นายกฯ กำชับ มท.-คมนาคม เข้มงวดจราจร ขอปรับตัวปมนั่งแค็บท้ายกระบะ แนะหากเกิดความไม่เข้าใจให้ตักเตือน อย่าใช้ความรุนแรง ย้ำจุดตรวจต้องติดกล้องวงจรปิด

เมื่อวันที่ 11 เม.ย.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงคำสั่ง คสช.เรื่องมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย ว่าด้วยการจราจรทางบก ที่ครอบคลุมห้ามคนนั่งท้ายรถกระบะ ว่า อย่างน้อยคำสั่งดังกล่าวสร้างความตื่นตัวและทุกคนสร้างความระวัดระวังมากขึ้น แม้จะปฏิบัติไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่รัฐบาลไม่สามารถยกเลิกกฎหมายได้ เพราะกฎหมายดังกล่าวบังคับใช้มากว่า 20 ปี โดยได้เน้นย้ำให้เกิดความเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจดีในความยากลำบากในการเดินทาง ดังนั้นรัฐบาลได้เร่งรัดพัฒนาด้านระบบขนส่งมวลชนทุกด้าน โดยเฉพาะการขนส่งระบบราง ระหว่างนี้ประชาชนต้องปรับตัวว่าอนาคตต้องบังคับใช้กฎหมายให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่รับรองว่าจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หากมาตรการที่ออกมาสามารถบังคับใช้ได้แล้วจะต้องเก็บสถิติคนบาดเจ็บและเสียชีวิตให้ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใด อย่างไรก็ตามในปีนี้แม้ยังไม่สิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ แต่มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 3,000 ราย ทั้งจากสาเหตุไม่รักษากฎจราจรและการดื่มสุรา ซึ่งการรัดเข็มขัดนิรภัยเป็นการผ่อนหนักเป็นเบา แต่สิ่งสำคัญคือจิตสำนึกของคนขับรถ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ขอให้ทุกคนมีความสุข เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ และขออย่านั่งกระบะท้ายหรือขอบกระบะ เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสีย และขอให้ทุกคนและนักข่าวไม่มีอันตรายจากการพักผ่อน ให้กลับมาเจอกันทุกคน เพราะหากเพียงหนึ่งคนบาดเจ็บก็เสียใจ แม้ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่ถือว่าคนไทยทั้ง 70 ล้านคนเป็นครอบครัวของตนทั้งสิ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้มีให้คือความจริงใจและเห็นใจกัน สิ่งใดที่มีปัญหาก็ปรับให้ แต่บางอย่างจำเป็นต้องสร้างการรับรู้ก่อน และแก้ปัญหาด้วยการพูดคุยกัน ไม่ต้องออกมาต่อต้านให้เสียเวลา เสียเหงื่อ และเสียพลังงานของเจ้าหน้าที่ 

...

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ใครที่ต้องการให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย ก็ส่งมาจ่าหน้าซองมาที่ตนและศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ได้ โดยสอบทุกเรื่อง เพราะที่ผ่านมาก็ใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งหากตนไม่ได้ข้อมูลเหล่านี้ ก็ไม่รู้ว่าจะไปตรวจสอบอย่างไร 

ด้าน พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ก่อนการประชุม ครม. นายกฯ ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินการตามแผนงานด้านความปลอดภัย รวมถึงกวดขันเรื่องการใช้รถ ใช้ถนนการตั้งจุดตรวจต่างๆ ขอให้กวดขันในการเดินทางของประชาชน

นอกจากนี้นายกฯ ยังเน้นย้ำในบริเวณที่มีการตั้งจุดตรวจต่างๆ อยากให้มีการตั้งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพของเจ้าหน้าที่ไว้ด้วย ในกรณีที่อาจมีปัญหากันระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชน ขณะเดียวกันนายกฯ ยังเน้นย้ำเรื่องการใช้รถใช้ถนน ขอให้เข้มงวด แต่ถ้าเกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนขอให้ใช้วิธีการตักเตือน แนะนำ ห้ามปรามกันก่อน อย่าใช้ความรุนแรงกับประชาชน เพราะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่อยากให้ประชาชนมีความสุข

ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ เน้นย้ำหน่วยงานผู้ปฏิบัติไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะการเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายเพื่อไม่ให้มีการฝ่าฝืน มิเช่นนั้นจะเกิดอันตราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจต่างๆสามารถเรียกรถยนต์ของประชาชนที่มีการกระผิดกฎหมายได้ อาจจะมีการให้คำแนะนำ ว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก พ.ศ.2524 จึงขอให้ประชาชนให้ความเชื่อและสนใจในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตักเตือน เพราะเจ้าหน้าที่ต้องการให้ประชาชนปลอดภัย