ภาพจำของ “ชาวไร่” ในสายตาคนทั่วไปอาจคือความอดทนต่อสู้กับฟ้าฝน แต่สำหรับ แม่ภาพ-สุภาพ จันทร์ที และ แม่เอี้ยง-บุษกร ขันแข็ง เกษตรกรชาวไร่อ้อยแห่งบ้านถนนกลาง จ.ชัยภูมิ ความจริงที่พวกเธอเผชิญโหดร้ายกว่านั้นมาก
ในอดีต การจะได้น้ำมาหล่อเลี้ยงต้นอ้อยสักหยด แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและต้นทุนมหาศาล แม่ภาพย้อนอดีตให้ฟังว่า เธอเคยต้องจ้างแรงงานแบกท่อแป๊บเหล็กหนักอึ้งนับร้อยท่อนต่อความยาวเป็นกิโลเมตรเพื่อดึงน้ำจากแหล่งธรรมชาติมาใช้ เมื่อรดน้ำเสร็จก็ต้องรื้อถอนแบกกลับ วนเวียนอยู่เช่นนี้ ขณะที่แม่เอี้ยงต้องเผชิญสภาวะน้ำท่วมสลับแล้งซ้ำซาก ฝนมาก็ท่วมไร่ ฝนหายก็แล้งจัด จนต้องเจียดเงินซื้อน้ำรอบละ 3,600-4,000 บาท มาเติมใส่สระเล็กๆ โดยต้องคอยเฝ้าระดับน้ำทุกเซนติเมตรด้วยความวิตกกังวล
แต่วันนี้ ภาพความลำบากเหล่านั้นกลายเป็นเพียงอดีต เมื่อ “กลุ่มมิตรผล” ตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่ลุ่มต่ำที่เคยถูกน้ำท่วม ให้กลายเป็นจุดศูนย์กลางแห่งความชุ่มชื่นภายใต้ชื่อโครงการ “มิตรผล โอเอซิส” ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างแหล่งน้ำสำรองเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นความหวังใหม่ที่เข้ามาช่วยหล่อเลี้ยงลมหายใจของชาวไร่ ให้กลับมาชุ่มฉ่ำและมีชีวิตชีวาสมกับชื่อ “โอเอซิส” อย่างแท้จริง
จากวิสัยทัศน์ สู่การเดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร
นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล ฉายภาพวิสัยทัศน์เบื้องหลังโครงการนี้ว่า “กลุ่มมิตรผลในฐานะองค์กรที่ช่วยขับเคลื่อนภาคเกษตรไทย เราไม่ได้มองบทบาทของตัวเองแค่การทำธุรกิจ แต่ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของประเทศที่เชื่อว่าน้ำคือรากฐานความมั่นคงของชีวิตผู้คน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม”
ความเชื่อนี้ผลักดันให้กลุ่มมิตรผลพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และแบ่งปันประโยชน์นั้นคืนสู่ชุมชนและสังคมไทย จนนำไปสู่การถือกำเนิดของ “มิตรผล โอเอซิส” แหล่งน้ำสำรองขนาดใหญ่ซึ่งถูกออกแบบขึ้นด้วยแนวคิดการบริหารจัดการน้ำแบบหมุนเวียน
กลุ่มมิตรผลเลือกพื้นที่ลุ่มต่ำที่มักประสบปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้งมาสร้างเป็นอ่างกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีความจุกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะเปิดประตูรับน้ำจากธรรมชาติในช่วงฤดูน้ำหลากเข้ามาเก็บกักไว้ ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนได้ทางหนึ่ง และเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง น้ำมหาศาลที่กักเก็บไว้นี้จะถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยมีการวางระบบส่งน้ำกระจายเข้าสู่ไร่อ้อยของเกษตรกรอย่างทั่วถึง
ปัจจุบันโครงการนี้ดำเนินการแล้ว 4 แห่ง ในจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ สุพรรณบุรี และกาฬสินธุ์ ครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์กว่า 22,000 ไร่ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นชัดเจน โดยช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนค่าน้ำได้มากถึง 3,500 บาทต่อไร่ต่อปี ที่สำคัญไปกว่านั้น โครงการนี้ยังช่วยสร้างรายได้จากการจ้างงานในชุมชน ทั้งในขั้นตอนการก่อสร้างและการดูแลระบบ สะท้อนให้เห็นว่ามิตรผลไม่ได้เพียงแค่สร้างแหล่งน้ำ แต่กำลังสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนให้แก่คนในชุมชนได้อยู่ร่วมกัน
