นวัตกรรมแผ่นสมุนไพรประคบ "ทุ่งทรายทอง"

“การพัฒนาต่อยอด เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์” คงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกธุรกิจพึงมี เพื่อให้ธุรกิจนั้นสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกช่วงเวลาที่โลกหมุน

อย่างที่เห็นได้ชัดเจนเรื่องหนึ่งคือ “พฤติกรรมของผู้บริโภค” ที่ปัจจุบันจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่บ่งบอกความเป็นตนเองสูง และไม่ค่อยยึดติดในแบรนด์ พร้อมเปิดโอกาสทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

ที่สำคัญต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย สะดวก ไม่มีขั้นตอนที่เยอะ เนื่องด้วยการใช้ชีวิตในแต่ละวันของคนรุ่นใหม่ ต่างต้องใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่า

Business On My Way สัปดาห์นี้ขอนำเสนอเรื่องราวของแบรนด์ผลิตภัณฑ์แบรนด์หนึ่ง ที่ทำผลิตภัณฑ์ที่ดูแสนจะธรรมดา ให้ดูทันสมัย ใช้งานง่าย กับผลิตภัณฑ์แผ่นสมุนไพรประคบร้อน “ทุ่งทรายทอง” ของดีจากเมืองพิจิตร

หลายคนคงติดภาพในความคิดว่าผลิตภัณฑ์คงเป็นแบบลูกกลมๆ มีสมุนไพรมัดตรงกลาง หรือที่เรียกกันว่าลูกประคบ จะใช้ก็ต้องนำไปนึ่งให้ร้อนและนำมาใช้งาน

แต่งานนี้ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแผ่นประคบทุ่งทรายทอง มาในรูปแบบใหม่ เป็นแผ่นประคบตามส่วนต่างๆของร่างกาย เพียงเปิดไมโครเวฟนำแผ่นประคบใส่ไป ตั้งเวลา 2 นาที จากนั้นก็นำออกมาใช้งานได้ อะไรจะว้าว!!! ได้ขนาดนี้

“คุณป้อ” (จารุวัฒน์ เกิดแก้วณรงค์) หนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมพัฒนาแบรนด์ทุ่งทรายทอง เล่าว่า แผ่นสมุนไพรประคบร้อนทุ่งทรายทอง เป็นผลงานที่พัฒนาโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสมุนไพรไทยทุ่งทรายทอง ต.หนองพยอม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร โดยเป็นการรวมตัวของชาวบ้านในพื้นที่เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรลูกประคบออกจำหน่าย

ซึ่งเหตุที่เลือกทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรลูกประคบ เพราะพื้นที่แห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องนี้ เป็นภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดกันมา

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯแห่งนี้ ได้รวมตัวกันเมื่อปี 2543 เกิดจาก “คุณสมนึก จันทร์จร” และ “คุณพนารัตน์ กิตติกูล” เป็นผู้ก่อตั้งและหากลุ่มชาวบ้านมาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยปัจจุบันแผ่นสมุนไพรประคบร้อน “ทุ่งทรายทอง” ได้รางวัล “OTOP” ระดับ 5 ดาว และได้รับคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ “โอทอป ขึ้นเครื่อง” โดยจำหน่ายบนเครื่องบินการบินไทย

คุณป้อ เล่าว่า หลังจากได้มีโอกาสมาช่วยงานพัฒนาแบรนด์ทุ่งทรายทอง โดยรับหน้าที่ด้านฝ่ายการตลาดและการขาย ก็มีการพูดคุยปรึกษากันว่าเราควรจะพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์มีรูปแบบที่ทันสมัย ใช้งานง่าย เพราะจะได้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขึ้น กระทั่งได้พัฒนาเป็นแผ่นประคบ โดยตัดเย็บผ้าคอตตอนที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและเก็บความร้อน ห่อหุ้มตัวสมุนไพรไว้ด้านใน ซึ่งใช้เวลาพัฒนาอยู่ 4 ปี จึงออกมาจำหน่าย

“ปัจจุบันแบรนด์ทุ่งทรายทองมีผลิตภัณฑ์ทั้งแผ่นประคบร้อนที่มีให้เลือกใช้งานได้บริเวณจุดต่างๆทั้งหลัง บ่า ไหล่ ท้อง เข่า เอว น่อง ถุงมือ รองเท้า และล่าสุดออกแผ่นประคบท้ายทอย ซึ่งในอนาคตก็จะพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายมากขึ้น”

นอกจากนี้ ตัวแผ่นประคบแล้ว ก็มีผลิตภัณฑ์อย่างสมุนไพรไว้สำหรับอบตัว รวมถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพรไว้ให้เลือกซื้อใช้อีกด้วย โดยราคาแผ่นประคบเริ่มต้นที่ 790-1,490 บาท

ส่วนด้านแผนการตลาด คุณป้อ เล่าว่า ปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ลักษณะเดียวกันออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก โดยจะแข่งตัดราคาขายกัน ซึ่งบางครั้งผู้บริโภคซื้อแบรนด์อื่นที่ถูกกว่าไปใช้ แล้วผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ เข้าก็จะเหมารวมว่าผลิตภัณฑ์แผ่นประคบแบบนี้ซื้อไปใช้ไม่ได้ผล

“ด้วยความที่ทุ่งทรายทองทำแผ่นประคบเป็นเจ้าแรกของเมืองไทย เราจึงให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างมาก ซึ่งราคาอาจจะสูงกว่าเจ้าอื่น แต่การันตีว่าใช้แล้วไม่ผิดหวัง คุ้มค่าเงินที่จ่าย”

นอกจากนี้ ในด้านตัวสมุนไพร ทางกลุ่มก็คัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ โดยมีทั้งที่ปลูกเอง และรับซื้อจากแหล่งที่ปลูกในพื้นที่ อย่างตัวสมุนไพรไพลที่ใช้ก็ต้องมีอายุ 2 ปี ถึงจะนำมาแปรรูปใช้งานได้

คุณป้อ เล่าว่า ปัจจุบันแผ่นประคบได้รับความนิยมมากในกลุ่มผู้บริโภคที่ชอบใช้บริการร้านนวด ร้านสปา ซึ่งกลุ่มหลักตอนนี้เป็นชาวต่างชาติ 70% และคนไทย 30% รวมถึงมีกลุ่มคนไทยที่ไปเปิดร้านนวดที่ต่างประเทศ อาทิ เยอรมนี ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ประเทศโซนตะวันออกกลาง สั่งไปใช้และจำหน่าย ทั้งนี้ ทางกลุ่มยังมีรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ให้กับแบรนด์อื่นๆด้วย

ใครที่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอยู่บ่อยครั้ง ก็สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของไทยกันได้ เพจเฟซบุ๊ก : สมุนไพรทุ่งทรายทอง thungsaithong หรือแวะไปซื้อที่หน้าร้าน ที่เจเจมอลล์ ชั้น G ห้อง G216 ก็ได้นะ...