คอลัมน์ Sustainable Together สัปดาห์นี้ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ 3 หนุ่มหัวใจรีไซเคิล เพราะวัตถุดิบในโลกใบนี้มีอย่างจำกัด น่าจะมีการนำมาบริหารจัดการหมุนเวียนการใช้ซ้ำและเป็นโอกาสในการทำธุรกิจได้ ถือเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และสร้างความยั่งยืนในอนาคตได้ รวมถึงสร้างโลกใบนี้ให้น่าอยู่ เพื่ออนาคตของลูกหลาน เพราะทุกคนมีครอบครัวมีลูก มีหลาน จึงจำเป็นต้องสร้างสิ่งดีๆไว้รองรับ
นายชนัมภ์ ชวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีไซเคิลเดย์ จำกัด เล่าว่า จุดประกายที่ทำให้หันมาลงทุนทำธุรกิจรีไซเคิลนั้น มาจากคำถามในใจว่า เหตุใดการแยกขยะจึงเป็นเรื่องยาก และไม่ค่อยมีคนทำ จึงเกิดไอเดียหากมีระบบช่วยคัดแยก หรือใช้แรงจูงใจเป็นเงิน เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมคน ให้หันมาช่วยแยกขยะเบื้องต้นก่อน จึงเป็นที่มาของการทำธุรกิจรีไซเคิล
ด้วยการเจรจากับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร เพื่อเชิญชวนลูกบ้านแยกขวดพลาสติก เพื่อส่งมอบให้กับบริษัท เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี พร้อมมีแอปพลิเคชันให้ลูกบ้านสามารถนัดเวลารับขยะขวดพลาสติกได้ด้วย จากนั้นได้เจรจากับสำนักงานต่างๆ รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อรับซื้อขวดพลาสติก รวมถึงขยะเศษอาหารด้วย ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก เพราะถือว่าบริษัทได้เข้าไปช่วยกำจัดขยะให้ และประหยัดต้นทุนด้วย เพียงแต่องค์กรต้องแยกขยะเบื้องต้นเท่านั้น
“บริษัทไม่ได้รับซื้อของเก่า แต่รับซื้อขวดพลาสติก เพื่อส่งไปยังโรงงานรีไซเคิลขวดพลาสติก ส่วนเศษอาหาร ก็ติดต่อบริษัทที่มีดินเพื่อนำไปฝังกลบ เพื่อให้เป็นปุ๋ยในดิน โดยเชื่อว่าการรีไซเคิลช่วยขับเคลื่อนการสร้างสังคมที่สะอาดและยั่งยืนไปพร้อมกัน”
นายณัฐสิทธิ์ ธีรกุลวาณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) เล่าว่า จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจรีไซเคิลมาจากการมองเห็นถึงคุณค่าของทรัพยากรที่สูญเสียไป หากไม่มีการนำกลับมาใช้ซ้ำ และตระหนักว่าการรีไซเคิลไม่เพียงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นแนวทางที่สร้างความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจให้กับทั้งองค์กรและสังคมโดยรวม
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเริ่มต้นธุรกิจนี้มองว่าปัญหาสำคัญในอุตสาหกรรม คือ การต้องส่งกากอุตสาหกรรมหรือตัวเร่งปฏิกิริยาใช้แล้วไปกำจัดยังต่างประเทศ ซึ่งนอกจากมีค่าใช้จ่ายสูง ยังเป็นการสูญเสียโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เราตัดสินใจก้าวเข้าสู่ธุรกิจรีไซเคิลโลหะมีค่า
ทั้งนี้ ได้ศึกษาและพัฒนาแนวทางอย่างรอบด้าน จนตกผลึกมาสู่ธุรกิจการสกัดโลหะมีค่า จากตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น แพลตินัม (Pt) พาลาเดียม (Pd) และโรเดียม (Rh) ซึ่งล้วนเป็นโลหะที่มีมูลค่าสูงในตลาดโลก หากสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ ก็จะช่วยลดต้นทุน สร้างมูลค่าเพิ่ม และเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กร รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศ
“ผมเชื่อว่าหากเรามุ่งมั่นทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เราจะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง และก้าวสู่การแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างแข็งแกร่ง”
นายณัฏฐวัจน์ เชี้ยวบางยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลด์ไซเคิล จำกัด เล่าว่า จากการลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงงานหลายแห่ง ทำให้เห็นวัสดุเหลือใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์ นำไปฝังกลบหรือเผาตามโรงกำจัดขยะ
ดังนั้น จึงเริ่มศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง เพื่อนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ กลับมาใช้ใหม่ และนำนวัตกรรมการแยกส่วนของขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่นำกลับมาใช้ใหม่ และสร้างมูลค่าได้ เช่น ชิป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนหนึ่งในคอมพิวเตอร์ ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงทองแดง อะลูมิเนียม โลหะเงิน สังกะสี เหล็ก ซึ่งต้องคัดแยกอย่างถูกวิธี
“ผมมองเห็นโอกาสการทำธุรกิจรีไซเคิล ซึ่งไม่ใช่แค่การรับซื้อของเก่าเท่านั้น แต่ธุรกิจนี้จะเป็นสะพานเชื่อมชุมชนกับธุรกิจ เพื่อร่วมกันสร้างความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ได้ ด้วยการนำขยะที่สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง และถูกตามกฎหมาย จึงเริ่มทำธุรกิจนี้มา 3 ปีแล้ว แม้โอกาสทำกำไรไม่สูงมาก แต่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษ์โลก ช่วยลดขยะ เพราะธุรกิจของผมจะร่วมเติบโตไปกับชุมชน ร่วมกันจัดการขยะ สร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ สร้างเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย เพราะเชื่อว่าทำวันนี้ให้ดี เพื่อโลกน่าอยู่ในอนาคตสำหรับลูกหลาน”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
