นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลเรื่องโคลอสตรัมหรือน้ำนมเหลืองวัวทั้งแบบผงและอัดเม็ด ที่ระบุว่าเป็นโคลอสตรัมธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการสร้าง Growth Hormone ช่วยในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโรค และเพิ่มความสูงมากกว่านมปกติ 100 เท่า ซึ่งความจริงแล้วน้ำนมเหลืองของวัว เป็นน้ำนมที่รีดได้ในช่วงระหว่าง 15 วันก่อนสัตว์ตกลูก และ 5 วันหลังจากตกลูกเป็นน้ำนมที่มีกลิ่นแรง รสชาติขม มีสีเหลืองออกแดง และมีความเหนียวข้น ปกติไม่นำมาใช้บริโภคสำหรับคน แต่ใช้เลี้ยงลูกอ่อนวัวแรกเกิด ซึ่งจากงานวิจัยโคลอสตรัมของวัว ให้สรรพคุณที่เป็นไปได้คือการเสริมสร้างภูมิต้านทาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลำไส้ ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น หมู หนู แต่ยังไม่ชัดเจนในมนุษย์
นพ.วชิระกล่าวต่อว่า สิ่งที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย รวมทั้งกระตุ้นพัฒนาการทางด้านร่างกายและสมองให้กับทารก คือ “นมแม่” ซึ่งถือเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกในช่วง 6 เดือนแรก เพราะมีสารอาหารสำคัญครบถ้วนมากกว่า 200 ชนิด โดยเฉพาะส่วนที่เรียกว่า “หัวน้ำนม” หรือโคลอสตรัมหรือน้ำนมเหลือง ซึ่งเป็นน้ำนมที่หลั่งออกมาในช่วง 24-36 ชั่วโมงแรกหลังการคลอดเท่านั้นที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ทำหน้าที่เสริมสร้าง และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และเด็กควรได้กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน.