สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) สมัยต้นรัตนโกสินทร์ แปลจากต้นฉบับนิยาย ผู้รู้สมัยหลังแยกแยะได้ มีส่วนของความจริงอยู่เจ็ด มีส่วนของความเท็จ (แต่งเติม) อยู่สามโจโฉ ในเรื่องแต่งเป็นตัวโกง ถูกตั้งฉายา กังฉินหน้าขาวฉิน...คำหลัง เป็นคำขุนนางเรียกตัวเอง ส่วน กัง คำหน้า แปลว่า คดในข้องอในกระดูก แต่เมื่อได้อ่านเรื่องจริง...บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เรื่องของโจโฉกลับไปพลิกไปอีกด้านใน “101 คำถามสามก๊ก” (หลี่ฉวนจวิน เขียน ถาวร สิกขโกศล แปล มติชน 2556) เขียนว่าปลายราชวงศ์ฮั่นบ้านเมืองแตกแยก ขุนศึกชิงอำนาจกัน โจโฉนำทัพก่อการกำจัดลิโป้ ปราบเตียวซิ่ว พิฆาตอ้วนสุด และอ้วนเสี้ยว สุดท้ายรวมจีนภาคเหนือเป็นปึกแผ่นถือกันว่ามีคุณูปการยิ่งใหญ่ ต่อการรวมจีนทั้งหมดในยุคต่อมาภาพโจโฉมิได้เพียงปรีชาสามารถแกล้วกล้าด้านการทหารหากยังเป็นนักการเมืองผู้ปกครองบ้านเมืองได้ดีเลิศ ทั้งยังเป็นกวียอดเยี่ยมที่หาได้ยากหากความจริงโจโฉมีดียิ่งใหญ่ถึงปานนี้ ทำไม...จึงถูกเรียกว่า “กังฉินหน้าขาว”คำตอบ...โจโฉโชคร้ายจากคำพยากรณ์ของเขาเฉียว...ที่เคยทำนายว่าเป็นขุนนางผู้ปรีชาสามารถในยุคสงบ เป็นยอดคนเจ้าเล่ห์ในยุคจลาจลความจริงคำพยากรณ์นี้ยกย่องโจโฉ แต่เมื่อสังคมเปลี่ยนแปลง ก็ค่อยๆตัดตอนแปลความหมายจนคำกังฉินติดปากคนความเปลี่ยนแปลงนี้ เริ่มแต่ช่วงต่อราชวงศ์ซ่งเหนือกับราชวงศ์ซ่งใต้ พวกเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ภาคเหนือเจริญเข้มแข็ง บุกยึดแผ่นดินราชวงศ์ซ่งเหนือผู้คนหนีข้ามแม่น้ำแยงซีแกงมาอยู่ทางใต้ ก็ฝังความรู้สึกหวาดกลัวข้าศึกภาคเหนือ ในชีวิตจริงที่สิ้นหวังและหวาดกลัว ก็ใช้ศิลปะมาลดคุณค่าของภาคเหนือโจโฉเป็นสัญลักษณ์อำนาจกล้าแกร่งยิ่งใหญ่ทางภาคเหนือมุ่งมั่นบุกยึดครองดินแดนภาคใต้...จึงค่อยๆกลายเป็นศัตรูจำลองในหมู่ชาวบ้านจีนนับแต่ยุคราชวงศ์ซ่งเหนือศิลปะพื้นบ้านเจริญรุ่งเรือง ตามโรงมหรสพย่านชุมชนเป็นที่ทำมาหากินของศิลปิน การใช้เวทีทำลายเกียรติคุณโจโฉ ให้เป็นแบบฉบับของกังฉินชั่วร้ายจึงเกิดขึ้นนิยายสามก๊กแต่งเสร็จราวต้นราชวงศ์หมิง สืบเนื่องไปถึงราชวงศ์ชิง ภาพลักษณ์โจโฉจึงลงตัว จนอาจกล่าวได้ว่า ฉายากังฉินหน้าขาว เป็นสีสันบนโรงงิ้ว ก็คงกล่าวได้เต็มปากเต็มคำภาพจริงโจโฉผู้ชนะในสามก๊ก เริ่มต้นจากการรวมจีนภาคเหนือเป็นปึกแผ่น มีคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อการรวมจีนในยุคต่อมา จึงถูกกลบด้วยภาพ กังฉิน ทรราชเจ้าเล่ห์แต่คำกังฉิน ขุนนางโกง และคำ ตงฉิน ขุนนางจงรักภักดี...คนละเรื่องกับ สี ที่วาดบนใบหน้าคนจีนเริ่มให้คนทรงเจ้าในพิธีสำคัญสวมหน้ากาก มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ จนถึงสมัยราชวงศ์ซ่งหน้ากากก็เริ่มเปลี่ยนเป็นการวาดสีขาวดำกับตัวโฉ่ว ตัวตลกโรงงิ้วสมัยราชวงศ์หยวน สี และเส้นลวดลาย เริ่มใช้แสดงอุปนิสัยใจคอ...สีดำใบหน้าเปาบุ้นจิ้น เทพเจ้าความยุติธรรม ความดี ส่วนแบบหน้าโจโฉเป็นพื้นสีขาว...เป็นที่มาฉายากังฉินหน้าขาว...สัญลักษณ์ความชั่วร้ายทุกตัวละครบนเวทีงิ้วแยกชัดเจน พวกดีเป็นพวกร้ายในความเห็นผม ไม่ว่าชีวิตบนโรงงิ้ว หรือชีวิตจริง...ล้วนแล้วแต่เป็นชีวิตสมมติ ดี ร้ายอยู่ที่ใจคน ไม่ว่ากับใครในอดีต หรือในปัจจุบัน ไม่เคยมีวันเหมือนกันได้เลย.กิเลน ประลองเชิง