"ยูนิลีเวอร์" ลดใช้พลาสติกใหม่

Sustainability

ความยั่งยืน13 ก.ย. 2568 04:10 น.

ปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก เป็นอีกปัญหาใหญ่ที่ทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ คอลัมน์ sustainable together สัปดาห์นี้ ได้มีโอกาสไปร่วมฟังคำแถลงข่าวของ “ยูนิลีเวอร์” ผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลก โดยนางณัฏฐิณี เนตรอำไพ ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร องค์กรสัมพันธ์ และความยั่งยืน กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ยูนิลีเวอร์ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ให้ได้ 100% ภายในปี 2573 พร้อมทั้งมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมในห่วงโซ่อุปทานและการใช้ผลิตภัณฑ์ให้ได้ 42% ภายในปีเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายด้านการจัดการพลาสติกที่ชัดเจน โดยมุ่งเพิ่มสัดส่วนพลาสติกรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์ให้ได้ 25% ภายในปี2568 ลดการใช้พลาสติกใหม่ (virgin plastic) ลง 30% ภายในปี 2569 และ 40% ภายในปี 2571 เทียบกับปี 2562 รวมถึงดำเนินการตามแผนที่จะทำให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบแข็งทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้ภายในปี 2573 และบรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่นภายในปี 2578

“ปัจจุบันบรรจุภัณฑ์พลาสติกจากยูนิลีเวอร์สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้แล้วกว่า 57% ภายใต้โครงการ Bright Future ซึ่งต่อยอดมาจาก Clean Future ที่ริเริ่มแนวคิดเมื่อปี 2562 โดยยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และส่วนผสมให้ยั่งยืนมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและย่อยสลายได้ อย่างซันไลต์ RHAMNO Clean เพื่อช่วยลด CO2 ในขอบเขตที่ 3 ที่สำคัญด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน การผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน”

ด้วยการมุ่งมั่นตั้งใจของยูนิลีเวอร์ที่จะเติบโตธุรกิจอย่างมั่นคงแล้ว ยังต้องสร้างคุณค่าเพื่อโลกและสังคมที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมด้วย ซึ่งที่ผ่านมายูนิลีเวอร์ได้ทุ่มเทและให้ความสำคัญอย่างมากจนทำให้โรงงานเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับการรับรองการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% เมื่อปี 2566 ผ่านการพัฒนา Biomass Boiler, Solar Roof เพื่อจัดหาพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการ นำเทคโนโลยี Digital Twin มาจำลองการผลิตและออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทำให้ลดต้นทุน ลดของเสีย และเพิ่มคุณภาพโดยไม่ต้องใช้การทดลองจริง

และยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าความยั่งยืนไม่ใช่เพียงพันธกิจด้านสังคม แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว โดยการบูรณาการ เทคโนโลยี AI และดิจิทัลเข้ากับทุกห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่แท้จริง

“เรามั่นใจว่าความยั่งยืนคือหัวใจของธุรกิจในการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและการใช้ศักยภาพด้านนวัตกรรม ยูนิลีเวอร์จะเดินหน้าสร้างทั้งคุณค่าทางธุรกิจ และคุณค่าเพื่อโลกและสังคม อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งยูนิลีเวอร์ได้ให้ความ ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้ร่วมสร้างสังคมที่ยั่งยืนไปพร้อมๆกัน”.


อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


SHARE

Follow us

  • |