พลิกชีวิตชาวไร่ สู่การเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลและจับต้องได้
เมื่อ มิตรผล โอเอซิส มาถึง ชีวิตของเกษตรกรก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่เพราะมีน้ำใช้ แต่เพราะได้รับอาวุธทางปัญญาจากมิตรผลควบคู่ไปด้วย แม่ภาพ-สุภาพ จันทร์ที เล่าถึงจุดเปลี่ยนว่า จากเกษตรกรมือใหม่ที่ไม่เคยเชี่ยวชาญลึกซึ้ง เธอได้รับการถ่ายทอดแนวทาง “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” ที่สอนเทคนิคการปลูกและบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะการนำระบบน้ำหยดมาใช้ ซึ่งช่วยประหยัดทั้งทรัพยากรน้ำและแรงงานในการให้ปุ๋ย ทำให้อ้อยได้รับสารอาหารสม่ำเสมอและเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ
ในขณะที่ แม่เอี้ยง-บุษกร ขันแข็ง ยืนยันถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงว่าการมีแหล่งน้ำที่มั่นคงช่วยให้เธอวางแผนการผลิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพาฟ้าฝน ส่งผลให้ผลผลิตก้าวกระโดดจาก 7-8 ตัน พุ่งสูงถึง กว่า 20 ตันต่อไร่ หรือเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 3 เท่าตัว นอกจากนี้ เธอยังต่อยอดพื้นที่รอบสระน้ำให้กลายเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตประจำบ้าน ปลูกพืชผักสวนครัวแบบผสมผสาน สร้างรายได้เสริมและลดรายจ่ายในครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน
พลังชุมชนเข้มแข็ง แบ่งปันน้ำอย่างเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของการมีแหล่งน้ำรวมคือจะจัดสรรปันส่วนอย่างไรให้เป็นธรรม? ที่นี่จึงมีระบบบริหารจัดการที่เข้มแข็งที่ก่อตั้งขึ้นร่วมกัน โดยมี พ่อเทิด-เทิดศักดิ์ ผามณี รับบทเป็น “นายสถานี” ผู้คอยดูแลการเปิด-ปิดวาล์วน้ำโครงการ มิตรผล โอเอซิส บ้านถนนกลาง
พ่อเทิดอธิบายว่า การใช้บริการน้ำที่นี่สามารถจองคิวล่วงหน้าได้อย่างเป็นระบบ สมาชิกในกลุ่ม 111 ราย จะสื่อสารผ่าน LINE Group เพื่อจองคิวใช้น้ำ โดยมีการจัดโซนและรอบเวรอย่างชัดเจน พ่อเทิดจะคอยตรวจสอบแรงดันน้ำและเปิดวาล์วครั้งละ 10 จุด เพื่อส่งน้ำตรงเข้าสู่ไร่ หรือเติมเข้าสระพักน้ำของเกษตรกร ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าไร่จะอยู่ใกล้หรือไกล ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงทรัพยากรอย่างเท่าเทียมกัน
มากกว่าแหล่งน้ำคือรากฐานความหวังที่ยั่งยืน
ในท้ายที่สุด มิตรผล โอเอซิส พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของเกษตรกรไทย ช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ สู่อาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้จึงอาจกล่าวได้ว่า ไม่ใช่แค่น้ำที่เป็นโอเอซิสหล่อเลี้ยงพืชพันธุ์ แต่ทุกความตั้งใจของมิตรผลยังเปรียบเสมือน “โอเอซิสแห่งความหวัง” ที่ช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถยืนหยัดต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงของโลก และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง
