ผ่านช่วงมรสุมชีวิตจนวันนี้ นักแสดงสาว ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร พร้อมกลับมาทำงาน ร่วมงาน Grand Opening New Product เปิดตัวสินค้าใหม่ในเครือบริษัทแฮวอน ณ Design Village เกษตร-นวมินทร์ เคลียร์ใจทุกเรื่องราวเริ่มจาก “จิตใจก็ดีขึ้นในระดับนึงค่ะ ที่ดีขึ้นน่าจะเป็นกำลังใจจากหลายๆฝ่าย คุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว แฟนคลับค่ะ ทำให้ไอซ์ใจฟูขึ้นเยอะค่ะ ก็มีปรึกษาแพทย์ค่ะ”แสดงว่าเน้นเรื่องการพักผ่อน? “ใช่ค่ะ จริงๆไอซ์เป็นคนที่เวลาเครียดเยอะๆแล้วจะนอนไม่หลับ พอนอนไม่หลับก็จะทานไม่ได้ มันจะผิดเวลาไปหมด มันทำให้เราไม่มีสารอาหารไปเลี้ยง แล้วมันก็วูบได้ สำหรับคนเป็นโรคนี้เองจะรู้ดีว่าเราไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือความเครียดในวันที่เราเจอปัญหาได้ มันอาจจะทำให้เรานอนไม่หลับหรือทานอาหารไม่ได้เป็นเรื่องปกติค่ะ”ที่ผ่านมามันถึงขั้นวิกฤติของโรคมั้ย? “คิดว่านะคะ ถึงกับวูบไปเนี่ยคิดว่าวิกฤติแล้วแหละ เพราะว่ามันอาจจะเจอปัญหากับหลายๆด้านด้วย พอเราเครียดมากก็กลายเป็นเราไม่ได้ทานไม่ได้นอน นอนก็ไม่ได้หลับสนิทค่ะ ถามว่านอนไม่หลับกี่วัน คือมันนับเป็นวันไม่ได้ค่ะ แต่มันจะสะสม สมมติวันนี้ไอซ์หลับเกือบเช้า มันจะรู้สึกตัวง่าย บางทีเราหลับไปแต่ว่าเราอาจจะไม่ได้หลับลึก เหมือนหลับกลางๆ รู้สึกตัวตลอดเวลา คือเราคิดหลายๆเรื่องตลอดเวลา บางทีมันก็วูบไปได้”จริงๆวันนั้นเราเป็นยังไงบ้าง? “คือวันนั้นจริงๆไอซ์ก็ใช้ชีวิตปกติค่ะ แต่พอดีมันมีเรื่องเข้ามาเยอะมากแล้วเครียด ก่อนหน้านี้มันเป็นการสะสมมาเป็นเวลานานหลายอาทิตย์ พอฟื้นขึ้นมาที่ รพ.ตอนแรกก็งงๆค่ะ เราก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเราเป็นอะไรไป คุณหมอบอกว่าเราอาจจะเพลียมากเกินไป แล้วก็บวกกับไอซ์เป็นความดันต่ำด้วย”กับข่าวก่อนหน้านี้หลายคนเข้าใจว่า ไอซ์กินยาเพื่อฆ่าตัวตาย? “ไม่ถึงกับขนาดนั้นค่ะ เป็นความเครียดมากกว่า ส่วนยาไอซ์ทานอยู่แล้วค่ะ ถามว่ามีแวบคิดมั้ยมันก็มีแวบๆบ้างอยู่แล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นนั้น” หลายคนก็เป็นห่วง เราได้รับกำลังใจยังไงบ้าง? “โห ขอบคุณมากเลยค่ะ ต้องขอบคุณจริงๆ สำหรับหลายคนที่เข้ามาให้กำลังใจไอซ์เยอะมากๆเลย ก็ขอบคุณอีกครั้งนึงนะคะ (ยกมือไหว้) เพราะมันเป็นกำลังใจที่ดี สำหรับไอซ์มากเลย ไอซ์อ่านทุกคอมเมนต์”ถือเป็นช่วงที่ดาวน์ที่สุดในชีวิตมั้ย? “ดิ่งเลยแหละค่ะ ดิ่งที่สุดแล้วค่ะ ตอนนี้ก็กลับมาแล้วค่ะ”ตอนวิกฤติหนักๆใครยื่นมือมาช่วยเหลือบ้าง? “ก็เพื่อนๆค่ะ จริงๆคนแรกที่ไปถึง รพ.ที่เจอวันแรกคือน้ำชา-ชีรณัฐ น้ำชาเป็นคนที่จับมือไอซ์วันแรก”ปัญหาหลักคือเรื่องเงินเลยใช่มั้ย? “จริงๆไอซ์เครียดตั้งแต่เรื่องข่าวแล้วเนอะ มีคดีความ ซึ่งมันไม่มีคดีความอะไรเลย มันจบไปแล้ว หลังจากนั้นก็เครียดมาเรื่อยๆ เพราะเรื่องงานอีก มีปัญหาเรื่องคุณแม่ไม่สบายด้วย มันก็เลยบวกกันเข้ามาอีก”เงินเก็บใช้หมดเลยจริงมั้ย? “ใช่ ใช้เงินเก็บค่ะช่วงที่คุณพ่อผ่าตัดเป็นช่วงที่ไอซ์ต้องใช้เงินรักษาคุณพ่อหมดเลย”หาเงินไม่ได้คล่องเท่าสมัยก่อน? “ใช่ค่ะ ก็ไม่ได้คล่องขนาดนั้น ตอนนี้ก็พยายามทำตัวเองให้แข็งแรง กลับมาทำงานให้ได้ จริงๆก็หาทางหลายวิธี แต่ว่าตอนนั้นปัญหาเยอะมาก เราก็ไม่กล้าปรึกษาใคร มันก็เลยกลายเป็นเราเครียดเอง”ช่วงที่แย่สุดๆเหลือเงินในบัญชีเท่าไร? “ไม่กล้านับเลย มันก็เครียดอยู่แล้วเนอะ เงินเก็บเรา แต่ไอซ์รู้สึกว่าเสียสละเงินก้อนนี้ได้ มันไม่เป็นปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะไอซ์เอาไปรักษาคุณพ่อคุณแม่ต่อให้ไอซ์ไม่มีเงินเหลือสักบาทก็ไม่เป็นไร ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งก็เป็นก้อนเลยค่ะ มันหายไปเลยก็เป็นหลักล้าน ครั้งละ 3 ล้าน 5 ล้านค่ะ”ทุกวันนี้ไอซ์มีภาระค่าใช้จ่ายยังไงบ้าง? “จริงๆจะเป็นค่ารักษาพยาบาลเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่ ค่ายา และก็ของตัวไอซ์เองด้วย คือไอซ์เป็นเสาหลักของบ้าน ไอซ์ก็ไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทำงาน เพราะ เค้าอายุเยอะแล้ว อีกอย่างเค้าไม่สบายด้วย ไอซ์ก็เต็มที่ค่ะ ตอนนี้ก็พร้อมค่ะ ใครมีงานก็จ้างไอซ์ได้ พร้อมมากเลยค่ะ (ยิ้ม)”จะลดการเล่นโซเชียลลงมั้ย? “ไอซ์ก็เคยทำนะ ช่วงที่เครียดมากๆมีข่าวเยอะๆก็พยายามไม่ดูอะไรทั้งสิ้นเลย ก็ดีขึ้นค่ะ คุณแม่ เพื่อน แฟนคลับ คุณหมอก็บอกว่าหยุดอันนี้ไปก่อนเลย เราพักใจก่อนเลย ไปต่างประเทศมั้ยหรือไปต่างจังหวัด ให้ไปพักผ่อนแต่ด้วยความที่เราก็ทำงานตรงนี้ มันก็เลยเลี่ยงการเสพสื่อหรือโซเชียลมีเดียไม่ได้”ตอนนี้ความสุขของไอซ์คืออะไร? “ความสุขของไอซ์คือการทำงานค่ะตอนนี้ ก็อยากกลับมาทำงานค่ะ เพราะว่ารู้สึกว่ามันทำให้เราได้แอ็กทีฟ ทำโน่นทำนี่ค่ะ”ล่าสุดมีคนชมว่าหน้าเราสวยมาก? “อ๋อ ขอบคุณค่ะ (ยิ้ม) ได้หยุดงานพักผ่อน พยายามนอนเยอะๆ ทานอาหารเยอะๆ ที่มีประโยชน์ ตอนนี้ผอมลงน่าจะ 5 กก. แล้วค่ะ ภายใน 1 เดือน ถามว่าอยากทำงานอะไร ภาพยนตร์ ละคร พรีเซนเตอร์ ร้องเต้นเล่นหนูทำได้หมดค่ะ”.