สมรรถนะและประสิทธิภาพทางการบินขึ้น-ลงทางดิ่งที่ยอดเยี่ยมของ Agusta Westland AW139 อากาศยานปีกหมุนแบบอเนกประสงค์ขนาดกลางจำนวน 15 ที่นั่ง ทำให้มันขึ้นถึงจุดสูงสุดของเฮลิคอปเตอร์ที่ทรงประสิทธภาพมากที่สุดในโลก...
Agusta Westland AW139 อากาศยานปีกหมุนแบบอเนกประสงค์ขนาดกลางจำนวน 15 ที่นั่ง ซึ่งบริษัทผลิตเฮลิคอปเตอร์ Agusta Westland ของ Italy’s Finmeccanica ประเทศอิตาลี ทำการพัฒนาขึ้นมาถึง 4 รูปแบบการใช้งาน เพื่อตอบสนองความต้องการในการบินปฏิบัติภารกิจที่หลากหลาย ครอบคลุมการบินแบบขึ้นลงทางดิ่งที่กว้างขวาง เครื่องต้นแบบขึ้นทำการบินทดสอบเป็นครั้งแรกเมื่อปี คศ 2001 กว่า 4000 ชั่วโมงบินหลังจากนั้นจึงผ่านการรับรองของสมาพันธ์การบินนานาชาติ (FAA) พร้อมใบอนุญาตทำการบินในปีคศ 2004 ปัจจุบันมียอดสั่งซื้อจำนวน 170 ลำจาก 23 ประเทศ เฮลิคอปเตอร์ Agusta Westland AW139 ทั้ง 4 แบบที่ผลิตออกจำหน่ายคือ
1-รุ่นใช้งานทางกิจการของตำรวจหรือ Law Enforcement
2-รุ่นใช้งานในการบินปฏิบัติภารกิจของทหารหรือ Military Operation
3-รุ่นใช้งานส่งกลับสายการแพทย์หรือ Emergency Medical Services
4-รุ่นกู้ภัยทั้งทางบกและทางทะเลหรือบินปฏิบัติการไป-กลับแท่นขุดเจาะน้ำมัน Offshore Oil Operation ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ Agusta Westland AW139 ในแต่ละแบบนั้นจะมีประสิทธิภาพและสมรรนถะทางการบินใช้งานแตกต่างกันออกไป
...
เฮลิคอปเตอร์ Agusta Westland AW139 แผนแบบขึ้นจากโครงสร้างอลูมินัมอัลลอยน้ำหนักเบากับวัสดุผสมพิเศษพวกคาร์บอนคอมโพสิต ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาฟต์ของ PW-Pratt And whitney PT6 C-67C จำนวนสองเครื่องยนต์ ใช้ใปพัดประธานหรือ Main Rotor แบบ 5 กลีบเพื่อสร้างความเสถียรในระหว่างทำการบินเนื่องจากขนาดลำตัวที่ใหญ่กว่าเฮลิคอปเตอร์แบบอื่น สามารถรองรับน้ำหนักในการบินขึ้นสูงสุดได้กว่า 6.5 ตัน ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 306 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระยะทางบินปฏิบัติการหรือพิสัยบินประมาณ 927 กิโลเมตร หรือประมาณ 5 ชั่วโมงบินก่อนที่น้ำมันในถังเชื้อเพลิงจะหมดลง สมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยมและอุปกรณ์ประกอบการบินที่ทันสมัยทำให้เฮลิคอปเตอร์ Agusta Westland AW139 ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหพันธ์การบินนานานชาติหรือ FAA รวมถึงการถูกจัดลำดับชั้นให้อยู่ใน Class A ของอากาศยานปีกหมุนอเนกประสงค์ขนาดกลาง จากความสามารถทางการบินที่โดดเด่นเอาตัวรอดในขณะเกิดเหตุขัดข้องเช่น เครื่องยนต์ดับหนึ่งเครื่องในขณะที่กำลังทำการบินยกตัวหรือร่อนลงจอด
...
