เจ้าหน้าที่โบราณคดี และชุมชนศรีฐาน ขุดค้นพบเศียรพระพุทธรูปโบราณ ใบเสมา และ ข้าวของเครื่องใช้โบราณจำนวนมากในวัดจอมศรี กลางเมืองขอนแก่น คาดอายุ 2,500 ปี สมัยทวารวดี ...
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 มี.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่โบราณคดี จากสำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น และชาวชุมชนศรีฐาน ทั้ง 4 ชุมชน ต่างช่วยกันขุดค้นหาโบราณสถานและโบราณวัตถุเก่าแก่ อยู่ภายในวัดจอมศรี ชุมชนศรีฐาน 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังจากก่อนหน้านี้คนในชุมชนได้ขุดค้นพบเศียรพระพุทธรูปโบราณ แจกัน ใบเสมา และของใช้โบราณประเภท ถ้วย ชาม และไห จำนวนมาก ซึ่งบางส่วนได้ถูกนำไปเก็บรักษาไว้ภายในพระอุโบสถของทางวัดเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาทำการตรวจสอบ ขณะที่บางส่วนยังคงถูกเก็บรักษาไว้ในบ้านเรือนของประชาชน หลังมีการขุดค้นพบสิ่งของโบราณล้ำค่าอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อทีมข่าวเดินทางไปถึงพบเจ้าหน้าที่และคนในชุมชน ได้ร่วมกันเปิดหลุมขุดค้น โบราณคดีวัดจอมศรี เมืองโบราณศรีฐาน 1 บริเวณด้านซ้ายของศาลาการเปรียญ โดยมีการนำเต็นท์มาตั้ง และกั้นห้ามไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาภายในบริเวณ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการขุดหลุมลงลึกไปแล้วประมาณ 60 ซม. ทำการขุดทุก 10 ซม. ด้วยอุปกรณ์การขุดขนาดเบา โดยในช่วงของการขุดนั้นพบเศษภาชนะโบราณเก่าแก่ล้ำค่าอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภายในพระอุโบสถของวัดยังคงมีการเก็บรักษาสิ่งของโบราณล้ำค่าที่ถูกขุดค้นพบในชุมชนและภายในวัด ซึ่งประกอบด้วย ใบเสมาหินทรายโบราณ สูงประมาณ 3 เมตร กว้างประมาณ 80 ซม. สภาพสมบูรณ์ แกะสลักเป็นรูปเจเดีย์สมัยเก่า นอกจากนี้ ยังคงพบแจกันขนาดเต็มใบ เศียรพระพุทธรูป และพระพุทธรูปปางต่างๆ ที่ชาวบ้านต่างพากันขุดค้นพบในช่วงก่อนหน้านี้ส่งมอบให้กับทางวัดได้เก็บรักษาไว้ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาโจรกรรม และนำไปจำหน่ายให้กับตลาดรับซื้อของเก่า
...
