“สำหรับเรา กีฬาขี่ม้าหรือบังคับม้า คือโจทย์แห่งการท้าทาย ความเร็ว และความเฉียบขาดในการตัดสินใจ ขณะเดียวกัน แต่ละท่วงท่าของการบังคับม้า ล้วนเต็มไปด้วยความภูมิฐาน งามสง่า นำมาซึ่งแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานออกแบบได้อย่างไม่มีวันหมด ตั้งแต่เสื้อผ้า ไปจนถึงเครื่องหนัง เครื่องประดับ และอัญมณี”... “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ดำรัสถึงความรักที่ทรงมีต่อศิลปะในกีฬาขี่ม้า


...
“กีฬาขี่ม้า” ถือเป็นกีฬาทรงโปรดที่ทรงสนพระทัยมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ โดยทรงคว้ารางวัลแชมเปียนชิป คิงส์คัพ 2012 และทรงเป็นคนไทยคนแรกที่จบหลักสูตรการขี่ม้าจากประเทศฝรั่งเศส ทรงเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย คว้าเหรียญเงินในการแข่งขันศิลปะการบังคับม้าประเภทบุคคล นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงสร้างสรรค์ผลงานยอดเยี่ยมในการแข่งขันขี่ม้าประวัติศาสตร์ในทวีปเอเชีย รายการ FEI Asian Champion ships Pattaya 2012 ทรงนำทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองในการแข่งขัน Dressage ศิลปะบังคับม้า ประเภททีม สมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทยได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัล Best Achievement Award แด่พระองค์ ล่าสุด ในฐานะนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย ทรงนำทีมขี่ม้าไทยคว้าเหรียญเงินและเหรียญทองแดงในการแข่งขันศิลปะการบังคับม้าประเภททีม จากมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อปลายปี 2023


อีกทั้งยังทรงม้าคู่พระทัย “Fürst Henry” นำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ด้วยความสง่างามในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์” ระหว่างการจัดพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ ประจำปี 2024

เป็นที่ทราบกันดีว่า “พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” มีพระปรีชาสามารถในด้านการขี่ม้าเป็นอย่างมาก ทรงเป็นนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน นอกจากจะทรงเข้าร่วมแข่งขันในระดับซีเกมส์และเอเชียนเกมส์หลายสมัย พระองค์ยังทรงให้ความสำคัญกับการฝึกกำลังพลและม้าของหน่วยให้มีความพร้อมและสง่างามอยู่เสมอ อีกทั้งดูแลด้านการสัตวบาล โครงการบ้านพักม้าชราในพระอุปถัมภ์ฯ เพื่อให้ม้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีหลังจากการปลดประจำการ ทรงสนับสนุนการสร้างศูนย์บริการและเวชศาสตร์ฟื้นฟูม้า เพื่อให้เป็นสถานบริการสุขภาพ ทั้งด้านการรักษา และเป็นศูนย์การศึกษาฝึกงานของบุคลากรด้านสัตวแพทย์ในประเทศไทย ทรงสนับสนุนการจัดโครงการจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือและดูแลตัวม้าคอกม้า เพื่อสวัสดิการที่ดีของม้า รวมทั้งแนะนำการบริหารจัดการคอกม้าต่างๆให้ทันสมัยทัดเทียมนานาชาติ
...

ด้วยความรักความผูกพันที่มีต่อ “กีฬาขี่ม้า” กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์งานออกแบบได้อย่างไม่มีวันหมด รวมถึงผลงานล่าสุด ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ทรงนำความสง่างามของม้า ความเท่ อันมีเอกลักษณ์ของเครื่องแต่งกายนักขี่ม้า อุปกรณ์บังคับ และเครื่องประดับม้า อย่างตะขอปากม้า เกือกม้า อานม้า ชุดบังเหียน หรือกระทั่งโกลน มาถ่ายทอดสู่คอลเลกชันออทัม/วินเทอร์ 2025–2026 ด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อยกย่องคุณค่า งานฝีมือ และเสน่ห์แห่งความร่วมสมัย โดยเผยสู่สายตาชาวโลก ผ่านการจัดแสดงใน 2 หัวเมืองแฟชั่นหลักของโลก คือมิลานและปารีส เมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ประเดิมกัน ที่มิลาน ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองที่แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ผงาดอยู่ใน ตารางจัดแสดงอย่างเป็นทางการของ “มิลาน แฟชั่น วีก” และเป็นแบรนด์ไทยเพียงแบรนด์เดียว จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่ “ปารีส แฟชั่น วีก” เปิดแสดงคอลเลกชันล่าสุดอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยเสื้อผ้าสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษ รวมกว่า 30 ชุด โดยตลอดงานมีสื่อมวลชนจากทั่วโลก, แฟชั่นอินฟลูเอนเซอร์, ผู้ค้าปลีก และบายเออร์ เข้าร่วมชมคอลเลกชันอย่างคึกคัก ณ โรงแรมกรียง (Hotel de Crillon) กลางจัตุรัสคองคอร์ดอันยิ่งใหญ่
...

เจาะลึกรายละเอียดของคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025-2026 “สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ทรงนำแรงบันดาลพระทัยจากความโก้หรู ความภูมิฐานในกีฬาขี่ม้า มาเป็นแนวทางการออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัยและทันสมัย ตอบรับกับวิถีการดำเนินชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ ทุกแง่มุมเกี่ยวกับกีฬาม้าอันฉับไวและงามสง่า ถูกนำมาหลอมรวมกับธรรมเนียมการตัดเย็บสุดประณีต และมรดกทางการสร้างสรรค์ของแบรนด์ เพื่อแสดงออกถึงบุคลิกความหาญกล้า และสง่างามในความเป็นผู้หญิง

...

แรงบันดาลใจจากท่วงท่าสง่างามของนักขี่ม้า ความแข็งแกร่งของตัวอาชา และเครื่องแต่งกายตามธรรมเนียมนิยมของกีฬาท้าความเร็ว ถูกตีความใหม่กลายเป็นชิ้นเด่นของฤดูกาล ตั้งแต่ไอริสแจ็กเกต (IRIS Jacket) นิยามใหม่จากชิ้นคลาสสิกของนักขี่ม้า คอร์เซ็ตของฤดูกาลที่แฝงกลิ่นอายแบบกอธิก โรแมนติกซิสม์ (Gothic Romanticism) โดดเด่นด้วยโครงชุดดุจเสื้อเกราะ ไปจนถึงเสื้อเคปที่พลิ้วไหว, เสื้อโค้ตที่มีโครงชัดเจน เพิ่มความดรามาติกด้วยปกคอที่กว้าง และปกคอตั้งสำหรับผู้หญิง บ่งบอกความอ่อนโยนและความหาญกล้าที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ผ่านเนื้อผ้าคุณภาพสูง อาทิ ผ้าวูล ผ้าไหม และผ้าฝ้ายหลากเฉด มาในโทนขรึมแบบเดียวกับเครื่องแบบกีฬาขี่ม้า เช่น สีออฟ-ไวท์ สีเทา ม่วงอมน้ำตาลจนถึงดำ แดงเข้มเบอร์กันดีถึงน้ำตาล ตลอดจนเฉดสีต่างโทนอย่างน้ำเงินกรมท่า และเขียวขี้ม้า หรือกากี
ในขณะที่เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง สะท้อนถึงแรงบันดาลใจจากเครื่องแบบชุดแต่งกายของนักกีฬาขี่ม้าอย่างชัดเจน ต้นแบบชุดกีฬานักขี่ม้าชาย ก็ถูกรังสรรค์มาสู่เสื้อผ้าบุรุษเพื่อมอบความกลมกลืน ผสานความสมดุลของศิลปะตัดเย็บสูทคลาสสิกเข้ากับงานออกแบบร่วมสมัยให้ความคล่องตัว
แรงบันดาลใจจากความรักในกีฬาขี่ม้า ยังปรากฏให้เห็นในกระเป๋าดีไซน์ใหม่ 3 สไตล์ ด้วยลูกเล่นดัดแปลงจากกระเป๋าอุปกรณ์ม้าแบบต่างๆสู่เครื่องหนังร่วมสมัย เช่นเดียวกับรองเท้าดีไซน์ใหม่ที่ให้พลังเต็มเปี่ยม เช่น บูตยาวขี่ม้า และรองเท้าส้นสูงเปลือยข้อ โดดเด่นด้วยส้นทรงพีระมิด ขาดไม่ได้คือเครื่องประดับรูปทรงเรขาคณิตจากอุปกรณ์บังคับม้าและ เครื่องม้า มาครบทั้งตะขอปากม้าไปจนถึงเกือกม้า โกลนบังคับม้า และโซ่สายบังเหียน
นี่คือผลลัพธ์ของความทุ่มเท ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ ด้วยแพชชันไม่มีวันหมด!!
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่