Cockpit ของเฮลิคอปเตอร์ Agusta Westland AW139 ติดตั้งอุปกรณ์ในการช่วยเดินอากาศที่ทันสมัย มีระบบควบคุมการบินอัตโนมัติแบบดิจิตอลพร้อมด้วยระบบสำรองหากเกิดการล้มเหลวของระบบใดระบบหนึ่งในระหว่างทำการบิน วิทยุสื่อสารคลื่นความถี่ VHF ระบบนำร่องและกำหนดพิกัดด้วยดาวเทียม จอแสดงข้อมูล LCD แบบ Realtime ขนาด 8x10 นิ้ว 4 จอภาพ ระบบเรดาร์เดินอากาศแบบ 3D ระบบรักษาเสถียรภาพในระหว่างทำการบิน Stability Augmentation ระบบแจ้งเตือนระยะสูง Attitude-Control Modes สวิทช์ค็อกพิททุกตำแหน่งออกแบบให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายทั้งการติดสัญลักษณ์การใช้งานเพื่อป้องกันการสับสนของนักบินอย่างชัดเจน Cockpit แบบใหม่ที่มีอุปกรณ์กระกอบการบินที่ก้าวล้ำยังช่วยลดภารกรรมทางการบินให้น้อยลง ทำให้นักบินสามารถบินปฏิบัติงานได้อย่างสะดวกและง่ายดาย รวมถึงการมีระบบการเปลี่ยนแปลงการป้อนข้อมูลและความถี่ในการสื่อสารและระบบนำทาง และระบบสำรองหากเกิดการล้มเหลวในชุดควบคุมการบินแบบดิจิตอลเพื่อความปลอดภัยในขณะทำการบิน
...
ห้องโดยสารแบบ 15 ที่นั่งในรุ่น VIP กรุด้วยวัสดุพิเศษป้องกันเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ เก้าอี้นิรภัยในทุกตำแหน่งมีน้ำหนักเบาพร้อมเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่งการนั่ง ใบพัดประธานหรือ Main Rotor กับใบพัดหางหรือ Tail Rotor ใช้วัสดุน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งประเภท Carbon Composites ฐานล้อที่พับเก็บได้ช่วยลดแรงต้านของอากาศในระหว่างทำการบิน บริเวณฐานล้อยังสามารถติดตั้งสกีเพื่อร่อนลงจอดในพื้นที่ที่มีหิมะได้อย่างสะดวก การพับเก็บฐานล้อของมันยังช่วยในเรื่ิองของอากาศพลศาสตร์ ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและให้ความนิ่มนวลเมื่อต้องร่อนลงจอดในสนามหญ้าหรือพื้นที่ต่างๆมากกว่าฐานแบบสกียึดติดตายตัว ใบพัดประธานถูกออกแบบให้สูงจากพื้น 7.5 ฟุตโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับบุคคลบนพื้นดินแต่อย่างใดทั้งสิ้น
...
