้านคน
กลุ่มแรงงานฐานรากที่ยังคงขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมั่นคง แม้จะไม่อยู่ในเมือง แต่เข้าถึงเทคโนโลยีและโซเชียลมากขึ้นผ่านมือถือ กลุ่มนี้เป็นกำลังซื้อสำคัญในตลาด FMCG และสินค้าจำเป็นที่ตอบสนองต่อความต้องการและวิถีชีวิตของพวกเขา รวมถึงเปิดรับนวัตกรรมเกษตรมากขึ้นเรื่อยๆ ช่องทางแนะนำ คือ Facebook, TikTok, สื่อท้องถิ่น (ป้าย/วิทยุ), อีเวนต์ชุมชน/งานประเพณี - แรงงานบริการ “คนจริงหลังฉากเศรษฐกิจ” – 5 ล้านคน กลุ่มสำคัญที่สร้างประสบการณ์บริการในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรมไปจนถึงภาคบริการสุขภาพและท่องเที่ยวกลุ่มนี้กลายเป็นฟันเฟืองที่มักถูกมองข้าม แต่มีพลังการจับจ่าย และเป็นกลุ่มที่เข้าถึงสื่อผ่านมือถือสูงมาก ช่องทางแนะนำ คือ Facebook, YouTube, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/ตลาดเช้า/ห้างฯ),บูธกิจกรรมในบริเวณแหล่งชุมชนและที่ทำงาน
- Gen Z (13–29 ปี) “เสียงใหม่แห่งอนาคต” – 13 ล้านคนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยามโลกในแบบของตัวเอง ทั้งพฤติกรรม การซื้อสินค้า และการเสพสื่อ กลุ่มนี้นับเป็น Trend Setter ตัวจริง เป็นแรงขับเคลื่อนของทุกแพลตฟอร์ม พฤติกรรมไวต่อกระแส ต้องการการสื่อสารที่สร้างการมีส่วนร่วมและให้คุณค่าความเป็นตัวเอง ช่องทางแนะนำ คือ TikTok, IG, YouTube, X, Gaming-Discord, สื่อนอกบ้าน (Transit, ใกล้สถานศึกษา/ห้างฯ)
- พนักงานบริษัท “มนุษย์เงินเดือนหัวใจนักสู้”– 18 ล้านคน กลุ่มชนชั้นกลางที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมือง มีกำลังซื้อ มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องการใช้จ่าย สุขภาพ และความมั่นคง นับเป็นกลุ่มที่เปิดรับข้อมูลเยอะ แต่เลือกเชื่อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และให้คุณค่ากับแบรนด์ที่เข้าใจชีวิตจริง ช่องทางแนะนำ คือ Facebook, TikTok, YouTube, LinkedIn, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/Transit/ออฟฟิศ), Roadshow ทดลองใช้/สมัครบริการ
- กลุ่มใกล้เกษียณ/ผู้สูงวัย “พลังเงียบที่ยังเปล่งเสียง”– 18.6 ล้านคน กลุ่มนี้นับเป็นกลุ่มที่ใหญ่มากที่มีทั้งเวลาและกำลังซื้อ พร้อมดูแลตัวเองและคนรอบข้าง ต้องการความมั่นใจในแบรนด์และความคุ้มค่าเป็นกลุ่มที่อาจไม่ได้ไวกับเทคโนโลยี แต่ซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ช่องทางแนะนำ คือ Line, TV, YouTube, Facebook, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/Transit/ห้างฯ/โรงพยาบาล), บูธกิจกรรม (ตรวจสุขภาพ/แจกสินค้าตัวอย่าง)
- Micro Sellers (พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์/ออฟไลน์) “เสาหลักเศรษฐกิจฐานราก” – 4 ล้านคนขึ้นไป เจ้าของร้านเล็กๆ ที่ไม่เล็กในพลัง พวกเขาใช้ทุกเครื่องมือเพื่อสร้างรายได้ ทั้งไลฟ์สด ขายหน้าร้าน และโซเชียล แบรนด์ที่เข้าถึงและสนับสนุนพวกเขาได้ จะได้พลังจากปากต่อปากที่มหาศาล ช่องทางแนะนำ คือ Facebook Group, TikTok, ป้ายตลาด/หน้าร้านขายส่ง,อีเวนต์ฝึกอาชีพ/แจกแพ็กเกจเริ่มต้น
- แรงงานต่างด้าว “นักสู้แดนไกล” – มากกว่า 10 ล้านคน ผู้ที่เดินทางมาทำงานและกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจไทย กลุ่มนี้ไม่ได้แค่ทำงาน แต่ใช้จ่าย กิน เที่ยว และสร้างชุมชน ต้องการสื่อสารผ่านภาษาของเขา และช่องทางที่พวกเขาใช้จริง ช่องทางแนะนำ คือ Facebook ภาษาถิ่น, YouTube, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/Transit/โชวห่วย/CVS) ป้ายที่พัก/นิคมฯ/โรงงาน, บูธแจกซิม/สินค้าตัวอย่าง
- นักท่องเที่ยวต่างชาติ “สายเที่ยวสายเปย์”– เป้าหมาย 36–39 ล้านคน กลุ่มที่เดินทางเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ พร้อมใช้จ่ายกับสิ่งที่แตกต่าง คุ้มค่า และสร้างความประทับใจ ให้ความสำคัญกับความสะดวก ความต่างเฉพาะถิ่น และประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์ช่องทางแนะนำ คือ ป้ายสนามบิน/แลนด์มาร์ก/ แหล่งท่องเที่ยว, Travel Platform, รีวิว
ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากผ่านไตรมาสแรกของปี 2568 แนวโน้มอุตสาหกรรมโฆษณา-การตลาดโตไม่แรง แต่ยังเดินหน้า ด้านตัวเลขตลาดโฆษณาไทยคาดโต +2.2% มูลค่ารวมประมาณ 87,666 ล้านบาท (ปรับลดจากคาดการณ์เดิม +4.5% ที่ 92,048 ล้านบาทเมื่อต้นปี)
ขณะที่สื่อดิจิทัลยังเติบโตที่ +10% โดยเริ่มแสดงสัญญาณแข่งขันรุนแรงหรือที่เรียกว่า “สงครามแย่งความสนใจ” (Attention War) โดยมี KOLs/Influencers กว่า 3 ล้านรายยังครองเม็ดเงินกว่า 60% ของดิจิทัล
นอกจากนี้ยังมี “สัญญาณบวก” จากในหลายภาคส่วน อาทิ ปรากฏการณ์เศรษฐกิจที่สะท้อนพลังฟื้นตัวของไตรมาสแรกของปี 2568 ได้แก่ มหกรรม Motor Show 2025 ที่ทะลุยอดจองรถรอบหลายปีสะท้อนความเชื่อมั่นผู้บริโภค กำลังซื้อและศักยภาพในการจับจ่าย
มหกรรมสงกรานต์ระดับโลก Maha Songkran Festival 2025 ที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.1 ล้านคน สร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 4,097.17 ล้านบาท ตอกย้ำศักยภาพ Soft Power ไทย ดันสงกรานต์สู่เทศกาลระดับโลกท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวแรงต่อเนื่อง ต่อเนื่องด้วยการประกาศให้ปีนี้เป็น Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 จากรัฐบาล จัดอีเวนต์ต่อเนื่องมีนาคม–กันยายน เจาะช่วงโลว์ซีซัน ช่วยผลักดันไทยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าใกล้เป้าหมายที่ 39 ล้านคน
"บทเรียนสำคัญคือ ดิจิทัลเพียงอย่างเดียวไม่พอ นักการตลาดต้องวางแผนการใช้สื่อผสมผสานกันอย่างชาญฉลาด เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์แบรนด์ที่ต่อเนื่องและทรงพลัง" ภวัต กล่าว
นักการตลาดปีนี้อย่ามองกลุ่มเป้าหมายเป็นเพียง “ตัวเลข” แต่ต้องเข้าใจชีวิต ความหวัง ความท้าทาย และแรงผลักดันของพวกเขาอย่างแท้จริง การตลาดที่จริงใจและเข้าใจคนอย่างแท้จริงจะไม่เพียงสร้างยอดขายได้อย่างมหัศจรรย์ แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ผู้เล่นที่เข้าใจ “คน” ไม่ใช่แค่ “ข้อมูล” มองลึกกว่าตัวเลข ใช้สื่ออย่างแม่นยำ และกล้าวางเกมที่ต่าง คือผู้ที่คว้าโอกาสท่ามกลางความไม่แน่นอน
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -