ผลพวงจากการระบาดของ โควิด-19 ทำให้ผู้คนทั้งโลกตื่นตัวเรื่องสุขภาพกันอย่างคึกคักมาถึงปัจจุบัน โดยผู้คนให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีและการดูแลสุขภาพองค์รวม ทั้งร่างกาย, จิตใจ และจิต วิญญาณ จนเกิดเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ “Trawellness” ออกเดินทางท่องเที่ยวไปพบเจอโลกกว้าง เพื่อฮีลใจตัวเองและซื้อสุขภาพไปพร้อมๆกัน

จากการสำรวจของสถาบันเวลเนสโลก (GWI) พบว่า ขนาดตลาดของอุตสาหกรรมเวลเนส เมื่อปี 2024 มีมูลค่าทั้งโลกอยู่ที่ 6.3 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2023 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2028 โดยจะโตเฉลี่ย 7.3% ทุกปี ซึ่งสาขาอันดับหนึ่งที่จะเติบโตสูง 15.8% ทุกปี คือ “Wellness Real Estate” คนอยากอยู่ในที่อยู่อาศัยที่ทำให้มีสุขภาพดี มากกว่าจะอยู่ในสถานที่โก้หรู รองลงมา คือ “Mental Wellness” มีแนวโน้มจะเติบโต 12.2% ทุกปี ทำยังไงให้นอนหลับดีและมีสุขภาพใจที่เป็นสุข และ “Wellness Tourism” คาดว่าจะเติบโต 10.2% ทุกปี

“Wellness Tourism” ใช่เลย คือพระเอกสำคัญของประเทศ ไทย ที่จะช่วยผลักดันให้เมืองไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเวลเนสระดับโลก “Global Wellness Hub” ได้สำเร็จ หลายๆประเทศกำลังแข่งกันรวยสุขภาพ และลงทุนกับสุขภาพ เพื่อสร้าง “Health span” ช่วงเวลาที่มีคุณภาพชีวิตดี สุขภาพแข็งแรง, ไม่มีโรคเรื้อรัง และความพิการ มากกว่าจะโฟกัสที่อายุขัย “Life span” เหมือนในอดีตที่ผ่านมา

...

ถามว่านักท่องเที่ยวยุคนี้กำลังมองหาอะไรบ้าง “TAT Academy” ชี้ว่า ผู้คนทั่วโลกกำลังมองหาทริปท่องเที่ยว ที่จะทำให้พวกเขาได้พักผ่อนหย่อนใจไปพร้อมๆกับการดูแลรักษาสุขภาพของตนเองทั้งกายใจ และนี่คือที่มาของเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ “Trawellness”

สิ่งที่นักท่องเที่ยวยุคใหม่มองหาคือ “เมืองแห่งอนาคต” (Well-topia) ที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้คน โดยหยิบหลักการ “บลูโซน” (Blue Zone) พื้นที่ที่มีประชากรอายุยืนยาวและสุขภาพดี มาใช้สร้างคอมมูนิตี้ดึงดูดนักเดินทาง เช่น การออกแบบพื้นที่ให้สะดวกต่อการใช้ชีวิต, มีบรรยากาศผ่อนคลาย, ลดความเครียด และเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสุขภาวะได้อย่างทั่วถึง

หลังเกิดวิกฤติโควิด-19 นักท่องเที่ยว ยุคใหม่ โดยเฉพาะเจน Z และเจน Y ใช้เวลาไปกับการทำกิจกรรมเพื่อคลายเครียดเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาชื่นชอบคอนเซปต์ “เมืองฮีลใจ” (Refueling Trawellness) ชวนออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพบเจอโลกกว้าง ไปพร้อมๆกับการได้ฮีลใจ ใครอยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ควรจัดหาสินค้าและบริการที่จะมาช่วยตอบโจทย์ด้านการดูแลสุขภาพจิตของนักท่องเที่ยว เช่น “Sleep Therapy” ที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพ การนอนหลับให้นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการสร้างบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวให้ปลอดโปร่งไม่อุดอู้

ในยุคแห่งความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางเพศ, เชื้อชาติ, ศาสนา, สีผิว และความพิการ ผู้คนต่างแสวงหาพื้นที่ที่พวกเขาจะสามารถแสดง ออกถึงความเป็นตัวเองได้อย่าง อิสระ “การสร้างพื้นที่แห่งตัวตน” (Seen Space) เพื่อให้นักท่องเที่ยวยุคใหม่ได้รับการมองเห็น ให้สังคมรับรู้และเข้าใจถึงตัวตนของพวกเขา ก็เป็นอีกเทรนด์ที่มาแรง เช่น การจัดงาน Pride Month ช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศให้มารวมตัวกันแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

ผู้คนยุคนี้เบื่อความซ้ำซากจำเจ ฉะนั้นเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวยุคใหม่จะต้องเป็น “เมืองที่ไม่มีวันหลับใหล” (Metamorphic Cities) นอกจากจะโอบรับความหลากหลายของผู้คนแล้ว ยังต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดนิ่งด้วย เช่น การออกแบบพื้นที่สาธารณะให้มีความสว่างและมีชีวิตชีวาในตอนกลางคืนเพื่อความปลอดภัย.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

...