เครื่องยนต์เทอร์โบชาฟต์ PW-Pratt And whitney PT6 C-67C จำนวนสองเครื่องยนต์ถูกติดตั้งภายในห้องเครื่องของเฮลิคอปเตอร์ Agusta Westland AW139 ให้แรงขับรวม 2,200 แรงม้า หรือ 1100 แรงม้าต่อเครื่อง เครื่องยนต์เทอร์โบชาฟต์ PT6C - 67 Series ใช้ชิ้นส่วนภายในที่มีเทคโนโลยีล่าสุดขั้นสูง ได้รับการออกแบบจากการวิจัยและพัฒนากำลังขับของเฮลิคอปเตอร์จากวิศวกรการบินของบริษัท Pratt And whitney เครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้มีความน่าเชื่อถือในการใช้งาน คงทนและมีขั้นตอนการดำเนินงานซ่อมบำรุงไม่ซับซ้อน เครื่องยนต์ PT6C - 67 Series คือการกำหนดมาตรฐานใหม่ในกลุ่มเครื่องยนต์เทอร์โบชาฟต์ระดับเดียวกันสำหรับอัตราการใช้พลังงาน เพื่อการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า รวมทั้งความคงทนในสภาพแวดล้อมของการใช้งานในทุกสภาวะ มีอุปกรณ์การควบคุมขั้นสูง Electronic Engine Control (EEC) ประกอบด้วยคอมเพรสเซอร์ขับเคลื่อนด้วยกังหันเชื่อมต่อกับเพลาอิสระกับเพลาขับเคลื่อนใบพัด นอกจากนี้ยังมีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำและปล่อยไอเสียต่ำ ตามมาตรฐานของวงการอุตสาหกรรมการบินระหว่างประเทศ
สำหรับประเทศไทย มีเฮลิคอปเตอร์ Agusta Westland AW139 รุ่นใช้งานทางทะเลอยู่ 1 เครื่อง ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์ของบริษัท SFS Aviation Company Limited ได้ทำการเช่าซื้อเพื่อใช้บินปฏิบัติภารกิจขนส่งเจ้าหน้าที่ไปยังแท่นขุดเจาะน้ำมันและก็าซกลางอ่าวไทย นอกจากนั้น บริษัท SFS Aviation Company Limited ยังอยู่ในระหว่างการเจรจาจัดซื้อเพิ่มเติมกับทางโรงงานผู้ผลิตโดยตรง เพื่อนำเข้ามาใช้งานอีก 2 ลำ เพื่อเป็นการเพิ่มเติมขีดความสามารถทางการบินรับ-ส่งสิ่งของ สัมภาระและวิศวกร รวมถึงช่างที่ประจำอยู่ตามแท่นขุดเจาะรอบอ่าวไทย เพื่อการเป็นผู้นำด้านการขนส่งทางทะเลด้วยอากาศยานแบบปีกหมุนเป็นเจ้าแรก.
Agusta Westland AW139 Specification
WeightsMax takeoff...................14,110 lb.
Basic empty weight..................8,091 lb.
Max. useful load.........................6,019 lb.
Sling load capacity...................6,000 lb.
Engine rating ............................(2 x PWC PT6C-67C)Takeoff1,679 shp.
Max-continuous........................1,531 shp.
Fuel capacityStandard414 U.S. gal. ~2,500 lb.
Auxiliary132 U.S. gal. ~800 lb
CrewPilot/Passengers2/12 standard-density2/15 high-densityExternal
DimensionsLength (rotors turning)54 ft. 8 in.
Overall height (vertical fin)........12 ft. 3 in.
Main rotor diameter....................45 ft. 3 in.
Performance ...............................167 kt.Max.
cruise speed (SL)........................165 kt.
Rate of climb (SL).....................2,140 ft./min.
Hovering IGE............................15,250 ft.
Hovering OGE...........................8,000 ft.
Service ceiling...........................20,000 ft.
Max. range..................................431 n.m.
Max. endurance .........................5 hr. 53 min.
AVIONICS Honeywell Primus Epic System
++ Two 8" X 10" LCD Primary Flight Displays
++ Two 8" X 10" LCD Multifunction Displays
One Electronic Standby Instrument System (ESIS) (attitude, airspeed, altitude, vertical speed, compass and ILS data)
Two Altitude and Heading Reference Systems (AHRS)
Two Air Data Modules (ADM)
Two Display Controllers (DC)
Two Cursor Control Devices (CCD)
One Reversion Control Panel (RCP)
One Display Dimming Control Panel (DCP)
One Stability Augmentation System (SAS) control panel
Two Remote Instrument Controllers (RIC)
Two Modular Avionics Units (MAU) incorporating the following major subsystems and/or functions:
++ Vehicle Monitoring System - VMS (dual)
++ Monitor Warming System MWS (dual)
++ Aural Warning Generator - AWG
++ Central Maintenance Computer - CMC
++ 3-Axis Digital Automatic Flight Control System - DAFCS (dual) with autotrim function
++ Provision for CVR/FDR data interfa
เอกสารอ้างอิง ข้อมูลบางส่วนจาก
The Aerospace Magazine Flight 59 May 2011
Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook http://www.facebook.com/chang.arcom