แอ๊บแบ๊วหรือเปล่า คนอะไรยิ้มได้ตลอดเวลา สารพัดจะเม้าท์กันไป แต่ถ้าใครได้สัมผัสตัวตนของ “หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธุ์” เจ้าแม่บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ผู้สร้างปรากฏการณ์ “บุพเพสันนิวาส” จนฮิตฮอตสนั่นเมือง จะต้องเปลี่ยนใจมาหลงรักเจ้าของรอยยิ้มพิมพ์ใจ เพราะเธอคือ “แม่พลอยตัวจริงเสียงจริง” ผู้มีธรรมะเต็มเปี่ยมในหัวใจ“หน่องเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ทำงานอยู่ช่อง 3 มานาน ก็ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับใคร ปัญหาอย่างเดียวคือเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส จำได้ว่าครั้งหนึ่งเป็นผู้กำกับเวทีให้วงแกรนด์เอ็กซ์ “พี่แจ้ ดนุพล” เข้ามาถามว่าไม่สบายหรือเปล่าครับ ทำไมต้องยิ้มตลอดเวลา จนหน่องชักไม่กล้ายิ้ม ขนาดตอนดุลูกน้อง ยังโดนถามว่าอ้าวนี่พี่ดุหนูแล้วเหรอ คือธรรมชาติของหน่องเป็นแบบนี้จริงๆ เราพูดดุว่าคนแรงๆไม่เป็น และไม่เคยพูดคำหยาบ เป็นคนขี้เกรงใจคนมากจนถูกโกรธ ยอมรับว่ามากไปนิดหนึ่ง” เจ้าแม่บรอดคาซท์ตอบขาเม้าท์ด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ “คุณหน่อง” โตมาแบบไหน ทำไมยิ้มหวานได้ตลอดเวลาเหมือนแม่พลอยต้องขอบคุณท่านแม่ (“หม่อมเจ้าอรุณแสงไข ภาณุพันธุ์” ต้นราชสกุลคือ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เป็นพระเจ้าน้องยาเธอของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5) ที่เลี้ยงให้ติดดิน ทำให้รู้สึกเป็นคนธรรมดาๆ ไม่เคยเอายศท่านแม่ไปเอ่ยอ้าง เพื่อนๆก็ไม่ทราบว่าหน่องเป็นลูกหม่อมเจ้า แต่หน่องมาถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะท่านแม่ หน่องได้เห็นความเพียรของท่านแม่ตั้งแต่เด็ก ท่านแม่มีศรัทธาในพุทธศาสนามาก คัดลอกพระไตรปิฎกจากใบลานลงสมุดขนาดใหญ่ด้วยลายมือทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ รวมเวลาตรวจทานและซ่อมน้ำหมึกทั้งหมดเป็น 13 ปี วันที่ท่านแม่สิ้น หน่องนำพระไตรปิฎกฉบับลายมือบางส่วนของท่านแม่มาพิมพ์เป็นหนังสือแจก ซึ่งน่าจะเป็นชิ้นเดียวในโลก ท่านแม่เป็นตัวอย่างการใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีธรรมะในหัวใจ ท่านแม่บอกเสมอว่าการทำบาปแม้เล็กน้อยก็เหมือนไฟ ไฟน้อยนิดถ้าโดนเรา เราก็ต้องเจ็บ ฉะนั้น บาปเล็กน้อยแค่ไหนหน่องก็ไม่ควรทำ หน่องเชื่อว่าธรรมะเป็นสิ่งที่ทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยรอยยิ้ม เราห้ามปัญหาไม่ได้ จึงต้องดูที่ใจของเราเอง เหมือนตอนเกิดไฟไหม้ที่ออฟฟิศ รู้เลยว่าธรรมะช่วยได้ทันที นึกถึงคำท่านแม่เลยที่สอนว่า “สมบัติคู่กับวิบัติ” อะไรมาได้ก็จากเราไปได้ อย่าไปยึดมั่นถือมั่น ทำให้มีสติ ข้ามตกใจไปเลย ธรรมะของแม่คือสิ่งที่เรายึดถือตลอด และใช้ธรรมะในการดำเนินชีวิต อย่างตอนเกิดโควิด-19 ก็ใช้เวลา 3 เดือน ชวนพนักงานมาทำเฟซชิลด์ให้บุคลากรทางการแพทย์ แทนที่จะคิดมาก ลูกหม่อมเจ้าจับพลัดจับผลูเข้าวงการละครได้อย่างไรความที่หน่องเป็นลูกคนเดียว ท่านแม่ให้อิสระทุกอย่าง ตั้งแต่เด็กชอบดูทีวีดูภาพยนตร์ และอ่านนิยาย ตอนเอนทรานซ์จึงเลือกคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ทั้งๆที่ตอนนั้นแทบไม่มีใครรู้จักคณะนี้ แต่ท่านแม่สนับสนุนทุกอย่าง หน่องเลือกเรียนเอกวิทยุ-โทรทัศน์ เป็นรุ่นแรกๆที่เข้ามาทำงานกับช่อง 3 ตอนนั้น เพิ่งเปิดห้องส่งใหม่ และอยู่ในช่วงเริ่มทำละครแนวใหม่โดยไม่บอกบท ให้นักแสดงจำบทและเล่นตามคิวผู้กำกับ หน่องอยู่ในยุคเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง หน่องยังเป็นผู้กำกับรายการโทรทัศน์ผู้หญิงคนแรกของช่อง 3 และประเทศไทย เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ ทำงานเบื้องหลังที่ทั้งอึดถึกทุยไหวเหรอคะสมัยนั้นลุยมากใส่กางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบทำงานเหมือนผู้ชาย ตลอดชีวิตการทำงานไม่เคยกลับบ้านก่อนพระอาทิตย์ตก หน่องทำมาหมดทุกอย่างแล้ว เคยเป็นผู้กำกับรายการ (โปรแกรมไดเรกเตอร์) ทั้งรายการข่าว, สารคดี, วาไรตี้, รายการเด็ก, ถ่ายทอดสด และละคร แต่ภูมิใจที่สุดคือได้ทำสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 60 พรรษา ในฐานะผู้กำกับรายการต้องควบคุมดูแลโปรดักชันทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องภาพ, ดูแลบท, การถ่ายทำ, การวางมุมกล้อง และตัดต่อ จนตอนหลังมาตั้งบริษัทบรอดคาซท์ จึงเริ่มเป็นผู้จัดละครเต็มตัว เวลาออกกองถ่ายละครต้องอยู่ง่ายกินง่าย ต้องดูแลคนทั้งกองถ่ายให้ได้โลดแล่นอยู่ในวงการจอแก้วมานาน อะไรทำให้ยืนหนึ่งไม่ถูกคลื่นลูกใหม่ซัดหายหน่องอยู่วงการนี้ 30 กว่าปี ตั้งแต่ยุคถ่ายทำในห้องส่ง จนเปลี่ยนมาถ่ายสถานที่จริงเน้นใกล้เคียงชีวิตจริงที่สุด กระทั่งถึงยุคละครเกาหลีมาแรง ทำให้ละครไทยต้องเร่งพัฒนาตัวเองทุกอย่าง ตั้งแต่การจัดแสง, เขียนบทละคร, โปรดักชัน และเสื้อผ้าหน้าผม เพราะเกาหลีทำได้มาตรฐานสูงมาก ขณะเดียวกันต้องพยายามทำละครให้ทันใจและทันไลฟ์สไตล์คนดูที่สุด ถ้าเราทำอะไรซ้ำเดิมเป็นสิ่งที่อันตรายมาก “บุพเพสันนิวาส” พลิกประวัติศาสตร์ วงการละครไทยขนาดไหนช่วงนั้นไม่ว่าเจอใครจะเข้ามากอดและจับมือ บอกหน่องว่าขอบคุณจริงๆที่ทำให้มีความ สุขลืมความทุกข์หมดเลย ความสำเร็จของ “บุพเพสันนิวาส” ตอกย้ำว่าถ้าละครดีจริงก็มีคนดู และเรื่องราวประวัติศาสตร์ทำให้สนุกได้ “บุพเพสันนิวาส” สามารถปลุกกระแสความเป็นไทย และโดนใจคนไทยหลายอย่าง ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์, การแต่งกาย, วัฒนธรรม และอาหารการกิน นอกจากนี้ยังได้องค์ประกอบครบถ้วน เราได้เรื่องที่ดีจากคุณรอมแพง ได้คนเขียนบทดีมากๆคือ “อาจารย์แดง” (ศัลยา สุขะนิวัตติ์) และนักแสดงที่เข้าคู่กันอย่าง “พี่หมื่นโป๊ป” กับ “เบลล่า” จึงทำเรตติ้งสูงถึง 18 ซึ่งสูงที่สุดในยุคทีวีดิจิทัล กระแสออเจ้าพลิกประวัติศาสตร์การทำละครของตัวเราเอง นอกจากผู้ชมชาวไทยแล้ว ยังสามารถดึงต่างชาติให้เข้ามาดู ทำให้คนที่ไม่ดูละครต้องหันมาดู ตอนทำสิ่งที่กังวลคือภาษาที่ใช้ในละครค่อนข้างยาก เพราะเป็นภาษาโบราณ และเป็นครั้งแรกในละครไทยที่นำเสนอประวัติศาสตร์ยุคสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แต่ผลลัพธ์กลับดีเกินคาด ละครเรื่องนี้ได้รับรางวัลกว่า 90 รางวัล ล่าสุดได้รางวัลละครต่างประเทศยอดเยี่ยมที่ญี่ปุ่น เรายังได้รางวัลจากทวิตเตอร์ มีการเห็นคำว่าบุพเพสันนิวาส และอะไรที่เกี่ยวกับละครเรื่องนี้ถึง 8,400 ล้านครั้ง ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ยังเป็นละครเรื่องแรกที่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ กระแส “ออเจ้า” ทำให้คนไทยทั้งประเทศลุกขึ้นมาแต่งชุดไทย ผ้าไทยขายหมดเกลี้ยง กุ้งเผาอยุธยายังขายดีถึงวันนี้ และที่น่าดีใจคือ จีดีพีของจังหวัดอยุธยาขยายตัวขึ้นไป 3-5% ขณะที่จีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้น 2% ภายในเวลาไม่กี่เดือน ถือเป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่ของวงการละครไทย ปีหน้า “ออเจ้าฟีเวอร์” จะกลับมาในเวอร์ชันภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส 2” เป็นโปรเจกต์ร่วมทุนระหว่างบรอดคาซท์กับค่ายหนัง “จีดีเอช” ก็หวังว่าจะสร้างความสุขให้คนไทยได้อีกครั้ง กดดันไหมจากความคาดหวังของแฟนๆละครการทำละครของหน่องจะเริ่มต้นใหม่ทุกเรื่อง เพราะองค์ประกอบไม่เหมือนกัน และแต่ละปีจะทำละครแนวไม่ซ้ำกันเลย เวลาทำละครไม่เคยหวังว่าจะต้องได้กำไรมาก่อน แต่คุณภาพต้องมาก่อน ทำให้ละครทุกเรื่องของบรอดคาซท์สร้างปรากฏการณ์ได้เสมอ ถามว่ากดดันไหมก็กดดัน เพราะตอนละครออนแอร์ เรตติ้งอยู่ที่ 3 กว่า เป็นช่วงที่ทีวีดิจิทัลมีพายุถาโถมโดนดิสรัปชัน แต่หลังจากนั้นเรตติ้งก็กระโดดไป 5, 7 และ 9 พออีกวันขึ้นไป 11 และ 14 พออีกวันกระโดดไป 15-16 ถึงตรงนี้กดดันมาก หน่องเชื่อว่าละครที่ดีเริ่มจากเรื่องต้องมีความโดดเด่นน่าสนใจ เมื่อได้เรื่องที่ชอบแล้ว ก็ต้องเลือกคนเขียนบทและผู้กำกับที่ดี แล้วค่อยคิดถึงนักแสดง สำหรับ “บุพเพสันนิวาส” มีองค์ประกอบครบทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องที่ดีมีรายละเอียดให้เล่นเยอะ คนเขียนบทสามารถแตกรายละเอียดเป็นละครได้สนุก โดยคุณรอมแพงใช้เวลาค้นหาข้อมูล 3 ปี เพื่อเขียนนิยาย เมื่อถึงมือ “อาจารย์แดง” ใช้เวลาอีก 2 ปี อ่านหนังสือเป็น 10 เล่ม เพื่อหาข้อมูลมาร้อยเรียงเป็นละคร อาจารย์แดงสามารถผสมตัวละครที่ไม่มีจริงทางประวัติศาสตร์เข้ากับตัวละครที่มีอยู่จริงให้กลมกลืนได้ มีเทคนิคการเล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย หรืออย่างการแคสติ้งนักแสดง เรื่องนี้เราจองตัว “โป๊ป” ล่วงหน้า 5 ปี เพราะเป็นคนที่คิดไว้ตั้งแต่แรก ส่วน “เบลล่า” ก็เล่นเก่งมาก ต้องถ่ายทอดเป็น 3 ตัวละคร อะไรคือซีเคร็ตซอสของการทำละครให้ปังทะลุจอหน่องเป็นคนสนุกกับงาน ไม่ว่าทำละครใหญ่เล็กก็ต้องพิถีพิถันอย่างดีที่สุด หัวใจสำคัญของการทำละครที่พูดเสมอคือ เราไม่สามารถทำละครที่ดีจากบทที่เลวได้ แต่เราสามารถทำละครเลวจากบทที่ดีได้ แปลว่าถ้าได้บทดีแล้ว ละครอาจยังไม่ดี ต้องดูโปรดักชัน, การถ่ายทำ และนักแสดงด้วย อย่างเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” มาจากชาวพันทิปโหวตว่าอยากให้นำมาทำเป็นละครมากที่สุด เราเลยติดต่อซื้อบทประพันธ์ทันที ถึงวันนี้ประสบความสำเร็จหรือยัง มีอะไรท้าทายรออยู่อีกไหมถามว่าประสบความสำเร็จหรือยัง หน่องไม่กล้าพูด และไม่เคยคิดว่างานชิ้นไหนของเราดีที่สุด แต่จะคิดเสมอว่าต้องพัฒนางานของเราไปเรื่อยๆ ทำงานให้มีคุณภาพที่สุด เสียงสะท้อนของผู้ชมทั้งคำติชมถือเป็นเสียงสวรรค์ หน่องถูกปลูกฝังว่าเป็นสื่อสารมวลชน ต้องชี้นำสังคมไปทางที่ดี ต้องทำงานอย่างสร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์กับสังคมด้วย ที่ผ่านมาพยายามสอดแทรกสาระให้ผู้ชมเสมอ อะไรที่ทำแล้วให้โทษกับสังคมเราไม่ทำแน่นอน. ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