“มึงฆ่ากูทำไม...”
เสียงโหยหวนออกจากร่าง นางสมพิศ ตรัยจันทร์แดง อายุ 46 ปี ผู้ที่เป็นมารดา น.ส.สุภัคสรณ์ หรือ หญิง พลไธสง อายุ 28 ปี เหยื่อฆาตกรรมสุดโหดแล้วนำร่างเปลือยไปฝังดิน ที่บริเวณรีสอร์ตร้างแห่งหนึ่ง หมู่ 1 บ้านท่ากระบือ ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
เมื่อสมพิศ มีอาการชักเกร็ง เหล่าบรรดาญาติต่างเข้ามาปลอบโยน “หญิง ๆ” พยายามเรียกชื่อวิญญาณที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็น “สาวทอม” ที่ถูกฆาตกรรม ก่อนจะนำพระมาคล้องและให้ยาดมจนกระทั่งอาการดีขึ้น...
…คดีนี้อุกอาจ โหดร้ายทารุณต่อความรู้สึกคนทั่วไป เพราะกลุ่มที่ลงมือล้วนเป็นชายฉกรรจ์ บางคนเป็นทหาร บางราย(เคย)เป็นตำรวจ และเมื่อรู้ถึง ผู้ที่ถูกกล่าวหา “จอมบงการ” ใหญ่ ที่ศาลออกหมายจับ ก็ยิ่งทำให้เสียงก่นสาปแช่งมีมากมายกระหึ่มโซเชียลเน็ตเวิร์ก
...
ทำไมต้องลงมือขนาดนี้ อะไรคือแรงจูงใจในการลงมืออุ้มฆ่าและทารุณกรรมขนาดนี้ หากทุกคนได้ติดตามก็จะทราบว่ามี 2 ประเด็นใหญ่ คือ “หึงหวง” และ เงิน 4 ล้าน”
สิ่งที่เกิดขึ้นหลายคนยังคาใจว่า คนระดับผู้กำกับ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อย่าง พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ จะแค้นจัดถึงขั้นไหว้วานให้เพื่อน!? “นายสนอง สมสิทธิ์” กำนันตำบลลาดบัวขาว วัย 54 ปี จัด “ทีมอุ้มฆ่า” ชุดใหญ่ลงมือสาวทอมเพียงคนเดียว เพียงเพราะอารมณ์หึงหวงนักร้องสาว “ดาว” หรือ น.ส.กรรณิกา กรุมรัมย์
หรือจะเป็นเพราะข้อมูลอีกชุด ที่ถูกเปิดเผยโดย นายสนองว่า สาวทอม นำเงินของผู้กำกับไป 4-5 ล้าน...
เพื่อวิเคราะห์สาเหตุ เจาะความจริง ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ขอความรู้จากอดีตตำรวจมือดี พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร อดีต รอง ผบช.ภ.9 ในฐานะอดีตมือปราบและมือกฎหมาย ร่วมวิเคราะห์ และแค่เอื้อนเอ่ยถาม อดีตตำรวจผู้ห้าวหาญก็ฟันธง “โชะ” ทันทีว่า “หึงหวงแน่นอน ไม่ใช่เรื่องเงิน 4 ล้าน!” ทำไมเป็นอย่างนั้น เรามาร่วมหาคำตอบกัน...
อะไรที่ทำ ผู้การวิสุทธิ์ มั่นใจขนาดนั้น... เพราะได้ข้อมูลเชิงลึก หรือ ใช้สัญชาตญาณตำรวจวิเคราะห์ จะให้รู้แน่ก็คงต้องซักไซ้ไล่เลียง...
