หลังจาก โบว์–เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ ออกมาบอกกล่าวว่าเลิกรากับแฟนหนุ่ม ก็อต–จิรายุ ปิดฉากรัก 10 ปีไปอย่างเจ็บปวด ขณะที่ฝ่ายนักแสดงหนุ่มจะไม่ออกมาพูดอะไร หลายคนก็ยังเป็นห่วงสาว โบว์ ผ่านช่วงเวลานี้ไปอย่างไร โดย โบว์ พูดถึงสภาพจิตใจตอนนี้ว่า “โอเค เราเดย์บายเดย์ เป็นวันที่ดี แต่ถ้าอยู่คนเดียวก็แล้วแต่วันเหมือนกัน โบว์ เป็นคนที่ค่อนข้างยอมรับอารมณ์ตัวเอง ถ้าวันไหนดีก็จะบอกว่าดี โดยเฉพาะเวลาเพื่อนๆมาถามว่าวันนี้เป็นไงบ้าง ดีก็ดี แต่ถ้าวันไหนนอยด์มากจะโทร.หาเพื่อนให้มาหาหรือจะหากิจกรรมทำ แต่ช่วงนี้ค่อนข้างอยู่บ้านโบว์รู้สึกว่าการที่จะจัดการกับอารมณ์ตัวเอง หรือความรู้สึกต่างๆมันค่อนข้างสำคัญ ช่วงนี้ได้นั่งสมาธิเยอะขึ้น ได้อ่านหนังสือเยอะขึ้น ฟังข้อความหรือเปิดฟังอะไรที่มันเจริญสติเราที่ทำให้รู้สึกว่าต้องจัดการกับมันให้ได้ เพราะฉะนั้นการที่โบว์เอาเอนเนอร์จี้ของโบว์ออกไปข้างนอก อาจจะต้องเอนเตอร์เทนคนโน้นคนนี้ หรือไปเจอคนโน้นคนนี้ มันกลายเป็นว่าเหนื่อย การที่เราอยู่บ้านแล้วจัดการกับอารมณ์ตัวเองเป็นอะไรที่ตอบโจทย์สำหรับโบว์ตอนนี้ แต่ก็มีด้วยความที่เพื่อนๆเป็นห่วง ก็จะมาบุกบ้านกัน เขารู้ว่าเราก็จัดการของเราอยู่ สำหรับตัวโบว์ไม่อยากลัดขบวนการหรือไม่อยากบอกว่าโอเคมาก แล้วทุกคนคิดว่าโอเคแต่ในใจคือยังไม่โอเค”ยังร้องไห้คนเดียว? “มันมีแหละ ก็ใช้ธรรมะช่วย วันไหนดิ่งมากการนั่งสมาธิและพิจารณาต่อความรู้สึก สิ่งนึงที่สำคัญและช่วยได้เยอะคือยอมรับว่าตอนนี้ไม่โอเค ยอมรับว่าวันนี้ดีขึ้น แล้วอีกอย่างที่โบว์ทำเพิ่ม มีดีเอ็มเข้ามาเยอะเหมือนกัน ก็แนะนำน้องคนนึงไปว่าปกติโบว์จดบันทึกอยู่แล้วประจำวัน แต่ก็จดความรู้สึกตัวเองเข้าไปเพิ่ม เหมือนไดอารีถึงตัวเอง พอเวลาเรากลับไปดูจะเห็นว่ามีการพัฒนาความรู้สึกนะ บางวันอาจจะดร็อปบ้างหรือกลับไปสเต็ป สองสเต็ป มันสามารถดูได้ว่าเราพัฒนาไปตอนไหน จากวันแรกที่เขียนจดถึงวันนี้ เราเห็นว่าพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น” ตั้งแต่วันที่ไปออกรายการ จนถึงวันนี้ได้คุยกับก็อตบ้างหรือยัง? “(ส่ายหัว) ไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย”สิ่งที่มันยังทัชใจเราอยู่คือภาพเก่าๆ หรือแฟนคลับที่ให้กำลังใจแล้วยังเห็นมู้ดเดิมๆในโซเชียล? “ภาพโบว์ ในโซเชียลตอนนี้เยอะมาก โบว์ว่าจริงๆต่อให้ไม่มีภาพพวกนั้นมันอยู่ที่นี่ (จับที่หัวใจ) มันเป็นการสะสมระยะเวลานานมาก โบว์ไม่สามารถที่จะกดลบมันไปได้ เวลานี้ก็แค่ยอมรับความจริงว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ แล้วเราก็วันต่อวัน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงเลย เราไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ในสภาวะนี้อีกนานแค่ไหน”ณ วันนี้เข้าใจเหตุผลที่เขาเปลี่ยนไป? “ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พยายามเข้าใจ”เราไม่คิดหรือว่า ผิดที่ฝั่งเราหรือเขา? “มันน่าจะทั้งคู่แหละ โบว์คิดว่าน่าจะต้องเป็นทั้งคู่ เพราะตบมือข้างเดียวมันไม่ดังเนาะ มันต้องมีอะไรที่ต่างคนต่างกระทบกันมากกว่า”เคยเลิกมาหลายครั้ง? “อันนั้นเป็นฟีลทะเลาะกัน”อยากคุย อยากเคลียร์อะไรกับเขามั้ย? “จริงๆมีหลายอย่างที่อยากพูดมาก แต่โบว์เคารพในการตัดสินใจของเขาแล้วก็ให้เกียรติ เพราะรู้สึกว่าใครที่อยู่กับเราแล้วเขาไม่แฮปปี้ โบว์ไม่ได้ใจร้ายที่จะต้องรั้งไว้ คุณต้องอยู่ในความทุกข์กับเรา ถ้าเรารักเขาจริงๆก็ต้องไม่เห็นแก่ตัว แล้วเราก็ต้องมาจัดการกับตัวเอง”วันหนึ่งมันอาจจะมีหวังก็ได้? “โบว์ ไม่รู้เลย ไม่กล้าจะคอนเฟิร์ม แม้กระทั่งเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ก็เลยไม่คาดหวังอะไรละ (ยิ้ม) อะไรมันจะเกิดก็ต้องเป็นไปตามนั้น เพราะเวลาเราไปปักธงอะไรไว้มันเฮิร์ตอะ มันไม่เป็นดั่งใจที่เราต้องการ หรือสิ่งที่เราคิดเอาไว้ แล้วมันเคว้งอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน”.