นายบุญบาล อนุศรี ประธานชุมชนศรีฐาน 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น กล่าวว่า เมืองศรีฐาน เดิมชื่อเมืองสี่ฐาน เป็นที่ตั้งของชุมชนเมืองขอนแก่นเก่าแก่ในอดีต และเฉพาะบ้านสี่ฐานนั้นเป็นที่ตั้งของกองทัพของเมืองขอนแก่น ที่ผ่านมามีการขุดค้นพบสิ่งของโบราณมีค่าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการขยายของเมืองเข้ามาอย่างมาก มีการก่อสร้างบ้านจัดสรร ที่พักอาศัยและสิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ ทำให้เมื่อมีการปรับพื้นที่ก็จะพบของเก่าแก่ล้ำค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ถ้าไม่เก็บไว้ที่บ้านของตนเองก็ส่งมอบให้กับวัด ซึ่งล่าสุดมีการขุดค้นพบของมีค่าเก่าแก่ โดยเฉพาะใบเสมาหินทราย ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี ถ้วย ชาม ไห แจกัน พระพุทธรูปโบราณ โดยเฉพาะภายในวัดจอมศรี ที่มีการขุดค้นพบอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการประสานงานไปยังเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อดำเนินโครงการขุดค้นสิ่งของมีค่าดังกล่าวให้ถูกต้อง พร้อมทั้งประสานงานเจ้าหน้าที่โบราณคดีเข้ามากำกับและควบคุมการขุดค้นจนพบสิ่งของโบราณเก่าแก่ล้ำค่าอย่างต่อเนื่อง
“ขณะนี้การขุดค้นได้จำกัดพื้นที่ลงเหลือเพียงหลุมขุดค้นที่ 1 ภายในวัดแห่งนี้ ซึ่งจะขุดลึกประมาณ 3 เมตร ขณะนี้ขุดลงได้ประมาณ 60 ซม. โดยเจ้าหน้าที่จะขุดทุก 10 ซม. เพื่อตรวจค้นหาโบราณวัตถุล้ำค่าต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่การสำรวจทางโบราณคดีโดยกรมศิลปากรด้วยระบบดาวเทียม ยังคงแนวกำแพงดินดั้งเดิมหลงเหลืออยู่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเดินสำรวจและพบแนวแพดินของเมืองสี่ฐาน ที่ยังคงสมบูรณ์แบบอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองขอนแก่นติดกับหนองบอน โดยเหลือความยาวเพียง 100 เมตร กว้าง 30 เมตร เป็นแนวกำแพงดินที่มีอายุกว่า 200 ปี อันสุดท้ายที่ชุมชนจะต้องร่วมกันอนุรักษ์ไว้” นายบุญบาล กล่าว
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า ของโบราณล้ำค่าสมัยทวารวดี ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี ตามการสำรวจและตรวจสอบของเจ้าหน้าที่โบราณคดีที่ได้ลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบนั้น ขณะนี้บางส่วนยังคงเก็บรักษาไว้ภายในวัด โดยมีการเก็บรักษาอย่างมิดชิด บางส่วนยังคงเก็บอยู่ตามบ้านเรือนของประชาชน และบางส่วนถูกขโมยไปแล้ว เทศบาลฯ จึงได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานในการพัฒนาของดีมีในชุมชน ขึ้นในจุดแรกคือการเชื่อมโยงเมืองโบราณขอนแก่นเข้าไว้ด้วยกัน เริ่มต้นจากชุมชนศรีฐาน และจะขยายแนวเขตตามการตรวจสอบของกรมศิลปากร ก่อนกำหนดพื้นที่สำรวจเพื่อขุดหาของมีค่าที่มีอยู่ในชุมชน ซึ่งขณะนี้ทราบมาว่าหลายชุมชนมีการเก็บของโบราณต่างๆ ไว้ ดังนั้นเมื่อมีการขุดค้นของมีค่าดังกล่าวได้แล้ว เทศบาลฯ เตรียมจัดทำพิพิธภัณฑ์ชุมชนขึ้นเพื่อรวมเอาความเป็นขอนแก่นมาถ่ายทอดผ่านสิ่งของต่างๆ ที่ค้นพบ ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกชุมชนเริ่มมีการตื่นตัวกับการค้นพบโบราณวัตถุและโบราณสถานล้ำค่าที่มีอยู่ และร่วมเป็นคณะทำงานร่วมกันในทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันขุดค้นและป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจจะเข้ามาลักลอบขุดค้น และนำไปจำหน่ายอย่างเข้มงวด สำหรับหลุมขุดที่ 1 ภายในวัดจอมศรี แห่งนี้ จะดำเนินการสิ้นสุดระยะที่ 1 ในเดือน พ.ค. เพื่อที่จะนำข้อมูลและสิ่งของที่ได้ไปทำการตรวจสอบเพื่อเป็นการยืนยันทางหลักวิชาการของสิ่งของต่างๆ ที่ถูกค้นพบภายในชุมชนแห่งนี้.