เป็นอีก 1 ปี ที่งาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) ต้นแบบของงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ย.–5 ต.ค.2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้สร้างสีสัน
คอลัมน์ Sustainable Together สัปดาห์นี้ ขอนำท่านผู้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ไปถอดรหัสการจัดงาน จาก นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานอำนวยการจัดงาน SX2025 และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า SX2025 คือ มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 6 ภายใต้ แนวคิดหลัก “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability)
โดยการจัดงาน Sustainability Expo เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2563 เพื่อเป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่เปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่ม ทุกวัยได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน ครอบคลุมทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมามีผู้สนใจเข้าชมงานมากกว่า 770,000 คน
และปีนี้มีวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนกว่า 750 คนจากทั่วโลก เครือข่ายภาครัฐและเครือข่ายธุรกิจจากบริษัทและองค์กรชั้นนำของไทยและต่างประเทศกว่า 270 แห่ง ที่จะมาร่วมกันแบ่งปันองค์ความรู้ เรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่จะชวนให้ทุกคนได้มาร่วมสร้างสมดุลให้โลกใบนี้ไปด้วยกัน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนและท้าทาย เครือซีพีเชื่อมั่นว่าความร่วมมือและมุมมองใหม่คือกุญแจสู่อนาคตที่ยั่งยืน เราจึงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการมีส่วนร่วมใน UN SDGs และ UN Forward Faster Initiative พร้อมกำหนดพันธกิจ 3 ด้านที่ท้าทายและสำคัญ ได้แก่ การเป็นกลางทางคาร์บอนปี 2573 และ Net Zero ปี 2593 การลดขยะฝังกลบเป็นศูนย์ และการลดความเหลื่อมล้ำภายในปี 2573
“สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงเป้าหมายองค์กร แต่คือพันธกิจที่เราตั้งใจทำร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป”
ขณะที่ นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวว่า การเข้าร่วมงาน SX2025 เป็นโอกาสได้พบปะพันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ มองว่าความยั่งยืนไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นการเดินทางที่ต้องอาศัยความร่วมมือและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
“ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือการสร้างพื้นที่ที่มีคุณค่าทั้งต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และในขณะที่บริบทและแนวคิดเกี่ยวกับความยั่งยืนมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เราจะยังคงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อสร้างอนาคตร่วมกันของสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น ให้มีความน่าอยู่และสามารถฟื้นฟูตัวเองได้”
ส่วนนายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความร่วมมือทั้งองค์กรภาครัฐ เอกชน สังคมและประชาชน เพื่อขับเคลื่อนและส่งเสริมแนวคิด ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมกันลงมือทำ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อทุกชีวิตและสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกที่ดีขึ้นอย่างสมดุลและยั่งยืนต่อไป
ดังนั้น การจะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่อย่างยั่งยืนและดีกว่า...ต้องเริ่มจากตัวเราเอง ทั้งการปรับตัว และร่วมสร้างทางรอดที่มีความสมดุลบนโลกใบนี้ได้ยั่งยืนอย่างแท้จริง!!
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม
