เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนทุกทวีปยังรวมเข้าด้วยกันเป็นมหาทวีปที่รู้จักกันในชื่อแพนเจีย (Pangaea) แต่เมื่อเวลาผ่านไป แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนตัว ผืนแผ่นดินของแพนเจียก็เริ่มแตกออกเป็นทวีปกอนด์วานา (Gondwana) และทวีปลอเรเซีย (Laurasia) จนเมื่อ 180 ล้านปีก่อน ทวีปขนาดใหญ่ทั้ง 2 ก็เริ่มแยกออกจากกัน กอนด์วานาแตกเป็นเสี่ยงๆ และต่อมาก็ก่อตัวเป็นทวีปหลักในซีกโลกใต้ ตลอดจนอินเดียแม้ว่าทวีปใหม่จะค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากกันอย่างช้าๆ แต่สายพันธุ์ต่างๆก็ยังคงเคลื่อนที่ไปมาระหว่างทวีปได้ ทำให้นักวิจัยบางรายนำเสนอว่าพวกสัตว์ประจำแต่ละทวีปน่าจะยังคงเหมือนเดิมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสัตว์กลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในกอนด์วานาในเวลานั้นคือไดโนเสาร์ชนิดอะเบลิซอริด (Abelisaurid) เป็นกลุ่มของเธอโรพอด นักล่าตัวฉกาจที่อาจกินไดโนเสาร์ตัวใหญ่อย่างไททันโนซอรัสได้ ทั้งนี้ อาร์เจนตินาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลของอะเบลิซอริดหลายชนิด ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในลอนดอน ในอังกฤษ เผยการค้นพบกะโหลกไดโนเสาร์ที่สภาพไม่สมบูรณ์นักในแหล่งธรณีวิทยา Los Blanquitos ทางตอนเหนือของอาร์เจนตินา โดยระบุว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ของอะเบลิซอริด ถูกตั้งชื่อว่า Guemesia ochoai ไดโนเสาร์ชนิดกินเนื้อตัวนี้มีศีรษะเล็กและมือแขนเล็กจิ๋วจนเหมือนจะไม่มีแถมยังดูไร้ประโยชน์ด้วยซ้ำ มันอาศัยอยู่บนโลกเมื่อประมาณ 70 ล้านปีก่อนไดโนเสาร์ตัวใหม่ที่ค่อนข้างผิดปกติตัวนี้ ชี้ว่าไดโนเสาร์ที่อาศัยอยู่ในดินแดนทางตอนเหนือของอาร์เจนตินาในอดีตค่อนข้างแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆในอาร์เจนตินา ทำให้สนับสนุนแนวคิดที่ว่าภูมิภาคในยุคครีเตเชียสของอเมริกาใต้มีความแตกต่างกัน.