
เหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาที่ส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพมหานคร ได้ทำให้คำว่า "ตึกสั่น" กลายเป็นประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจอย่างมาก ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของอาคารสูงในเมืองหลวง และท่ามกลางความวิตกกังวลนี้ มีชื่อหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงในโลกออนไลน์ในแง่บวกอย่างกว้างขวาง นั่นคือ "ฤทธา" บริษัทรับเหมาก่อสร้างเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่มีอาคารยืนหยัดอย่างมั่นคงแม้จะเผชิญกับแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่
บริษัทแห่งนี้ก่อตั้งโดย “สุวัฒน์ เชาว์ปรีชา” วิศวกรผู้ยึดมั่นในหลักการว่า "คุณภาพต้องมาก่อนกำไรสูงสุด" ฤทธาได้เติบโตจากบริษัทเล็กๆ จนกลายเป็นผู้นำในวงการก่อสร้างไทย ด้วยมาตรฐานงานระดับสูงและการยึดมั่นในหลักการที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
โดยปัจจุบันมีมูลค่างานก่อสร้างต่อปีมากกว่าหมื่นล้าน วิศวกรหลายร้อยคน รวมถึงคนงานกว่าหมื่นชีวิต ตอกย้ำความเป็นบริษัทก่อสร้างเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศที่มีเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือ และยังเป็นบริษัทที่ยังไม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คุณสุวัฒน์เป็นชาวนครสวรรค์ เติบโตในครอบครัวที่มีธุรกิจเดินเรือชื่อ "ส.ฤทธา" ให้บริการรับส่งผู้โดยสารและสินค้าในแม่น้ำเจ้าพระยา หลังสำเร็จการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาวิศวกรรมโยธา ในปี 2510 เขาเริ่มต้นอาชีพที่กรมทางหลวงเพียงหนึ่งปี ก่อนจะผันตัวสู่ภาคเอกชน
ตลอดเวลากว่า 20 ปีในฐานะลูกจ้าง คุณสุวัฒน์สั่งสมประสบการณ์ทำงานกับบริษัทชั้นนำทั้งของไทย ญี่ปุ่น และอเมริกัน รับผิดชอบโครงการสำคัญๆ มากมาย โดยเฉพาะโครงการอุโมงค์ส่งน้ำประปาของการประปานครหลวงเฟสแรก ความยาวกว่า 10 กิโลเมตร ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดเมื่อเกิดอุบัติเหตุดินพังน้ำไหลบ่าเข้าอุโมงค์
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อสุวัฒน์อายุ 40 ปี แม้จะมีตำแหน่งมั่นคงและเงินเดือนนับแสน แต่เขาตัดสินใจลาออกเพื่อก่อตั้งบริษัทของตัวเอง โดยชักชวนวิศวกรรุ่นน้องอีก 2 คน ร่วมกันก่อตั้งบริษัท ฤทธา ด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท โดยนำชื่อเรือของพ่อ "ส.ฤทธา" มาตั้งเป็นชื่อบริษัทเพื่อความเป็นสิริมงคล คำว่า "ฤทธา" ในภาษาสันสกฤต หมายถึงความสำเร็จ
"ฤทธาต้องทำตัวเป็นผู้ให้บริการงานวิศวกรรมด้านก่อสร้าง ไม่ใช่ผู้รับเหมา คือคุณภาพต้องมาก่อน ไม่ใช่คำนึงแต่กำไรสูงสุด" คุณสุวัฒน์ย้ำกับทีมงานเสมอ
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ บริษัทของคุณสุวัฒน์เติบโตอย่างมั่นคง จนเป็นที่รู้จักจากการสร้างอาคารคุณภาพสูงทั่วประเทศ ปัจจุบันฤทธามีวิศวกรราว 700 คน และคนงานกว่าหมื่นคน สร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 15,000 ล้านบาท
ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับฤทธาส่วนใหญ่เป็นอาคารระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นตึกสูง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ คอนโดมิเนียมหรู อาคารที่อยู่อาศัย และโรงพยาบาล หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือลูกโลกยักษ์วัดพระธรรมกาย
"เงินไม่ใช่กุญแจสู่ความสำเร็จ แต่เงินเอาไว้ซื้อกุญแจได้" คำพูดอันคมคายนี้สะท้อนปรัชญาชีวิตของสุวัฒน์ได้อย่างชัดเจน
เขาเชื่อว่าการประสบความสำเร็จในอาชีพวิศวกรไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทอง แต่อยู่ที่การยึดมั่นในจรรยาบรรณและความรับผิดชอบต่อสังคม
"ผมถือหลักคนมีส่วนร่วมต้องมีส่วนได้ และเป็นส่วนได้ที่เป็นธรรม ไม่ใช่เราคิดคนเดียวนะ ต้องให้วิญญูชนคิดว่าเป็นธรรมด้วย"
ความสำเร็จของฤทธาไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่มาจากหลักการบริหารที่รอบคอบของสุวัฒน์ เขาตั้งกฎเหล็กในช่วง 10 ปีแรกของบริษัทว่าจะไม่มีการถอนเงินทุนออกมาใช้หรือจ่ายเงินปันผล ทำให้บริษัทมีเงินสำรองมหาศาล และสามารถผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 มาได้โดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
"ตั้งบริษัทมา 30 ปี ฤทธาไม่เคยผิดนัดเรื่องการเงินแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยจ่ายเช็คเด้งแม้แต่ใบเดียว" คุณสุวัฒน์ภูมิใจที่พูด แนวทางนี้ทำให้ฤทธาเป็นที่เชื่อถือของทั้งลูกค้า พนักงาน และคู่ค้า
อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ : พรุ่งนี้หมดลมหายใจ ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง เจ้าพ่อก่อสร้าง ฤทธา ย้ำเงินไม่ใช่สาระของชีวิต
วิสัยทัศน์ของฤทธาคือการเป็นผู้นำด้านวิศวกรรม ออกแบบ และก่อสร้างแบบครบวงจรในระดับภูมิภาค โดยมีความยืดหยุ่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง พันธกิจของบริษัทมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความยั่งยืนสำหรับองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
ค่านิยมหลักของฤทธาสะท้อนอยู่ในชื่อย่อ "RITTA" ซึ่งประกอบด้วย:
ปัจจุบัน ฤทธามีมูลค่างานก่อสร้างต่อปีโดยประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากรายได้ 7,068 ล้านบาทในปี 2564 เพิ่มเป็น 9,929 ล้านบาทในปี 2565 และ 11,283 ล้านบาทในปี 2566 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและการยอมรับจากตลาด
บริษัทได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เช่น ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ และธนาคารไทยพาณิชย์ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความมั่นคงทางการเงินและการบริหารงานของบริษัท
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมียนมา ที่ส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ อาคารสำนักงาน สตง. 30 ชั้นที่อยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่มลงมา คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาคารสูงทั่วกรุงเทพฯ
ในขณะเดียวกัน อาคารที่ก่อสร้างโดยบริษัทฤทธา สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้เกิดกระแสชื่นชมในโซเชียลมีเดียถึงมาตรฐานการก่อสร้างของบริษัท สะท้อนถึงปรัชญาการทำงานของคุณสุวัฒน์ที่เน้นคุณภาพและความปลอดภัยมาตลอด