ชาเขียวญี่ปุ่น เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ดูแลสุขภาพเพราะอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ และมีสารเร่งระบบเผาผลาญของร่างกาย

ชาเขียวมีกลิ่นหอม รสชาตินุ่มนวล เมื่อดื่มแล้วจะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายในระหว่างวัน เหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องดื่มเพื่อรีเฟรชตัวเอง แม้ชาเขียวจะให้ประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การเลือกซื้อมาทานในยุคนี้อาจต้องมีความระมัดระวัง เพราะทุกวันนี้ยังคงมีเกษตรกรบางรายใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อกำจัดแมลงและศัตรูพืชในระหว่างเพาะปลูกผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงชา เพื่อให้ผลผลิตมีความสมบูรณ์ ป้องกันและกำจัดศัตรูของพืช เช่น หนอน แมลง สัตว์ฟันแทะต่างๆ

ยาฆ่าแมลงที่เกษตรกรนิยมใช้มี 4 กลุ่ม คือ กลุ่มออร์แกโนฟอสเฟต กลุ่มออร์กาโนคลอรีน กลุ่มคาร์บาเมต และกลุ่มไพรีทรอยด์ แต่ละกลุ่มมีอันตรายที่ส่งผลเสียต่อผู้บริโภคแตกต่างกันไป เช่น ทำให้มีอาการ อาเจียน เวียนหัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหัว มึนงง และอาจรุนแรงถึงชีวิตได้ และหากสะสมในร่างกายจะทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคผิวหนัง และมะเร็งได้

สถาบันอาหาร เก็บตัวอย่างชาเขียว, ชาเขียวญี่ปุ่นและชาเขียวมัทฉะแบบซอง Sachet จำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ยี่ห้อ ที่วางขายในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์ยาฆ่าแมลงตกค้าง 4 กลุ่ม รวม 58 ชนิด

ผลปรากฏว่า พบยาฆ่าแมลงตกค้างในชาเขียวแบบซอง Sachet 3 ตัวอย่าง โดยพบสารกลุ่มไพรีทรอยด์ คือ แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 3 ตัวอย่าง, ไซเพอร์เมทริน 2 ตัวอย่าง และเพอร์เมทริน 1 ตัวอย่าง

ซึ่งปริมาณที่พบนั้นแม้ว่าจะน้อยแต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ เลือกซื้อจากร้านหรือยี่ห้อที่มั่นใจได้ว่ามีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีและเป็นเกษตรปลอดภัย ที่สำคัญไม่ควรทานอาหารและเครื่องดื่มซ้ำๆเป็นเวลานานๆ

ควรเลือกทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ เพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดกับร่างกายเรา.

...


ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย

คลิกอ่านคอลัมน์ "มันมากับอาหาร" เพิ่มเติม