- ไขคำตอบ "Sand Crisis" วิกฤติทรายกำลังจะหมดโลก เกิดขึ้นได้จริงไหม
- "ทราย" ปัจจัยสำคัญของมนุษย์ ถูกนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมากที่สุด รองจากน้ำดื่ม
- เมื่อทรายกำลังจะหมดโลกจะส่งผลกระทบอย่างไร มนุษย์จะมีวิธีรับมืออย่างไร
"ทรายกำลังจะหมดโลก" หลายคนอาจจะได้ยินกันมาบ้าง เพราะไม่นานมานี้ทางหน่วยงานสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNEP ได้ออกมาเตือนว่า "โลกกำลังเข้าสู่วิกฤติทรายกำลังจะหมดโลก (Sand Crisis)" แต่สงสัยกันหรือไม่ว่า ทรายจะหมดโลกของเราไปได้อย่างไร
เนื่องจาก "ทราย" เป็นสิ่งที่เราเห็นได้รอบตัว ดูเหมือนมีจำนวนมากมายใช้เท่าไรก็ไม่หมด แต่แท้จริงแล้ว "ทราย" นั้นถูกนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่า "ทราย" เป็นทรัพยากรอันดับ 2 ของโลกที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดรองมาจากน้ำดื่ม
แม้ว่าทรัพยากรทรายจะมีมากมายมหาศาล อาจจะมากเท่ากับน้ำในทะเล แต่เนื่องจากปัจจุบันมีการขยายตัวของเมือง ทำให้ความต้องการทรายในอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น การนำทรายไปเป็นส่วนประกอบในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ถนนหนทาง เป็นวัสดุที่ใช้ทำแก้ว ทำคอนกรีต ยางมะตอย หรือแม้แต่ไมโครชิป ที่ทุกวันนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญของ มือถือ, รถ EV, เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ ล้วนแต่ขาดชิปไม่ได้ และชิปก็ผลิตจากวัตถุดิบหลักคือทราย
จากข้อมูลของ UNEP พบว่า ในแต่ละปีจะมีการนำทรายไปใช้เฉพาะในอุตสาหกรรมการก่อสร้างมากถึง 40-50 พันล้านเมตริกตัน ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นถึง 300 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเพียง 20 ปี และมีแนวโน้มที่ความต้องการจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากการขยายของเมือง การเติบโตของประชากร และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 2 ปี และใช้แม่น้ำทุกสายในโลกนี้ในการสร้างทรายขึ้นมาทดแทนใหม่
ถามว่าเรานำทรายจากทะเลทรายมาใช้ได้หรือไม่?
ในปัจจุบันเราใช้ทรายก่อสร้างจากแม่น้ำ ชายฝั่ง และก้นทะเล ส่วนทรายในทะเลทรายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้นไม่สามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้างได้ เนื่องจากมีขนาดเล็ก หรือมีความละเอียดเกินไป ทำให้ไม่คงทน ซึ่งความต้องการใช้ทรายมีมากขึ้นก็จะกระทบต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติที่ไม่สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนได้ทัน ซึ่งปัญหานี้จะส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม เช่น การก่อสร้าง รวมไปถึงการผลิตกระจก
ในทางธรณีวิทยา ทราย คือตะกอนที่เกิดการสลายตัวและผุพังของหิน 3 ชนิด ได้แก่ หินทราย หินแปร และหินอัคนี ส่วนลักษณะของทรายจะร่วนไม่แข็งตัวเป็นหิน และตะกอนที่จะเรียกว่าทรายนั้นจะต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.06-2 มิลลิเมตร หากตะกอนนั้นมีขนาดมากกว่า 2 มิลลิเมตรขึ้นไปจะเรียกว่า กรวด
จากปัญหาดังกล่าวทำให้บางประเทศเริ่มคิดวิธีใช้ทรายธรรมชาติให้น้อยลง อาทิ จีน และสหรัฐฯ ด้วยการบดหิน หรือคอนกรีตเก่าที่ถูกทุบรื้อให้กลายเป็นวัสดุมวลรวมขนาดเล็ก อย่างกรวด หรือแม้แต่ทราย ผสมใช้เป็นคอนกรีตได้
