ยังรอปาฏิหาริย์ คุณพ่อเยี่ยมลูกรักในไอซียู ขอบคุณทุกคน วอนสวดมนต์ส่งใจช่วย “น้องกาว” เอเจนซี่ที่รับผิดชอบการประกันสุขภาพน้องกาว ชี้ กรมธรรม์คุ้มครองครอบคุมเต็มที่ล้านห้า...
ความคืบหน้าล่าสุดหลังจากที่ทางครอบครัวได้เดินทางเพื่อเข้าเยี่ยมอาการ นางสาว สโรชา เนียมบุญนำ หรือ น้องกาว ที่ป่วยเชื้อแบคทีเรียขึ้นสมอง และนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูที่โรงพยาบาล The University of Texas Medical Branch at Galveston (UTMB) ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา จนวันนี้หนึ่งสัปดาห์เต็ม จนเกิดกระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์กมากมายที่ให้การช่วยเหลือ เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาล ซึ่งเกินกำลังทางครอบครัวจะแบกรับได้
ล่าสุด นายชาญชัย เนียมบุญนำ คุณพ่อ ของ นางสาว สโรชา เนียมบุญนำ หรือน้องกาว กล่าวเปิดใจด้วยเสียงสั่นเครือคล้ายกับคนร้องไห้ ข้ามประเทศผ่านไทยรัฐออนไลน์ ว่า ครั้งแรกที่เข้าไปพบกับน้อง เห็นน้องเขาด้วยตัวเองกับตาอีกครั้ง ได้สัมผัสตัวเขาแล้วรู้สึกว่ายังอุ่นๆ ก็ดีใจ
“เจอเขาครั้งแรกผมดีใจมาก เพราะผมสนิทกับเขามาก ใจหนึ่งก็สงสาร ผมพูดกับเขา และเรียกเขากลับมาบอกกับเขาว่า ขอให้หายเร็วๆ เพราะเขาเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เด็กกิจกรรมเพื่อนเยอะเป็นที่รักของเพื่อนๆ พอเขาเจ็บป่วยถึงรู้ว่าเพื่อนเขาเยอะมาก สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้ก็คือการตระเวนทำบุญที่วัดไทยในเท็กซัส เพราะมีคนส่งเมลมาให้มากมาย ตอนนี้ใครบอกอะไรดีเราทำหมด เพราะมีความเชื่อว่าน้องต้องฟื้น ความหวังเพียง 1% มันก็คือความหวังมันก็มีปาฏิหาริย์ได้ เราไม่ทิ้งปาฏิหาริย์” ผู้เป็นบิดากล่าว
...
เมื่อถามว่าตอนนี้ต้องการความช่วยเหลืออะไรจากประเทศไทยบ้าง...?
“สำหรับค่ารักษาเห็นว่าทางโครงการ (การประกันสุขภาพจาก American Learning เอเจนซี่ ที่น้องกาวเข้าโครงการ Work & Travel) เขาจัดการให้อยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะมีส่วนต่างเท่าไหร่เพราะว่าการเข้าห้องไอซียูทีนี่เสียค่าใช้จ่ายเยอะมาก ซึ่งเรื่องบริษัทก็ช่วยเหลือเต็มที่ เอเจนซี่ที่ทางเมืองนอกเขาก็เดินทางมาให้คำปรึกษาเขาบอกว่าก็จะช่วยค่าใช้จ่ายในบางส่วน ทางบริษัทที่เมืองไทยช่วยดูเรื่องตั๋วเครื่องบินและเป็นธุระไปส่งคุณพ่อให้ที่สนามบิน นอกจากนี้ก็ได้ทางผู้ใหญ่ที่กระทรวงการต่างประเทศและผู้ใหญ่จากสถานเอกอัคราชทูตไทย ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี รวมถึงเจ้าหน้าที่กงสุลไทย กงสุลอเมริกันเข้ามาให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ ทำพาสปอร์ตให้กับคุณแม่ของกาว ก็ขอบคุณ ทุกๆ ท่านมา ณ ตรงนี้”
เมื่อถามอีกว่า หลังจากนี้ครอบครัวจะวางแผนอย่างไร...? คุณพ่อน้องกาวพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า อนาคตยังไม่รู้ แต่อยากให้น้องดีขึ้น อยากให้มีปาฏิหาริย์และขอให้ช่วยกันสวดมนต์ช่วยกาวด้วย ขอบพระคุณมาก ขอบพระคุณจากหัวใจ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ไทยรัฐออนไลน์ได้รับการเปิดเผยจากญาติใกล้ชิดที่เข้าไปพูดคุยกับแพทย์เจ้าของไข้ก่อนคุณพ่อคุณแม่น้องกาวจะเดินทางมาถึง ที่โรงพยาบาลเล่าว่าก่อนหน้าคุณพ่อคุณแม่เดินทางมายังโรงพยาบาล ทางแพทย์ได้แจ้งให้กับญาติว่า ขณะนี้สมองน้องกาวได้ตายแล้ว แต่แพทย์ผู้รักษาก็พยายามยื้อชีวิตเอาไว้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากเคารพในศาสนาพุทธ
อย่างไรก็ดี ญาติคนไข้รายหนึ่งได้รับการเปิดเผยจากแพทย์เจ้าของไข้ยืนยันว่า หลังจากคุณพ่อคุณแม่เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลแล้วภายในหนึ่งชั่วโมง ทางโรงพยาบาลจำเป็นจะต้องนำเครื่องช่วยหายใจออก แต่ทางญาติคนไข้คนดังกล่าวได้พยายามขอร้องให้ใส่เครื่องหายใจอีกหนึ่งวัน (หมายถึงวันที่ 18 พ.ค.54) ซึ่งก่อนหน้านี้ทางแพทย์ได้ถอดเครื่องหายใจมาแล้ว 2 ครั้ง เพื่อทดสองดูว่าน้องกาวจะหายใจด้วยตัวเองได้หรือไม่ แต่ไม่เป็นผล และวันที่ 18 พ.ค.54 แพทย์จะถอดเครื่องหายใจครั้งสุดท้าย แต่หากน้องกาวยังหายใจด้วยตัวเองไม่ได้ก็ถือว่าเสียชีวิต
