ศาลนัดไกล่เกลี่ยค่าเสียหายทางแพ่ง คดี ‘น็อต’ อดีตดีเจดังกับเพื่อนทำร้ายร่างกาย บังคับขืนใจหนุ่มพนักงานส่งเอกสารกราบรถมินิคูเปอร์ สร้างความอับอายต่อหน้าธารกำนัล ผู้เสียหายมากับทนายดัง บอกผ่าทำดั้ง 2 ครั้งแล้ว ยังไม่เข้าที่...

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 พ.ค. ศาลนัดไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย คดีหมายเลขดำ กล.142/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ น็อต อายุ 29 ปี อดีตพิธีกรดัง และนายวิทวัส ศรีบัณฑิตมงคล อายุ 29 ปี เพื่อนของนายอัครณัฐ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดฯ โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนต้องกระทำการนั้น มาตรา 309, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ มาตรา 310 และกระทำการอันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่นให้ได้รับความอับอายหรือความเดือดร้อนรำคาญ มาตรา 397

กรณีเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 59 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ดึงกระชากคอเสื้อของ นายกิตติศักดิ์ หรือ บอย สิงห์โต พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ผู้เสียหาย คู่กรณีที่ขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน จากที่นั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์มาอีกฝั่งหนึ่งของถนน บริเวณปากซอยเจริญกรุง 44 แขวงและเขตบางรัก ที่มีรถยนต์มินิคูเปอร์ของนายอัครณัฐ จำเลยที่ 1 จอดอยู่ แล้วใช้ฝ่ามือตบที่ใบหน้าของผู้เสียหาย 2 ครั้ง และต่อยที่บริเวณใบหน้าอีก 1 ครั้ง ทำให้กระดูกจมูกชิ้นใหญ่จำนวน 4 ชิ้นหัก และกระดูกจมูกชิ้นเล็กอีกจำนวนหลายชิ้นหัก รวมทั้งมีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตาทั้งสองข้าง และแก้มด้านซ้ายบวม ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส

...

หลังจากนั้น จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันข่มขืนใจผู้เสียหายให้กราบรถยนต์ของนายอัครณัฐ จนทำผู้เสียหายต้องจำยอมกราบรถจำเลยที่ 1 โดยไม่ได้สมัครใจ ซึ่งเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้เสียหายให้ได้รับความอับอาย โดยอัยการยื่นฟ้องไว้ต่อศาลเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 60 ที่ผ่านมา ขณะที่ ทั้งสองได้รับการประกันตัวไปโดยการนัดไกล่เกลี่ยนี้ ศาลมีหมายแจ้งให้จำเลย และนายกิตติศักดิ์ หรือ บอย ผู้เสียหายมาศาลด้วย เพื่อทำการเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายทางแพ่งกันที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยชั้น 10

ทั้งนี้ นายอัครณัฐ หรือ น็อต เดินทางมาพร้อมกับครอบครัว ทักทายผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งอดีตพิธีกรดังเดินขึ้นไปยังศูนย์ไกล่เกลี่ยทันทีโดยยังไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ หรือ บอย คู่กรณีผู้เสียหายที่ถูกต่อยดั้งจมูกหัก เดินทางมาพร้อมกับมารดา และนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ สำหรับการไกล่เกลี่ยดังกล่าวไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมฟังแต่อย่างใด

นายสงกานต์ ทนายความของนายบอย กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับการชดใช้ใดๆ ขณะที่วันนี้จะมีการพูดคุยถึงการรักษาทำดั้งจมูก ที่ขณะนี้สภาพจมูกยังเบี้ยวอยู่หลังจากผ่าตัดที่ รพ.เลิดสินมาแล้ว 2 ครั้งและต้องทำการรักษาต่อไป รวมทั้งค่าสินไหมทดแทนการขาดรายได้โดยมารดาของนายกิตติศักดิ์ได้รวบรวมไว้ เราก็จะเรียกร้องให้ชดใช้ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง มูลค่าหลักแสนบาท โดยวันนี้เราจะยื่นคำร้องต่อศาลรวม 2 ส่วน คือ การขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมและคำร้องขอชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ นายกิตติศักดิ์ หรือ บอย ได้ถูกดำเนินคดีด้วย ซึ่งจะเดินทางไปรายงานตัวอัยการ ศาลแขวงพระนครใต้เพื่อฟังผลคดีที่ขับรถเฉี่ยวชนรถคู่กรณี ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ โดยที่นายบอยเคยเข้าพบพนักงานอัยการและร้องขอความเป็นธรรมไว้เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา จากการที่พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา มีคำสั่งควรสั่งฟ้องนายบอยกรณีขับรถเฉี่ยนรถนายน็อต สำหรับข้อกล่าวหาคดีอาญานั้น ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐานวันจันทร์ที่ 29 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.