ผลการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์กำหนดชะตาประเทศ ผลคะแนนแต่ละพรรคปรากฏให้เห็นแล้วนับจากนี้ไปโฉมหน้ารัฐบาลชุดใหม่จะลงเอยอย่างไร นายกรัฐมนตรีคนในหรือคนนอกรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลเฉพาะกิจ จะเป็นไข่ฝ่อหรือฟูมฟักให้เติบใหญ่สุดท้ายผลการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะหรือไม่ ต้องเกาะติดห้ามกะพริบตาผ่าทางตันการเมืองหลังเลือกตั้ง เพื่อเดินหน้าประเทศไทย รูปแบบที่ควรจะเกิดขึ้นในสายตาอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายไชยันต์ ไชยพร บอก ทีมข่าวการเมือง ถึงการเลือกตั้งครั้งนี้มีการเขย่าทางความคิดที่รุนแรงระหว่างสองขั้วการเมืองปกติการเขย่าทางความคิดมีอยู่ตลอดเวลา โดยย้อนให้เห็นภาพการรณรงค์หาเสียง ปี 2544 พรรคไทยรักไทยออกนโยบายถือว่าเขย่าเหมือนกัน มันน่าตื่นเต้น แต่การเลือกตั้งไม่ได้ทิ้งช่วงนานมันก็เลยไม่รู้สึกว่ามีอะไรใหม่ไม่เหมือนการเลือกตั้งครั้งนี้มีจำนวนพรรคการเมืองและผู้สมัคร ส.ส.สถิติสูงสุดนับแต่มีการเลือกตั้ง รูปแบบการเลือกตั้งคะแนนจะไม่ค่อยทิ้งกันเท่าไหร่ แต่ละพรรคขวนขวายเต็มที่ ไม่ชนะในเขตเลือกตั้งก็ขอให้ได้คะแนนเสียงบรรยากาศเลยคึกคัก รู้สึกว่ามันเขย่าแรงมาก เพราะว่างเว้นจากการเลือกตั้งมานาน ขณะเดียวกันบางพรรคที่เกิดขึ้น เริ่มรู้สึกว่าการเมืองยุคใหม่เป็นการเมืองเรื่องเอกลักษณ์เน้นเฉพาะกลุ่มพรรคอนาคตใหม่ก็มองเป้าไปที่นิวโหวตเตอร์ คลอดนโยบายโดนใจบรรดาคนรุ่นใหม่ ย่อมไปกระชากใจคนรุ่นเก่า ถือเป็นเรื่องปกติ หลังการเลือกตั้งจะเกิดปรากฏการณ์อะไรเมื่อพรรคการเมืองต่อสู้เชิงความคิดที่รุนแรง นายไชยันต์ บอกว่า หลังเลือกตั้งการต่อสู้ทางความคิดก็คงจะเป็นไปตามวาทกรรมที่หาเสียงเอาไว้ ฝ่ายหนึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตย เรียกอีกฝ่ายว่าเป็นเผด็จการหรือสืบทอดอำนาจพอหลังเลือกตั้งประชาชนส่วนใหญ่เทคะแนนให้ฝ่ายที่ถูกเรียกว่าเป็นเผด็จการ จะไปครหาเป็นการสืบทอดอำนาจคงเป็นไปไม่ได้ยกเว้นมีการแฉให้เห็นถึงการทุจริตอย่างโจ๋งครึ่ม จะเกิดปัญหาวุ่นวายตามมาว่าชนะแบบโกงมา พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะก็เอาไม่อยู่หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) องค์กรอิสระก็ดีทำงานไม่ค่อยถูกใจประชาชนหรือผู้เสียหาย ก็มีสิทธิ แต่จะแตกต่างเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พรรคการเมืองที่แพ้ก็รวมตัวขนคนออกมาถ้าจับได้ว่ามีการทุจริตเป็นขบวนการ หวังว่าอย่าทำทุจริตเลย ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาพรรคการเมืองนั้น มันก็ชัดเจนว่าตอนนี้เสียงส่วนใหญ่ของสังคมไม่ต้องการนักการทหารที่เปลี่ยนสภาพเป็นนักการเมืองแต่ปัญหาจัดตั้งรัฐบาลจะเกิดขึ้นเมื่อคะแนนของแต่ละพรรคได้อันดับ 1-2-3 ไล่เลี่ยกัน สภาพแบบนี้เป็นปัญหาทุกประเทศ ไม่เฉพาะในประเทศไทยสมมติการเมืองประเทศอังกฤษ พรรคอนุรักษนิยม และพรรคแรงงานได้คะแนนเสียงไม่ต่างกัน ไม่มีพรรคไหนได้เสียงมากเกินครึ่ง เป็นจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ อาจต้องยุบสภาหรือเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย การตั้งรัฐบาลสูตรไหนประเทศถึงเดินหน้าไปได้ นายไชยันต์ บอกว่า รัฐบาลในฝันที่พูดย้ำมาตลอดตั้งแต่ลงประชามติรัฐธรรมนูญว่า ไม่เอาลักษณะต้องพึ่งพา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและทีมงาน ไม่เช่นนั้นจะมีนายพลบางคนตามมาด้วย พะรุงพะรังวุ่นวายไปหมดแล้วเปิดให้พรรคการเมืองสำคัญ เช่น เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย อนาคตใหม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลได้ 376 เสียง ถ้าเสียงไม่ถึง แต่รวมเกิน 250 เสียง สมาชิกวุฒิสภาก็ควรสนับสนุนสูตรนี้ทำให้เห็นว่าสังคมไทย การเมืองไทยสามารถเดินหน้าไปในสายที่นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แม้แต่ละพรรคจะประกาศว่าไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน ถึงอย่างไรสูตรการจัดตั้งรัฐบาลในฝันของผมก็คือ พรรคเพื่อไทยต้องชัดเจน ไม่อยู่ภายใต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยก็พยายามประคับประคองไม่ไปผูกกับนายทักษิณมากพรรคประชาธิปัตย์คงต้องเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ให้คนอื่นขึ้นมาแทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เช่นนั้นประชาชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยจะรับไม่ได้ว่า ทำไมไปจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับนายกรัฐมนตรีคนที่สั่งกระชับพื้นที่ปี 2553ยกเว้นได้ไม่ถึง 100 เสียง นายอภิสิทธิ์ลาออกตามที่ประกาศเอาไว้ ก็จะเป็นทางเปิดให้จับมือระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย เพราะนายอภิสิทธิ์ระบุว่าไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย พอเปลี่ยนหัวหน้าพรรคสถานการณ์ก็อาจจะจับมือกันได้เป็นสูตรในฝันอยากให้เกิดขึ้น ถือเป็นการปรองดองระหว่างคู่มวยที่ชนกันมายาวนานนับสิบปีปรองดองสูตรนี้ก็บรรลุเป้าหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยไม่ได้ตั้งใจหรืออะไรก็แล้วแต่ยิ่งสามพรรคคู่ขัดแย้ง พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมจัดตั้งรัฐบาลก็สวยงามอีกแบบ ภายใต้เงื่อนไขหลังการเลือกตั้งมันงวดขึ้นเรื่อยๆ ชักวุ่นวายแล้วจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ประชาชนเริ่มด่าทั้งสามพรรคใหญ่ก็มีคนที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถเยอะ ถ้าทำงานด้วยกันได้ก็สามารถนำพาประเทศให้ผ่านปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ ก็จะเป็นไปตามโหรทำนายว่าประเทศจะดีขึ้นทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่าควรจะเกิดขึ้น การเมืองไทยก็เร่งเข้าสู่โหมดประชาธิปไตยมากขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่อีก 4 ปีก่อนพอปิดหีบเลือกตั้ง กกต.จะชี้เป็นชี้ตายเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก แต่ขณะนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ เป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบต่อสถานการณ์การเมืองอย่างไร นายไชยันต์ ยอมรับว่าเป็นห่วง กังวลจะรับมือไหวหรือไม่ เพราะ กกต.รับมือการเลือกตั้งล่วงหน้าก็มีปัญหา น่าเห็นใจ กกต.เพิ่งจัดการเลือกตั้งครั้งแรกที่สำคัญอาจทำให้เกิดการลุกฮือขึ้นมาได้ เพราะประชาชนมองว่ารัฐบาล คสช.แต่งตั้ง ใช้มาตรา 44 บอกให้กรรมการองค์กรอิสระบางคนอยู่ต่อ บางคนให้พ้นจากตำแหน่งถ้าพรรคการเมืองที่แพ้ แล้วพยายามเข็นประชาชนออกมาแซะ และประชาชนที่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐก็ออกมาสนับสนุน มันจะเกิดการชุมนุมบนท้องถนนอีกรอบคราวนี้คู่ขัดแย้งไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย แต่เป็นพรรคการเมืองกับฝ่ายรัฐประหารฉะนั้นขอให้ กกต.ประคับประคองประกาศผลการเลือกตั้งให้ดี ทำงานรวดเร็วตามกำหนดเวลา ยิ่งเร็วยิ่งดีทีมข่าวการเมือง ถามว่า พรรคเพื่อไทยห่วงว่าถ้าฝ่ายประชาธิปไตยรวมเสียงเกิน 250 ขึ้นไป จะนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นโมฆะนายไชยันต์ บอกว่า หากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลชนะและทำให้การเลือกตั้งโมฆะ ยิ่งทำให้ประชาชนอัดอั้นตันใจ เชื่อไม่กล้าทำหรอกคงมีเพียงประท้วงผลการเลือกตั้งถ้า กกต.จัดการไม่ดีกรอบการตั้งรัฐบาลเป็นอีกประเด็นสุดท้ายก็มีคำว่ารัฐบาลแห่งชาติโผล่ขึ้นมาเป็นระยะ มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายไชยันต์บอกว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่ผลคะแนน หากคะแนนทุกพรรคก้ำกึ่งกันหมด ก็จัดตั้งรัฐบาลช้าเช่น ประเทศเบลเยียมมีอยู่ครั้งหนึ่งผลเลือกตั้งออกมาไม่มีพรรคใดได้เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของสภา รัฐธรรมนูญไม่กำหนดกรอบเวลาต้องจัดตั้งรัฐบาลเอาไว้ เลยตกอยู่ในสภาวะไม่มีรัฐบาลเกือบ 2 ปีรัฐธรรมนูญ 60 ก็ไม่ได้กำหนดเวลาจัดตั้งรัฐบาล ถ้าจัดตั้งไม่ได้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังอยู่เป็นต่อหากเนิ่นนานเข้า สภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ชอบ ถึงจุดหนึ่งประชาชนก็ไม่ชอบพล.อ.ประยุทธ์เป็นรัฐบาลต่อไปอีกสักพักก็คงเหนื่อยเพราะจะทำงานกับสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างไร เชื่อมกันไม่ได้ฉะนั้นถึงจุดหนึ่งก็ต้องคุยระหว่างสภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภา เพื่อหาทางออกจากทางตันเชื่อคงยกรัฐธรรมนูญมาตรา 5 กรณีไม่มีบทบัญญัติบังคับ ให้กระทำการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข.ทีมการเมืองอ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562