สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในตระกูลช้างอย่างแมมมอธขนยาว (Woolly mammoth) คาดว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อ 10,000 ปีที่แล้วอย่าง สมบูรณ์ ทั้งจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม จากการล่าโดยมนุษย์ และจากภาวะโลกร้อนแต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งเชื่อว่า สิ่งมีชีวิตจำนวนน้อยอาจเจริญเติบโตได้ในสภาพอากาศที่เย็นจัด เช่น ในอลาสกาและเกาะแรงเกลของรัสเซีย ที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งไซบีเรียล่าสุด นักวิจัยชาวรัสเซียจากสถาบันเชมานอฟสกี ในเมืองเซเลฮาร์ด ของรัสเซีย ได้ค้นพบชิ้นส่วนต่างๆของแมมมอธมีขน มีทั้งส่วนของกะโหลกศีรษะ กรามล่าง ซี่โครงหลายซี่ และชิ้นส่วนเท้า ซึ่งยังคงสภาพเนื้อเยื่ออ่อนและกล้ามเนื้อแบบที่ไม่บุบสลายไปตามกาลเวลา ทีมวิจัยเผยว่าโครงกระดูกที่สมบูรณ์ของแมมมอธมีขน เป็นสิ่งที่ค่อนข้างหายาก ส่วนที่ทำให้สามารถค้นพบซากแมมมอธในพื้นที่ไซบีเรีย ก็เพราะภูมิภาคเอเชียเหนือที่กว้างใหญ่มีอุณหภูมิสูงขึ้นมาก จึงนำไปสู่การค้นพบซากสัตว์แช่แข็งที่ถูกเก็บรักษาในสภาพดีจำนวนมาก ไซบีเรียเองก็กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน ซึ่งหน่วยงานด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติเตือนว่าอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส เรียกว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในเดือนที่ผ่านมา นักวิจัยเผยว่า การค้นพบนี้มีความสำคัญต่อการเข้าใจถึงสัตว์อย่างแมมมอธได้ลึกซึ้งมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการที่พวกมันมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันกับมนุษย์ยุคแรกๆ.