อีกประเด็นที่ถือว่าน่าสนใจก็คือ ทางครอบครัว เนียมบุญนำ แสดงความประสงค์ผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่าอยากจะคุยกับ "ริว จิตสัมผัส" ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจิตวิญญาณชื่อดัง เนื่องจากมีความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับกรรม ทางไทยรัฐออนไลน์ได้ประสานความช่วยเหลือจนบรรลุความประสงค์ ก็จนเสร็จสิ้น แต่เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัวขอไม่เปิดเผยรายละเอียด
รศ.ดร.กุลภัทรา สิโรดม คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวว่า ทราบว่าขณะนี้พ่อแม่ของ น.ส.สโรชา เดินทางถึงรัฐเท็กซัส เรียบร้อยแล้วนอกจากนี้คณะยังติดต่ออาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เรียนต่อปริญญาเอก ที่รัฐเท็กซัส ให้เป็นผู้ประสานงานและส่งความคืบหน้าให้กับตนทุกระยะ และหากขาดเหลืออะไร ทางคณะพาณิชย์คณาจารย์ และเพื่อนนักศึกษาทั้งคณะก็พร้อมช่วยเหลือ
สำหรับการเข้าร่วมโครงการนี้นั้นคณบดีคณะพาณิชย์ ฯ กล่าวว่า เป็นการติดต่อของนักศึกษากับบริษัทเอง เพื่อฝึกฝนด้านภาษาและเดินทางท่องเที่ยว โดยไม่ได้แจ้งให้คณะทราบ เพราะนักศึกษาจะเดินทางไปทำงานช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งปีๆหนึ่งมีจำนวนไม่มากนัก สำหรับปีนี้มีนักศึกษาที่ร่วมเดินทางไปกับ น.ส.สโรชา ประมาณ 5 คน
ขณะเดียวกัน รศ.กิตติ สิริพัลลภ ผู้อำนวยการศูนย์สื่อสารองค์กร และวิเทศสัมพันธ์ คณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยตอนนี้ได้พยายามช่วยเหลือในเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับทางครอบครัว โดยติดต่อประสานงานกับสถานทูต และครูอาจารย์ที่รัฐเท็กซัส รวมทั้งทางบริษัทอเจนซี่ของโครงการ Work&Travel
...
“ตอนนี้ทางคณะตั้งแต่รู้ข่าวก็ประสานกับทางสถานทูต เพื่อให้ติดต่อกับนักเรียนไทยที่นั่น เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ และเรามีอาจารย์อยู่ที่นั่น เพื่อสอบถามอาการป่วยจากแพทย์ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดมาก เพราะเจ้าของไข้พูดอะไรมากไม่ได้ เราก็ทำเต็มที่ในฐานะที่เป็นสถาบันที่ให้การศึกษา ส่วนเรื่องประกันสุขภาพที่ทำก่อนไปกับทางอเจนซี่เราก็ประสานงานกันตลอด ซึ่งหากทางครอบครัวมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ทางมหาวิทยาลัยก็จะพิจารณาเป็นพิเศษว่าจะช่วยกันอย่างไร แต่ทั้งหมดที่พูดมามันยังไม่เกิดขึ้น คงต้องรอดูทางครอบครัวของน้องเขาก่อนว่าตกลงต้องให้ความช่วยเหลืออย่างไร แต่สัญญาว่าจะทำเต็มความสามารถ” ผอ.ศูนย์สื่อสารองค์กร และวิเทศสัมพันธ์ คณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าว
นอกจากนี้ไทยรัฐออนไลน์ยังสอบถามไปยัง American Learning เอเจนซี่ที่รับผิดชอบการประกันสุขภาพจากโครงการ Work&Travel กล่าวถึงสิทธิการคุ้มครองกรมธรรม์ที่น้องกาวได้ทำไว้ก่อนเดินทางว่า ทางบริษัทได้จัดทำเอกสารเพื่อเตรียมจ่ายเงินค่ารักษาพยายาบาลเต็มวงเงิน 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 1,500,000 บาท) แต่ขณะนี้ยังไม่มีบิลค่าใช้จ่ายจากทางโรงพยาบาล The University of Texas Medical Branch at Galveston (UTMB) ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งมาที่บริษัทแต่อย่างใด
“ตอนนี้อยากเรียนกับทางครอบครัวของน้องกาวได้สบายใจว่า ทางเราได้เตรียมความพร้อมเรื่องเอกสารการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเต็มวงเงิน 1,500,000 บาท ประกันไว้แล้ว และเท่าที่ทราบจากทางคุณพ่อของน้องกาว ตอนนี้มีข่าวหลายกระแสมากเกี่ยวกับเงินบริจาค ซึ่งผมว่าถ้าทุกคนอยากช่วยเหลือน้องเขาจริงๆ ก็ต้องดูให้ดีๆด้วย เพราะบัญชีที่รับบริจาคจะเป็นบัญชีของคุณพ่อน้องกาวเท่านั้น”
ผู้ที่ประสงค์บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ นางสาว สโรชา เนียมบุญนำ หรือ น้องกาว บริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี ชาญชัย เนียมบุญนำ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก เลขที่บัญชี 032-450604-7.
...
twitter : raydo_thairath
twitter : SRIPLOI_THAIRATH