• Future Perfect
  • Articles
  • 20 กันยายน "วันอนุรักษ์และพัฒนา แม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ" คืนน้ำใสสะอาดสู่ชุมชน

20 กันยายน "วันอนุรักษ์และพัฒนา แม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ" คืนน้ำใสสะอาดสู่ชุมชน

Sustainability

ความยั่งยืน20 ก.ย. 2566 10:00 น.
  • เปิดประวัติ "วันอนุรักษ์และพัฒนา แม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ" ถูกกำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 20 กันยายน ของทุกปี
  • บทบาท และความสำคัญของแม่น้ำ คู คลอง ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
  • แนะแนวทางการอนุรักษ์และพัฒนา แม่น้ำ คู คลอง ที่สามารถแก้ปัญหาได้ยั่งยืน

วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญแม่น้ำ ตลอดจนคูคลองต่างๆ ที่มีบทบาท และความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

โดยการรณรงค์ให้ประชาชน ร่วมกันไม่ทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงในแม่น้ำลำคลอง บำบัดน้ำเสียทุกครั้งก่อนระบายลงสู่แหล่งน้ำ รวมถึงไม่ปลูกสร้างบ้านเรือนที่รุกล้ำแม่น้ำคูคลอง เพื่อเป็นการอนุรักษ์น้ำให้สะอาด และคงอยู่ตลอดไป

ประวัติ "วันอนุรักษ์และพัฒนา แม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ" 

สำหรับที่มาของ "วันอนุรักษ์และพัฒนา แม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ" หรือ วันอนุรักษ์รักษาคูคลองแห่งชาติ มีจุดเริ่มต้นมาจากปัญหาน้ำใน "คลองแสนแสบ" ที่มีสีดำ และส่งกลิ่นเหม็น จากการเทน้ำเสีย และขยะที่ถูกทิ้งลงในแม่น้ำ จนส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง แม้ว่าชาวบ้านจะพยายามช่วยกันพัฒนาพื้นที่คลอง แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้

กลุ่มนักอนุรักษ์จึงจัดตั้ง "โครงการรวมใจภักดิ์ รักษ์คลองแสนแสบ" ขึ้น เมื่อกลางปี พ.ศ. 2537 เพื่อจัดกิจกรรมตามวาระ ให้ประชาชนมาช่วยดูแล และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ทำให้น้ำลำคลองสะอาดขึ้น จนเรือสามารถกลับมาสัญจนผ่านได้ตลอดเส้นทาง

กระทั่งวันที่ 20 กันยายน 2537 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จประพาสทางเรือ จากกรุงเทพมหานครถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นระยะทางทั้งสิ้น 72 กิโลเมตร เพื่อเยี่ยมประชาชนสองฝั่งคลอง สร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรเป็นอย่างมาก

คณะรัฐมนตรี จึงกำหนดให้วันที่ 20 กันยายน ของทุกปีเป็น "วันอนุรักษ์และรักษาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ" เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่จะสืบสานปณิธาน และพระดำรัสของพระองค์ที่ว่า "คลองแสนแสบเป็นคลองสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่สมควรได้รับการดูแลรักษาต่อไป

บทบาท และความสำคัญของ "แม่น้ำ คู คลอง"

คูน้ำ และลำคลอง มีบทบาทสำคัญในด้านต่างๆ โดยทำหน้าที่สำคัญในระบบชลประทาน การระบายน้ำ และการจัดการน้ำ ช่วยควบคุมการไหลของน้ำ ป้องกันน้ำท่วม และกระจายน้ำ เพื่อการเกษตร รวมถึงอำนวยความสะดวก ในการขนส่งสินค้า และผู้คนที่จะไปสนับสนุนกิจกรรมการค้าและเศรษฐกิจของประเทศ

นอกจากนี้ คูน้ำ และลำคลองยังมีส่วนช่วยอนุรักษ์น้ำ เติมน้ำใต้ดิน และรักษาสมดุลทางนิเวศวิทยาในพื้นที่ชุ่มน้ำ อาจกล่าวได้ว่า คูน้ำและคลองเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่ส่งเสริมการเกษตร เศรษฐกิจ และการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

แนวทางการอนุรักษ์และพัฒนา แม่น้ำ คู คลอง ที่ยั่งยืน

การอนุรักษ์แม่น้ำและลำคลองเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาระบบนิเวศ ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ ดังนี้

  1. บังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวด เพื่อควบคุมของเสียทางอุตสาหกรรม การไหลบ่าทางการเกษตร และการปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำ และลำคลอง ส่งเสริมการใช้แนวทางปฏิบัติ และเทคโนโลยี ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ลดมลพิษ รวมถึงใช้บทลงโทษ สำหรับการละเมิด เพื่อกีดกันกิจกรรม ที่ผิดกฎหมาย และเป็นอันตรายต่อแหล่งน้ำ
  2. ส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำ โดยให้ให้บุคคล อุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม นำเทคนิคการประหยัดน้ำมาใช้ เช่น การเก็บเกี่ยวน้ำฝน ระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพ และการรีไซเคิลน้ำ
  3. อนุรักษ์เขตชายฝั่ง โดยปกป้องและฟื้นฟูพืชพรรณตามธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำ และลำคลอง หรือที่เรียกว่า "เขตชายฝั่ง" มีบทบาทสำคัญในการกรองมลพิษ ป้องกันการกัดเซาะ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ
  4. ควบคุมกิจกรรมการขุดและขุดทราย เพื่อป้องกันการกัดเซาะ และรักษาการไหลของแม่น้ำ ลำคลองตามธรรมชาติ
  5. เสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนท้องถิ่น โดยการส่งเสริมความคิดริเริ่มในชุมชน เช่น แคมเปญทำความสะอาดแม่น้ำ และกิจกรรมปลูกต้นไม้ริมฝั่งแม่น้ำ
  6. ปลุกจิตสำนึก และความตระหนักความรู้ โดยการเผยแพร่ความรู้แก่สาธารณชน เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์แม่น้ำและคลอง รวมถึงส่งเสริมพฤติกรรม ที่ก่อให้เกิดการสร้างความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เช่น การกำจัดขยะอย่างเหมาะสม และการหลีกเลี่ยงการทิ้งขยะลงในแม่น้ำ
SHARE

Follow us

  • |