แอปเปิล กำลังก้าวไปอีกขั้นสู่เป้าหมายในการสร้างแผนที่ที่ดีที่สุดในโลก ด้วยการเปิดตัว Apple Maps เวอร์ชันใหม่ที่เปิดให้ใช้งานเมื่อวันศุกร์ที่ 9 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา ไม่เพียงแม่นยำขึ้น แต่ยังแสดงถึงความพยายามเข้าใจพื้นที่และผู้ใช้อย่างลึกซึ้ง ผ่านรายละเอียดเชิงเทคนิคที่ผสานกับบริบททางวัฒนธรรมอย่างแนบเนียน

Apple Maps ปัจจุบันพร้อมใช้งานแล้วในกว่า 200 ประเทศและรองรับทุกแพลตฟอร์มตั้งแต่ iPhone, iPad, Mac, Apple Watch ไปจนถึง CarPlay ที่ให้ประสบการณ์นำทางอัจฉริยะภายในรถยนต์ และใช้งานแบบออฟไลน์ได้

สำหรับเวอร์ชันใหม่นี้ แอปเปิลได้เลือกประเทศไทยให้เป็นหนึ่งใน 30 ประเทศแรกของโลก ที่ได้รับการอัปเกรด ด้วยแผนที่ที่แม่นยำขึ้น เร็วขึ้น และมีรายละเอียดที่ลึกกว่าเดิม เช่น แบบจำลองอาคาร 3 มิติของแลนด์มาร์กชื่อดัง เส้นทางเดินเท้าแบบ AR ฟีเจอร์นำทางด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติ และการแสดงชื่อแยกจริงที่คนไทยคุ้นเคย

เบื้องหลังแผนที่ใหม่นี้ คือความมุ่งมั่นของแอปเปิล ที่เก็บข้อมูลเชิงลึกด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นกล้องสำรวจ รถและเครื่องบินติดตั้งเซ็นเซอร์ LiDAR หรือแม้แต่อุปกรณ์พกพาที่สแกนพื้นที่เข้าถึงยากอย่างทางเท้าและตรอกซอกซอย ก่อนจะนำข้อมูลทั้งหมดมาสร้างแผนที่ “จากศูนย์” ให้ตรงกับโลกจริงมากที่สุด

...

สิ่งที่เปลี่ยนไปจึงไม่ใช่แค่หน้าตาของแผนที่ แต่คือแนวคิดใหม่ที่มองว่า ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Geospatial Data) ไม่ได้มีไว้เพื่อนำทางเท่านั้น แต่เป็นหัวใจของการเชื่อมต่อประสบการณ์ผู้ใช้ในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การค้นหาสถานที่ และการให้บริการผ่านอุปกรณ์ของ
แอปเปิล ทุกรูปแบบ

ฟีเจอร์อย่าง Named Intersections เช่น ระบุ “แยกราชประสงค์” แทนจุดอ้างอิงด้วยระยะทาง หรือ Siri Natural Language Guidance เช่น “ที่ไฟแดงถัดไปให้เลี้ยวซ้าย” แทน “เลี้ยวในอีก 100 เมตร” ที่ไม่เพียงแค่แข่งความแม่นยำ แต่กำลัง
แข่งขันด้วยความเข้าใจบริบท ซึ่งเป็นสิ่งที่แผนที่ยุคใหม่ต้องมี

ขณะเดียวกันแอปเปิลยังเปิดแพลตฟอร์ม Business Connect ให้เจ้าของกิจการในไทยจัดการข้อมูลร้านค้าของตนเองได้อย่างปลอดภัย พร้อมระบบข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว เพราะใช้ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้จาก iPhone และข้อมูลจากพันธมิตรในท้องถิ่น

แม้ฟีเจอร์บางอย่างอย่าง Look Around หรือ Indoor Navigation ยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่แผนที่เวอร์ชันใหม่นี้ก็ถือเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคต จึงไม่ใช่แค่แอปอีกหนึ่งตัวบนสมาร์ทโฟน แต่กำลังกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่เข้าใจเมือง เข้าใจผู้คน และ เข้าใจโลกจริงมากกว่าที่เคย

บทสรุป Apple Maps เวอร์ชันใหม่มาพร้อมชุดฟีเจอร์ที่ช่วยให้การเดินทางแม่นยำ ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติมากขึ้น รองรับทั้งการขับรถ เดินเท้า ปั่นจักรยาน และโดยสารขนส่งสาธารณะ

แสดงผลแบบจำลองสามมิติของสถานที่สำคัญ 40 จุด เช่น วัดอรุณราชวราราม, พระบรมมหาราชวัง, สนามกอล์ฟ, หาดพัทยา และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ช่วยให้ผู้ใช้จดจำพื้นที่จริงได้ดีขึ้น และวางแผนเดินทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์นำทางอัจฉริยะที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ภาษาธรรมชาติจาก Siri, แนะนำเลนล่วงหน้า บอกล่วงหน้าว่าควรอยู่เลนไหนก่อนถึงจุดเลี้ยวหรือทางแยก เตือนกล้องและจำกัดความเร็วแสดงจุดกล้องตรวจจับ พร้อมข้อมูลความเร็วของถนนแต่ละเส้น, แผนที่หลายจุดแวะ (สูงสุด 15 แห่ง) วางแผนล่วงหน้าได้เต็มรูปแบบ ซิงก์เส้นทางระหว่าง Mac, iPad และ iPhone

แชร์เวลาถึงปลายทาง (ETA) ส่ง ETA แบบเรียล ไทม์ให้คนใกล้ตัว พร้อมอัปเดตอัตโนมัติหากมีเหตุล่าช้า, รายงานเหตุการณ์ด้วยเสียง แจ้ง Siri ได้ทันที เช่น มีอุบัติเหตุข้างหน้า โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน

ระบบขนส่งสาธารณะรถไฟฟ้าทุกแพลตฟอร์มและรถเมล์ดูสถานีใกล้เคียง ปักหมุดสายที่ใช้บ่อย และรับการแจ้งเตือนเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย, เส้นทางจักรยานอัจฉริยะ แสดงความชัน ถนนที่เป็นมิตรกับจักรยานและเส้นทางที่หลีกเลี่ยงเนินได้

ระบบนำทางแบบ AR สำหรับคนเดินเท้า แค่ยก iPhone ขึ้นระบบจะแสดงลูกศรนำทางเสมือนจริงบนโลกจริง และรายการโปรด (Favorites) เพียงแตะครั้งเดียวเพื่อไปยังที่บ้าน ที่ทำงาน ยิม หรือจุดประจำได้ทันที

ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังเปลี่ยนการเดินทางให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ลื่นไหล เชื่อถือได้ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น นี่ไม่ใช่แค่การอัปเกรดเทคโนโลยี แต่คือการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ของการเดินทางที่ออกแบบมาในแบบที่เข้าใจถนน เข้าใจเมืองและเข้าใจผู้ใช้.

...

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม