การเลือกตั้ง ส.ส. ด้วย “ระบบจัดสรรปันส่วน” ที่ คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ของ คุณมีชัย ฤชุพันธ์ุ ไปลอกจาก เยอรมนี วันนี้ประเทศต้นตำรับ กำลังประสบความล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อ นางแองเกลา แมร์เคิล หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม ที่ได้ ส.ส.มากที่สุด ไม่สามารถจัดตั้ง “รัฐบาลผสม” ได้ เมื่อพรรครองและพรรคเล็กไม่มีใครร่วมด้วย เพราะ “อุดมการณ์การเมือง” ขัดแย้งกัน ทั้งแนวคิดและนโยบายส่งผลให้เงินยูโรร่วงผล็อยเหลือ 1.1735 ยูโรต่อ 1 ดอลลาร์ ทำให้เศรษฐกิจยุโรปสะเทือนไปทั้งยูโรโซน เพราะเยอรมนีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปการเลือกตั้งทั่วไปใน เยอรมนี มีขึ้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2560 พรรคอนุรักษนิยม ของ นางแมร์เคิล ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนสูงสุดร้อยละ 32.9 แต่ก็ลดลงจากเดิม ส่งผลให้พรรคอนุรักษนิยมมี ส.ส. ในสภาแค่ 246 ที่นั่ง จากจำนวน ส.ส. ทั้งหมด 598 ที่นั่ง นางแมร์เคิลจึงต้องจัดตั้ง “รัฐบาลผสม” อย่างที่ รัฐธรรมนูญใหม่ไทย ไปลอกแบบมา ซึ่งจะเป็นวิกฤติการเมืองไม่รู้จบของประเทศไทยในอนาคตพรรคที่ได้คะแนนเป็น อันดับ 2 คือ พรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย ที่เป็นฝ่ายค้าน ได้คะแนนเสียงร้อยละ 20.5 มีสัดส่วน ส.ส.จากการจัดสรรปันส่วนร้อยละ 21.6 มีจำนวน ส.ส.มากเป็นอันดับ 2 แต่ปฏิเสธที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมกับนางแมร์เคิลนางแมร์เคิล จึงต้องไปเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคอันดับ 4 อันดับ 5 พรรคเสรีประชาธิปไตย (FDP) และ พรรคกรีน เพื่อให้มีเสียงข้างมากในสภา แต่ผ่านไป 2 เดือนแล้ว นางแมร์เคิลก็ยังเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมไม่ได้ เพราะอุดมการณ์และนโยบาย 3 พรรคไม่ตรงกัน จนกลางดึกวันจันทร์ พรรคเสรีประชาธิปไตยก็ได้ถอนตัวจากการเจรจา ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลผสมของนางแมร์เคิลล้มเหลวลงทันที ส่งผลให้ค่าเงินยูโรดิ่งลงอย่างหนัก กดราคาทองคำร่วงไปกว่า 17.70 เหรียญ แม้ นายแฟรงค์ วอเตอร์ สไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีเยอรมนี จะออกมาเรียกร้องให้พรรคการเมืองหันมาเจรจาจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ แต่ก็ไม่สำเร็จนายฮอลเบ ซิสตรา รัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้ความเห็นว่า ความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลของเยอรมนี ถือเป็นข่าวร้ายของยุโรป เพราะเยอรมนีเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปทางออกทางเดียวของ นางแมร์เคิล ในเวลานี้ก็คือ จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ความล้มเหลวในการจัดตั้ง รัฐบาลผสม ตาม รัฐธรรมนูญเยอรมนี ในครั้งนี้ เป็นความล้มเหลวครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จากการใช้ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน ที่ ประเทศไทย กำลังจะนำมาใช้ในการเลือกตั้งปลายปีหน้าประเด็นที่เป็นความขัดแย้งในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่าง พรรคอนุรักษนิยม ของ นางแมร์เคิล กับ พรรคเสรีประชาธิปไตย และ พรรคกรีน ก็มีตั้งแต่เรื่อง นโยบายการเก็บภาษี นโยบายการรับผู้ลี้ภัย ไปจนถึง นโยบายโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ประเทศเยอรมนี มีการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินมากที่สุดในยุโรปนายคริสเตียน ลินด์เนอร์ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย ที่ถอนตัวจากการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมกล่าวว่า “เราไม่โทษใครทั้งนั้น เราต่างยึดมั่นในหลักอุดมการณ์ พวกเราต่างเห็นพ้องที่จะสงวนท่าทีของเรา จึงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงระหว่างกันได้ แต่การไม่ร่วมกันบริหารประเทศ น่าจะดีกว่าการบริหารประเทศไปแบบแย่ๆ”ผมว่าความเห็นของ คุณลินด์เนอร์ เข้าท่ามาก ไม่ใช่สักแต่เข้าไปเป็นรัฐบาล เพื่อหวังเก้าอี้รัฐมนตรี แล้วบริหารประเทศแบบแย่ๆ ประเทศจะฉิบหายก็ช่างมัน แบบไทยๆความล้มเหลว ของ การเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน ที่เกิดขึ้นใน เยอรมนี ประเทศต้นตำรับ กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ในการเลือกตั้งปลายปีหน้า แต่ จิตวิญญาณประชาธิปไตยของนักการเมืองไทยมีน้อย ยังไม่รู้จะออกมาเละขนาดไหน.“ลม เปลี่ยนทิศ”