• Future Perfect
  • PR News
  • ไขคำตอบ เหตุใด “เซ็นทรัล พาร์ค” จึงเป็นแลนด์มาร์กที่ผสานชีวิตคนเมืองเข้ากับความยั่งยืนอย่างลงตัว

ไขคำตอบ เหตุใด “เซ็นทรัล พาร์ค” จึงเป็นแลนด์มาร์กที่ผสานชีวิตคนเมืองเข้ากับความยั่งยืนอย่างลงตัว

Sustainability

ความยั่งยืน3 ต.ค. 2568 16:55 น.

ท่ามกลางการเติบโตของมหานคร คำถามสำคัญที่ท้าทายเสมอมาคือเราจะสร้างเมืองที่ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ทิ้งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมไว้ข้างหลังได้อย่างไร วันนี้ คำตอบของคำถามนั้นไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นภาพจริงที่สัมผัสได้ใจกลางเมืองผ่านโครงการ “เซ็นทรัล พาร์ค” โดยเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงศูนย์การค้าแห่งใหม่ แต่คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนของปณิธาน “Imagining Better Futures for All” ที่มุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคนอย่างเป็นรูปธรรม

เซ็นทรัลพัฒนาได้เปลี่ยนวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนให้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่หายใจได้จริง ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่พื้นที่ แต่เป็นระบบนิเวศที่เข้าใจชีวิตคนเมืองอย่างลึกซึ้ง โดยหลอมรวมวิถีชีวิต (Lifestyle), ความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being), ความหลากหลาย (Diversity), และชุมชน (Community) เข้าไว้ด้วยกันภายใต้แกนกลางคือความยั่งยืน (Sustainability) ที่พิสูจน์ได้ผ่าน 3 ไฮไลต์สำคัญ ซึ่งล้วนนำไปสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 ขององค์กร

Roof Park พื้นที่ 7 ไร่ที่เชื่อมคนเมืองเข้ากับธรรมชาติ

หัวใจสำคัญที่ทำให้เซ็นทรัล พาร์ค แตกต่าง คือ Roof Park พื้นที่สีเขียวกว่า 7 ไร่ ที่ทำหน้าที่เป็น “ปอดใหม่ของคนเมือง” เชื่อมต่อกับสวนลุมพินีอย่างไร้รอยต่อ พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่ถูกออกแบบด้วยหลัก Biophilic Design ที่ผสานธรรมชาติเข้ากับการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 11 ตันต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 900 ต้น การเลือกใช้พรรณไม้ท้องถิ่นอย่าง เตย แว่นแก้ว และกกอเมซอน ยังช่วยฟอกอากาศและดักจับฝุ่น PM2.5 กลายเป็นพื้นที่ให้คนเมืองได้มาเติมพลัง ท่ามกลางกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Run Club, Sunrise Coffee & Tea Rave และ Wellness Experiences

แลนด์มาร์กของชีวิตเมืองยุคใหม่ เมื่อไลฟ์สไตล์และความยั่งยืนผสานเป็นหนึ่งเดียว

นอกเหนือจากการเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างไร้รอยต่อ เซ็นทรัล พาร์ค ยังวางตัวเป็น “แลนด์มาร์กของชีวิตเมืองที่ยั่งยืน” (New Landmark of Sustainable Living) ทุกตารางนิ้วบนพื้นที่แห่งนี้ได้สร้างภาพอนาคตของการใช้ชีวิตที่สมดุลอย่างครบมิติ ตั้งแต่การวิ่งยามเช้าในสวนลุมพินี แวะจิบกาแฟบน Roof Park ทานมื้อกลางวันกับร้านระดับ Michelin Guide ไปจนถึงการพบปะเพื่อนฝูงที่ Rooftop Bar ยามค่ำคืน ทุกองค์ประกอบถูกคิดมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมืองให้เติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน รวมถึงอาคารสำนักงาน Central Park Offices ที่สร้างตามมาตรฐานระดับโลกอย่าง LEED, WELL และ WiredScore ตอกย้ำภาพต้นแบบของเมืองแห่งอนาคตที่แท้จริง

ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน กลไกขับเคลื่อนเบื้องหลังสู่เป้าหมาย Net Zero

ทั้งนี้เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ทั้งหมดของโครงการ ซึ่งเป็นกลไกที่ขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญอย่าง Net Zero 2050 ก็คือ “ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน” (Circular Economy) ที่ถูกนำมาปรับใช้จริงในทุกมิติ เซ็นทรัลพัฒนาไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเพียงนโยบาย แต่คือการลงมือทำจริง ตั้งแต่การร่วมมือกับพันธมิตรอย่างเนสท์เล่ (Nestlé (Thailand)) ในโครงการ “คืนชีวิตให้ขวดพลาสติก” ที่รีไซเคิลขวด PET ได้มากกว่า 200 ตันต่อปี ไปจนถึงการริเริ่มสิ่งเล็กๆ ที่สร้างผลกระทบยิ่งใหญ่ เช่น การใช้ผ้ากันเปื้อนจากขวดพลาสติก การจำหน่ายน้ำดื่มในขวด rPET การจัดการเศษอาหารและแยกขยะอย่างเป็นระบบภายในโซน Parkside Market และการมอบส่วนลดให้ลูกค้านำแก้วมาเอง ทั้งหมดนี้คือการแสดงให้เห็นว่า ทุกกิจกรรมในพื้นที่แห่งนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลโลก

จากความมุ่งมั่นที่แปรเปลี่ยนเป็นการลงมืออย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ เซ็นทรัล พาร์ค ไม่ใช่แค่โครงการมิกซ์ยูส แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่เซ็นทรัลพัฒนาตั้งใจมอบให้กับเมืองไทย และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะบทพิสูจน์แห่งความยั่งยืนนี้กำลังจะถูกส่งต่อไปยัง “เซ็นทรัล กระบี่” ที่เตรียมเปิดตัวในฐานะ The First Sustainable-Lifestyle Shopping Centre ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำบทบาทผู้นำของเซ็นทรัลพัฒนา ในการขับเคลื่อนเมืองและสร้างพื้นที่แห่งอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนอย่างไม่หยุดยั้ง

SHARE

Follow us

  • |