"สยามคูโบต้า" เปิดตัว "โรงเรียนดินและปุ๋ย" จังหวัดอุดรธานี ดึงหมอดินอาสาร่วมพลิกฟื้นผืนดิน ถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร ต่อยอดสู่การทำเกษตรยั่งยืน
สยามคูโบต้า เปิดตัว "โรงเรียนดินและปุ๋ย" พื้นที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาดินและการตรวจคุณภาพดิน จากหมอดินอาสาของจังหวัดอุดรธานี ภายใต้โครงการ "คูโบต้า พลิกฟื้นผืนดิน" โดยมีกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ร่วมสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ พร้อมดึงผู้เชี่ยวชาญหมอดินอาสามุ่งถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรและผู้สนใจ ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิตในการเพาะปลูก ต่อยอดสู่การทำเกษตรยั่งยืน ณ วิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี

นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัว "โรงเรียนดินและปุ๋ย" จังหวัดอุดรธานีว่า ภาคการเกษตรถือเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต เพราะหนึ่งในปัจจัยด้านคุณภาพชีวิตที่ดีมาจากผลิตผลทางการเกษตรที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ทางการเกษตรรวม 147.73 ล้านไร่ หรือร้อยละ 46.7 ของเนื้อที่ทั้งประเทศ ขณะเดียวกันยังต้องเผชิญความท้าทายที่หลากหลาย อาทิ ความเสื่อมโทรมของดิน การปนเปื้อนของสารเคมีจากการใช้ปุ๋ยและสารเคมีที่ทำให้ศักยภาพของดินลดลง เมื่อดินอยู่ในสภาพที่ไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของพืชจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการทำการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาก่อให้เกิดประโยชน์ รวมถึงส่งเสริมการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน ผนวกกับการใช้เทคโนโลยีและความรู้ใหม่ ๆ อย่างเหมาะสมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา
"โรงเรียนดินและปุ๋ย" จึงเกิดขึ้นบนแนวคิดที่อยากให้เกษตรกร และผู้สนใจทำการเกษตรทุกคนเห็นความสำคัญของดิน เรามุ่งหวังเป็นพื้นที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาดินและการตรวจคุณภาพดินซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับทุกชีวิตบนโลกรวมถึงการทำเกษตร

ดร. ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า การพัฒนาคุณภาพดินเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นรากฐานของการผลิตทางการเกษตร กรมพัฒนาที่ดินได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและจัดการทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นองค์กรอัจฉริยะทางดิน เพื่อขับเคลื่อนการใช้ที่ดินอย่างเหมาะสม โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการดินที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ พร้อมสร้างศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะทางดินเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินอย่างยั่งยืน รวมถึงพัฒนาระบบการบริหารจัดการที่ดินเชิงรุกผ่านการมีส่วนร่วม เพื่อรักษาสมดุลความเสื่อมโทรมของที่ดินและระบบนิเวศทางการเกษตร ซึ่งการจัดตั้งโรงเรียนดินและปุ๋ย ถือเป็นส่วนหนึ่งของก้าวสำคัญในการบรรลุวิสัยทัศน์นี้เช่นกัน
สำหรับกรมพัฒนาที่ดิน เราให้ความร่วมมือในการถ่ายทอดข้อมูลผ่านบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านดิน อาทิ หมอดินอาสา เพื่อรองรับผู้ที่สนใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับดินและปุ๋ย ในรูปแบบของการเรียนทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจวิเคราะห์คุณภาพดิน ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกรและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน และต่อยอดในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน นายฉัตรเชาวสิโรตม์ ยอดคีรี ประธานวิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า และประธานศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – ห้วยตาดข่า กล่าวถึงการสานต่อโครงการนี้ว่า วิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า มุ่งให้ความสำคัญกับการดูแลดินตลอดมา เพราะเรามองว่าดินกับการทำเกษตรเป็นของคู่กัน ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มวิสาหกิจฯ และเกษตรกรในพื้นที่ได้เข้าอบรมองค์ความรู้เรื่องปุ๋ยทำให้เรามีวิธีการจัดการดินที่ดีขึ้น ซึ่งการก่อตั้งโรงเรียนดินและปุ๋ยจะช่วยให้เกิดเป็นพื้นที่ให้ความรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนให้บริการตรวจดินและปุ๋ยจากหมอดินอาสาของชุมชนที่มีความเชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ช่วยให้เกษตรกรได้เข้าใจสภาพดินในพื้นที่การเกษตรของตนเอง และสามารถนำความรู้ที่ได้รับเกี่ยวกับธาตุอาหารในดิน การใส่ปุ๋ยในสูตรหรือปริมาณที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชแต่ละชนิด นำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งสร้างโอกาสในการต่อยอดความรู้ให้แก่ชุมชนข้างเคียงได้ ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรจากการทำปุ๋ยสั่งตัดด้วย