ตำนาน ยักษ์วัดแจ้ง เหาะข้ามเจ้าพระยา มารบกับยักษ์วัดโพธิ์ จนที่ดินริมแม่น้ำโล่งราบเตียน เป็นที่มาของชื่อ “ท่าเตียน” เด็กรุ่นผมฟังจากเพลง ที่คุณมีศักดิ์ นาครัตน์ ร้องฟังจากตำนาน ยักษ์สองวัดนั้น น่าจะเป็นยักษ์วัยรุ่น เลือดร้อน ไม่มีศักดิ์ชั้นแต่ยักษ์วัดพระแก้ว ที่ก็อยู่ใกล้กัน ยืนกุมกระบองนิ่ง ทำหน้าที่ดูแลรักษาพระแก้วมรกตในโบสถ์ ไม่เคยมีเรื่องยกพวกตีกัน ทั้งหกคู่ 12 ตน เป็นยักษ์ผู้ใหญ่มีศักดิ์ชั้นถึงขั้นพญา มีเรื่องเล่าไว้ ในตำนานพระแก้วมรกตเมื่อพระนาคเสนะเถระ ปรารภจะสร้างพระพุทธรูปด้วยรัตนะ พระอินทร์จึงอาสา สั่งให้พระวิสสุกรรมไปนำแก้วมณีสีขาวนวลซึ่งเป็นแก้วสำหรับพระจักรพรรดิ จากภูเขาวิบุลบรรพตแก้วมณีก้อนนี้ มีพวกกุมภัณฑ์เฝ้ารักษา บารมีพระวิสสุกรรมไม่พอ กุมภัณฑ์ไม่ยอมให้พระอินทร์ต้องออกแรงเสด็จไปเอง พวกกุมภัณฑ์เกรงบารมีก็มีท่าทีอ่อนลง ต่อรองว่า อย่าเอาแก้วมณีสีขาวไปได้หรือไม่ ขอให้เอาแก้วมณีสีเขียว ที่เรียกว่าแก้วอมรโกฏไปแทนพระอินทร์จำใจรับ ได้แก้วอมรโกฏสีเขียวมาแล้ว ก็สั่งให้พระวิสสุกรรมแปลงร่างเป็นช่าง จำหลักจนสำเร็จ เป็นองค์พระแก้วมรกตก็ด้วยเหตุที่แก้วอมรโกฏเคยอยู่ในการดูแลของพวกกุมภัณฑ์ เมื่อมาเป็นพระพุทธรูปแล้ว จึงเห็นควรให้มีกุมภัณฑ์มาทำหน้าที่พิทักษ์รักษาครั้นเมื่อพระแก้วมรกตมาประดิษฐานอยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จึงให้สร้างรูปยักษ์ ยืนเรียงราย หันหน้าเข้าหาอุโบสถ ยักษ์ทั้งหมด มี 6 คู่ด้วยกันคู่ที่ 1 อินทรชิต กายสีเขียว บุตรทศกัณฐ์ กับ สุริยาภพ กายสีแดง บุตรท้าวจักรวรรดิคู่ที่ 2 มังกรกัณฐ์ กายสีเขียว บุตรพญาขร กับ วิรุฬหก กายสีขาบ เป็นพระยารากษสคู่ที่ 3 ทศคีรีวัน กายสีเขียว บุตรทศกัณฐ์ กับ ทศคีรีธร กายสีหม้อใหม่ ฝาแฝดกับทศคีรีวันคู่ที่ 4 วิรุฬจำบัง กายสีมอหมึก บุตรพระยาทูษณ์ กับ มัยราพณ์ กายสีม่วงอ่อน เป็นพญาเมืองบาดาลคู่ที่ 5 สหัสสเดชะ กายสีขาว รากษสครองเมืองปางตาล กับ ทศกัณฐ์ กายสีเขียว เจ้ากรุงลงกาคู่ที่ 6 จักรวรรดิ กายสีขาว ครองกรุงมลิวัล กับ อัศกรรณมารา กายสีม่วงแก่ ครองเมืองดุรับอ่านจากตำนาน นับแต่ฟ้าผ่าเจดีย์ ที่เชียงราย พบพระแก้วมรกตแล้ว ท่านก็ต้องย้ายที่จำพรรษา ไปลำปาง ย้อนมาเชียงใหม่ ไปเวียงจันทน์ จนกระทั่งถูกนิมนต์มาไว้ที่วัดพระแก้ว กรุงรัตนโกสินทร์ท่านก็อยู่ยั้งยืนยงคงที่...อยู่ในโบสถ์เหตุเพราะมีพญายักษ์ ผู้เรืองฤทธิ์เดช...จับคู่กันหกคู่ ถือกระบองใหญ่ ยืนอารักขา...จึงไม่มีใครกล้านิมนต์ท่านย้ายไปที่ไหนสรุปว่า พญายักษ์ในรามเกียรติ์ ที่ถือเป็นยักษ์ร้าย กลับใจมาเป็นผู้พิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา กลายเป็นยักษ์ดี...มีใจเป็นกุศลส่วนยักษ์ทางการเมือง ตนที่ถูกเนรเทศไปอยู่นอกประเทศ...แต่ยังติดใจอำนาจ และ “เงินก้อนใหญ่” ที่เปรียบเป็น “กระบองยักษ์” ที่ถูกยึด จึงเป็นเหตุให้ติดใจ สร้างเรื่องชิงกระบองคืน ตลอดเวลากว่าสิบปียักษ์ตนนี้มีฤทธิ์มาก...ก็แค่พูดอะไรๆไม่กี่คำ ย้ำว่าจะพูดทุกวันจันทร์ เท่านั้น ฝ่ายบ้านเมือง ก็สะท้านหวั่นไหว คนระดับผู้นำยังทำท่าจะถอดใจทิ้งเก้าอี้มาด้วยวาจา ฤทธิ์เดชยังแค่นี้ ถ้ามาด้วยตัวเอง ฤทธิ์เดชจะขนาดไหน คิดแค่นี้ก็สยองพองขนแล้วล่ะครับ.กิเลน ประลองเชิง