“ลิ้นจี่” เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอีกชนิดหนึ่ง มีรสหวานอมเปรี้ยว นอกจากกินผลสดแล้วยังนำมาแปรรูปได้อีกหลายอย่าง ทั้งลิ้นจี่เชื่อม ลิ้นจี่อบแห้ง และน้ำผลไม้ลิ้นจี่
ที่ศูนย์บริรักษ์ไทย วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ได้นำลิ้นจี่มาทำเป็นอาหารคาว โดยมี ดร.รุ่งธรรม ศรีวรรธนศิลป์ อดีตอาจารย์คณะคหกรรม วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร เป็นผู้รังสรรค์เมนูต่างๆ สูตรเฉพาะไม่เหมือนใคร
ดร.รุ่งธรรมกล่าวว่า ศึกษาคิดค้นสูตรอาหารที่นำลิ้นจี่มาแปรรูปตั้งแต่ปี 2532 เริ่มจาก “แกงเผ็ดเป็ดย่างใส่ลิ้นจี่สด” พัฒนาปรับปรุงสูตรมาเรื่อยจนกลายเป็นอาหารจานเด็ดอีกหลายเมนู อย่างแรกที่อยากแนะนำคือ “ยำลิ้นจี่สอดไส้กุ้ง” ก่อนอื่นต้องปรุงน้ำยำให้เข้มข้นเสียก่อนแล้วนำลิ้นจี่สอดไส้กุ้งสุกลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน รสชาติแซ่บเผ็ดลึกเปรี้ยวกำลังดี
เมนูต่อไป “แกงเขียวหวานไก่ลิ้นจี่สด” ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก นำกะทิ เทลงกระทะทองเหลืองพร้อมกับพริกแกง ทีเด็ดอยู่ตรงพริกแกงทำเองเผ็ดหอมกว่าที่ซื้อตามท้องตลาดทั่วไป จากนั้นนำไก่สดลงผัดให้สุกได้ที่ ตามด้วยมะเขือเปราะและมะเขือพวง เคี่ยวให้สุกก่อนนำลิ้นจี่สดลงในกระทะเป็นขั้นตอนสุดท้าย โรยด้วยพริกและใบโหระพาลงไป กลิ่นหอมยั่วยวนใจ
เมนูสุดท้ายคือ “แกงเผ็ดลิ้นจี่หมูย่าง” เริ่มจากเตรียมหมูย่างพอติดมันสักนิด ย่างให้หอมหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ เทกะทิและพริกแกงลงไปผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่เครื่องต่างๆให้ครบตามแบบฉบับแกงเผ็ด แล้วใส่ลิ้นจี่สดลงไปท้ายสุด จะรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมจีนได้ทั้งสองแบบ
แม้ตนจะเกษียณราชการมาแล้ว 3 ปี แต่ยังอยากช่วยเหลือนักศึกษา อยากหาช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับเด็ก โดยได้หารือกับอาจารย์ว่าหลังไวรัสโควิด-19 เบาบางลง ศูนย์บริรักษ์ไทย วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร มีแผนจะเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่งบริการนักศึกษาและลูกค้าทั่วไป
เน้นนำวัตถุดิบทั้งผักผลไม้ในท้องถิ่นมาทำอาหารเมนูต่างๆ สลับสับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เป็นการช่วยส่งเสริมเกษตรกร อีกทั้งให้นักศึกษาได้เรียนรู้ต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคต.
เจษฎา เรื่อศรีจันทร์