"บางจาก" กับ "e-Fuels"

Sustainability

ความยั่งยืน8 พ.ย. 2568 04:13 น.

คอลัมน์ Sustainable together สัปดาห์นี้ ได้ร่วมคณะไปกับนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

เยี่ยมชมศูนย์วิจัยเทคนิคกลาง ที่เมืองโยโกฮามาของ ENEOS Holdings ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยี สร้างความแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนบางจากสู่ความมั่นคงทางพลังงาน

โดย นายยูอิชิโร ฟูจิยาม่า Chief Technology Officer ของ ENEOS Holdings อธิบายให้ฟังว่า ศูนย์วิจัยเทคนิคกลางของ ENEOS ได้จัดตั้งโรงงานสาธิตผลิต e-Fuels (เชื้อเพลิงสังเคราะห์) มาตั้งแต่ปี 2567 โดยใช้กระบวนการแปรรูปไฮโดรเจน จากการแยกโมเลกุลน้ำ และดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ แล้วผ่านกระบวนการผลิตเป็นไฮโดรคาร์บอนสังเคราะห์ ซึ่งสามารถใช้แทนน้ำมันจากฟอสซิลได้ทันที (drop-in fuels) โดยไม่ต้องเปลี่ยนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน หรือระบบนิเวศใดๆ

e–Fuels จะช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงดั้งเดิมในการเปลี่ยนผ่าน สู่พลังงานสะอาด โรงงานสาธิตนี้มีกำลังผลิตเริ่มต้น 1 บาร์เรลต่อวัน ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานวิจัยและพัฒนาของรัฐบาลญี่ปุ่น ภายใต้กองทุน Green Innovation Fund

“แม้โลกจะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านพลังงาน และมีแนวโน้มใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น แต่ไฮโดรคาร์บอนยังมีบทบาทสำคัญ ในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเชื้อเพลิงที่อยู่ในกลุ่มโมเลกุลสะอาด (Clean Molecules) ที่มีจุดเด่นด้านความหนาแน่นพลังงานสูง การขนส่งที่สะดวก ง่ายต่อการจัดเก็บ ทำให้ยังตอบโจทย์การใช้งานในหลายภาคส่วนของโลกยุคเปลี่ยนผ่าน”

ปัจจุบันอุตสาหกรรม e-Fuels มีมูลค่า 11,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ข้อมูลปี 2568) คาดว่าจะขยายตัวแตะ 88,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2575 ตามข้อมูลจาก Fortune Business Insights (2024)

ขณะที่นายชัยวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า บางจาก ก็มีศักยภาพผลิตเชื้อเพลิงสะอาดยุคใหม่จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ครอบคลุมการเดินทางและการขนส่ง ทั้งทางอากาศ ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง อากาศยานยั่งยืน (SAF) ทางบกด้วย Renewable Diesel (HVO) และทางน้ำด้วย B24 Marine Biofuels เราจึงให้ความสำคัญกับ e–Fuels ในฐานะพลังงานที่เชื่อมโลกปัจจุบันกับโลกพลังงานสะอาด

จากนั้นคณะจากเมืองไทยได้ไปเยี่ยมชมไร่ชาเขียว Matsuda-en (มัตซึดะ เอ็น) จังหวัดชิซุโอกะ แหล่งผลิตมัทฉะคุณภาพสูง ซึ่ง “อินทนิล” แบรนด์เครื่องดื่มภายใต้การบริหารของ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (BCR) ได้นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในเมนมัทฉะหลากหลายชนิด เพื่อส่งมอบรสชาติและคุณภาพต้นตำรับจากญี่ปุ่นให้แก่ลูกค้า ไร่ชาดังกล่าว ปัจจุบันจำหน่ายใน 20 ประเทศ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติหลายรายการ รวมถึงรางวัลถ้วยจักรพรรดิ (The Emperor’s Cup) ทำให้ชาเขียวญี่ปุ่นของ Matsuda-en เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

“BCR ยังมุ่งมั่นพัฒนาและส่งเสริมกาแฟไทย ผ่านเมนูพิเศษ “กาแฟพ่อหลวง Single Origin” จากดอยแม่สลอง ซึ่งใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูงจาก โครงการในพระราชดำริ รวมถึงเครื่องดื่มคุณภาพอื่นๆ จากวัตถุดิบที่ได้รับการคัดสรรอย่างดีที่สุด การผสมผสานระหว่างวัตถุดิบต่างประเทศระดับโลกและผลผลิตคุณภาพสูงของไทย สะท้อนทิศทางการพัฒนาธุรกิจ Non–Oil (ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน) ของบางจาก ที่ให้ความสำคัญกับ คุณภาพ ความหลากหลาย ความยั่งยืน พร้อมยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล”.


อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


SHARE

Follow us

  • |