เพรียงทราย (Sand worm) สัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในกลุ่มไส้เดือนทะเล (Polychaete) เป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ อาศัยอยู่บริเวณชายหาดน้ำปริ่มๆ หรือน้ำครึ่งหาด อาศัยฝังตัวใต้พื้นทราย กินซากพืชและซากสัตว์เป็นอาหาร ทำหน้าที่เหมือนผู้รักษาสิ่งแวดล้อมคอยกำจัดขยะตามชายหาดเพรียงทรายแพร่กระจายบริเวณที่มีลักษณะเป็นดินทราย ทรายหยาบ ทรายเปลือกหอย อาจพบตามบริเวณป่าชายเลน ใต้โขดหิน ซากปะการัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของเพรียงทราย มีทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามันเพรียงทรายเป็นอาหารสดมีชีวิตที่ผู้ประกอบการผลิตลูกกุ้งทะเลนิยมนำมาเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์กุ้งอย่างกว้างขวาง เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูงทั้งโปรตีน ไขมัน และแร่ธาตุต่างๆ จำเป็นต่อการพัฒนารังไข่ของกุ้งทะเลสูงแม่พันธุ์กุ้งทะเลที่ได้กินเพรียงทรายจะให้ไข่ดก มีคุณภาพดี อัตราการรอดสูง รวมถึงยังใช้เป็นอาหารสำหรับพ่อแม่พันธุ์ปลาทะเล และปูทะเลด้วยเมื่อสี่ปีที่แล้ว น้อยคนที่จะรู้จักเพรียงทราย มีแต่คนในวงการโรงเพาะฟักรู้จักดี คำบอกเล่าของสุรชัย ธรรมคุณ หรือต้น เจ้าของฟาร์มเลี้ยงเพรียงทราย เลขที่ 110 หมู่ 5 ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพรต้นอายุ 35 ปี จบประมงรุ่นแรก จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร ก่อนหน้าทำงานอยู่โรงเพาะฟักพ่อแม่พันธุ์ลูกกุ้งระยะแรกที่ภูเก็ตราว 4 ปีวันหนึ่งใน 10 เดือน ที่มีโอกาสไปทำงานเกี่ยวกับโรงเพาะฟักที่อินเดีย เงินเก็บที่มีเอาไปสร้างบ้านจนหมด ไม่มีเหลือไว้ลงทุน ต้นเข้าไปคุยกับหัวหน้าชาวอินเดียขอเงินลงทุน หัวหน้าใจดีให้มาหนึ่งล้านบาทต้นตั้งใจจะเลี้ยงเพรียงทราย เพราะเห็นช่องทางตั้งแต่สมัยเรียนแล้วว่าใช้ทุนต่ำ แต่ขายได้ในราคาที่สูงมาก และยังเป็นที่ต้องการของตลาดกลับจากอินเดีย ต้นระดมทุนกับพี่ๆน้องๆของแฟน ลงมือสร้างโรงเรือน ขั้นตอนไม่มีอะไรมาก เพราะเคยทำโรงเพาะฟักมาแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือความสะอาดต้นสร้างบ่อขึ้นมา 66 บ่อ ดูดน้ำจากทะเลมาทรีสคลอรีน คือการฆ่าเชื้อโดยใช้คลอรีน ทำให้น้ำสะอาดที่สุด แล้วเอามาเก็บที่บ่อสต๊อก พร้อมใช้ในระบบต้นขับรถไปซื้อพันธุ์เพรียงจากกรมประมงที่ภูเก็ต เอาเพรียงใส่กระบะที่มีทราย ราคากระบะละ 1,000 บาท ขนกลับมา 10 กระบะ“ตอนเริ่มเลี้ยงครั้งแรกก็ยังงง” ต้นว่า “สุดท้ายกลับสู่วิธีธรรมชาติ หลักวิชาการก็ควรเอามาประยุกต์ควบคู่กัน เหมือนนักรบจีนที่มีทั้งบู๊และบุ๋น ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ วิทยาศาสตร์ก็ต้องมีบ้าง แต่ส่วนใหญ่ใช้ศิลป์”ต้นบอกว่า ลักษณะตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย ส่วนหัวจะมีสีขาวขุ่น ตัวเมียส่วนหัวจะมีสีเขียวสะท้อน เมื่อก่อนเคยได้ยิน ตัวผู้หนึ่งตัวต่อตัวเมียสามตัว แต่สุดท้ายไม่ต้องนับเอามาคละกันให้หมด แยกออกมาใส่กะละมังผสมพันธุ์ ดูความเข้มข้นของน้ำเชื้อ ถ้าหนืดเกินจะไม่ค่อยฟักเวลาผสมพันธุ์ตัวผู้และตัวเมียจะว่ายวนรอบตัวพร้อมทั้งสลัดตัวให้ฉีกขาด เพื่อปล่อยน้ำเชื้อและไข่ออกมาผสมกันในน้ำ ใช้เวลา 10-30 นาทีต้นยังเพาะพันธุ์เองไม่ได้ ต้องให้พ่อเป็นคนดูแล เพราะมีประสบการณ์จากการเลี้ยงกุ้งมาก่อน ต้นมีแต่ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ก็จะคอยบอกพ่อ ส่วนพ่อมีศิลปะที่จะคอยสังเกตกระบวนการเลี้ยง เอาลูกพันธุ์ที่เพาะฟักออกมาแล้วอนุบาลไว้ก่อน ที่ฟาร์มจะอนุบาลรอบเร็วประมาณ 15-20 วัน แล้วเอาลงไว้ในกระบะ แต่ถ้าให้ดีต้องอนุบาล 45-60 วันจากนั้นเอามาลงบ่อทราย ทรายที่ใช้เป็นทรายก่อสร้าง เหตุที่ไม่ใช้ทรายทะเล เพราะไม่ถูกต้อง ถ้าเอาน้อยๆก็ไม่เป็นไร แต่ที่นี่ต้องใช้ทรายเยอะมากเพรียงกินอาหารกุ้งกุลาผสมกับสาหร่ายสไปรูลินา เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร เวลาให้อาหารตอนไหนก็ได้ วันละหนึ่งครั้ง เลี้ยงไปอีกห้าเดือน จึงจะจับขายต้นบอกว่า ผลผลิตที่ได้ ตอนแรกคิดว่าจะเอาไปขายที่ตลาดปลาสวยงามที่จตุจักร เดินเข้าไปถาม 7 ร้าน ไม่มีใครรู้จักเพรียงทรายเลยสักคนแต่ถ้าในสายโรงเพาะฟัก เขาจะรู้จัก เพราะใช้เป็นอาหารให้พ่อแม่พันธุ์กุ้งเจ้าแรกที่สั่งคือบริษัทกุ้งที่สงขลา ต้นส่งตัวอย่างไปให้ดู พอได้เจ้าแรก เจ้าต่อๆไปก็มาเอง“เราส่งไม่เยอะมีแค่ 12 เจ้า จริงๆมีมากกว่านี้” ต้นว่า “ก่อนอื่นเราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าว่ามีของส่งตลอด กำลังการผลิตวันละ 130 กิโล แต่ที่ขายวันละ 60-70 กิโล เผื่อมีอะไรติดขัด เรามีป้อนให้ทุกวัน เพราะฟาร์มลูกกุ้งไม่มีวันหยุด กุ้งต้องกินทุกวัน”โรงเลี้ยงเพรียงที่หาได้มีน้อยฟาร์มที่จะเลี้ยงแบบเป็นรูปเป็นร่าง ในวงการกุ้ง มีคนเลี้ยงเพรียงอยู่ 2 เจ้า หรือ 2 ต. คือพี่ตุ้มกับต้น และกล้าพูดได้เต็มปากว่าขายถูกที่สุดในประเทศไทย ขายกิโลละ 600 บาท“ราคาที่ตั้งไว้ ผมคิดถึงใจเขาใจเรา ผมทำผมรู้ต้นทุนการผลิตไม่ได้เอากำไรเกินควร อีกอย่างเอาที่ขายง่าย โดยไม่ต้องแข่งกับใคร คิดง่ายๆไม่ต้องมีอะไรซับซ้อน ใครๆก็วิ่งมาหา โดยที่เราไม่ต้องวิ่งไปหาลูกค้ามาก”ต้นบอกว่า มีคนให้สอนการเลี้ยงเพรียงทรายเยอะมาก เคยคิดจะเก็บค่าสอนเหมือนกัน แต่ก็มานึกถึงวันที่ไปทำงานที่อินเดีย ฟาร์มนั้นมีนักวิชาการอยู่สองคนคือต้นกับคนเม็กซิโกที่ไม่สอนอะไรเลยแต่ต้นเป็นคนชอบเปิด ใครอยากรู้อะไรสอนให้ทุกอย่าง และคิดถึงวันที่ไปขอเงินหัวหน้าชาวอินเดีย ที่ให้มาแบบไม่คิดอะไรดังนั้น หากใครอยากเข้ามาขอความรู้ ยินดีสอนทุกอย่าง และถ้าเข้ามาที่ฟาร์มแล้ว บอกเลยไม่ต้องหาวิชาการ พูดสอนกันแบบลูกทุ่ง วิชาการอยู่ในคำพูดแล้วแต่คนที่มาดูงานไปแล้ว ก็ไม่เห็นมีใครเอาไปทำจริงๆ คนที่บอกว่าง่ายก็ไม่เริ่ม แต่คนที่ว่ายาก ตอนนี้เริ่มทำไป 1 เจ้า ต้นก็คอยสนับสนุนอยู่ คิดในใจ วันหนึ่งที่เขาก้าวหน้า อาจจะต้องพึ่งพิงเขาบ้างต้นบอกว่า การเลี้ยงเพรียงไม่จำเป็นต้องจบประมงเสมอไป ใครก็ได้ที่มีความใส่ใจ ตั้งใจจริงเชื่อว่าทำได้ และคนที่จะทำตรงนี้ ถ้าใส่แต่เงิน เจ๊งแน่นอนถามว่าการเลี้ยงเพรียงจำเป็นต้องเลี้ยงริมทะเลหรือไม่ต้นบอกว่า ถ้าคนไม่มีความรู้เรื่องประมงก็จำเป็น แต่สำหรับต้นต่อให้เลี้ยงริมคลองก็เลี้ยงได้ เพราะรู้เรื่องการเลี้ยงเพรียงอยู่แล้ว ถ้าจะเลี้ยงจริงๆ แค่น้ำมีความเค็มก็เลี้ยงได้ แต่ถ้าให้ดีเลี้ยงจากน้ำธรรมชาติหรือน้ำทะเลจะดีกว่าสำหรับตัวพ่อแม่เพรียงที่ผสมพันธุ์เสร็จก็สละชีวิต แต่บางทียังไม่ทันตาย เราก็เอาไปฟรีซไว้ก่อน เสร็จแล้วเอามาตากแห้ง เพื่อเอามาทำเป็นยา เพรียงมีโปรตีนสูง แต่ยังไม่ได้ขาย ตั้งใจจะไปคุยกับนักธุรกิจที่มีทัวร์จีน เพราะคนจีนจะชอบเรื่องพวกนี้ต้นบอกว่า ก่อนหน้าคนทำงานก่อสร้างเอาเพรียงไปดองเหล้าแล้วกิน3 คนพูดพร้อมกันว่าปึ๋งปั๋งต้นเคยลองกิน รสชาติคาวมาก ขนาดบ้วนปากความคาวยังติดอยู่ แต่ลองเอาไปตากแห้ง กินแล้วรสชาติเหมือนสาหร่ายแผ่น ตั้งใจเปลี่ยนมาบดใส่แคปซูล น่าจะกินง่ายกว่าพ่อของต้นบอกว่า กินแล้วทำให้มีเรี่ยวมีแรง ต้นว่าอาจคิดไปเอง ส่วนตัวคิดว่าเพรียงทรายเป็นธรรมชาติ คงไม่มีผลเสียอะไรวันนี้ต้นมีบ่อเลี้ยงเพรียง 400 บ่อ ต้นตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆตราบใดที่คนยังไม่หยุดกินกุ้งความจริงต้นมีทางเลือกยาวไกลยิ่งใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ มีคนทั้งไทยและต่างชาติพร้อมที่จะสนับสนุนลงทุนให้ 10 ล้าน แต่ต้นว่าพอใจแค่ตรงนี้ดีกว่า.