ผู้การวิสุทธิ์ เริ่มต้น กล่าวอย่างดุดันในสไตล์ตัวเองเพื่อให้ภาพว่า
บ้านโป่ง ราชบุรี พื้นที่นี้นับว่าดี เพราะเป็นโรงพักเกรด B+ เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ที่เจริญ โรงงานมีเยอะ...แรงงานต่างด้าวเพียบ นี่ยังไม่รวมกลุ่มที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย อย่างเช่น บ่อนการพนัน หวยเถื่อน
การที่คนระดับผู้กำกับที่เข้าใกล้วัยเกษียณจะลงมืออุ้มฆ่าสาวทอมเพราะเรื่องหึงหวงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะคนทุกวัยสามารถรัก หึงหวงได้ อีกทั้งฝ่ายหญิงที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งนั่นก็หน้าตาดี จากการติดตามข่าวก็ทราบว่าผู้กำกับรายนี้ให้เงินใช้เดือนละ 1-2 แสนบาท ซึ่งจะได้เงินมาจากไหนก็คงเป็นหน้าที่ตำรวจ แต่...ขอบอกเลยว่าไม่ใช่เงิน 4 ล้านแน่ เพราะ ผู้กำกับไม่ใช่ “เจ้าพ่อเงินกู้” แต่จะมีรายได้จากเจ้าพ่อเงินกู้หรือไม่อันนี้ไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม คนที่มีเงินให้สาวเดือนละ 1-2 แสน ย่อมมีเงินรายได้มากกว่านั้น
“คนที่มีรายได้มากมาย เจียดเงินให้สาวใช้ แต่จะมาฆ่าเพราะเรื่องเงินทั้งที่ตัวเองไม่เดือดร้อนเป็นไปไม่ได้ แต่...เมื่อคนเรามีสัมพันธ์กันที่ลึกซึ้งกินเวลามาเนิ่นนาน เรียกว่า “ติดใจ” อีกทั้ง..(กู)เสียเงินแล้ว จ่ายให้ทุกเดือนแบบนี้ กลายเป็นหนังเรื่อง “ของข้าใครอย่าแตะ...” ด้วยเหตุนี้ จึงฟันธงว่า นี่คือ หึงหวงอย่างแน่นอน”
...
เจาะปม ฝังเปลือย เหตุเพราะย่อยสลายศพได้เร็วกว่า...
ผู้การวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า จากข่าว ทราบว่ามีการส่งลูกน้องไปข่มขู่ ดาว เคยนำเงินมาช่วยชดใช้หนี้ให้กับสาวทอมจำนวนหนึ่ง จะช่วยเหลือเป็นเงินเท่าไหร่นั้นไม่ทราบ แต่เชื่อว่าไม่ใช่ประเด็นสังหาร
“เธอคนนี้คุ้นเคยกับตำรวจดี จึงทำให้รู้วิธีการจัดการหนี้นอกระบบ อาจจะออกตัวให้ เมื่อผู้กำกับรู้เขาก็อาจจะถึงขั้นโกรธ และอาจจะมีการส่งคนไปเตือนหรือสั่งสอนแล้วหลายครั้ง แต่สาวทอมก็เป็นคนใจกล้าไม่กลัว จึงเป็นที่มาของการจ้างวานสั่ง “อุ้ม” โดยนำตัวไปกักที่รีสอร์ตก่อน จากนั้นค่อยๆ ลงมือฆ่า โดยมีการทิ้งคราบเลือดนั้น จากนั้นเอาร่างมาฝั่ง"
...
ซึ่งการฝั่งนี่สำคัญ เพราะตามหลักวิชาการของการทำลายศพจำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าในการฝัง...เช่น นาย A ซึ่งเป็นคนทั่วไปไม่มีความรู้จะฆ่าใคร เราก็ต้องรีบๆ ลงมือทำ จากนั้นรีบขุดหลุมฝัง เพราะกลัวคนมาเห็น
แต่...ทำไมมันต้องถอดเสื้อผ้า เพราะข้อแรกเพื่อไม่ให้จำบุคคลนั้นได้ เช่น วันนั้นญาติมาพบจำเสื้อผ้าที่ใส่ออกมาได้
ข้อที่สอง การถอดเสื้อผ้าจะช่วยให้ศพสลายตัวได้เร็วกว่าใส่เสื้อผ้า จุรินทรีย์หรือเชื้อโรคในดินจะกัดกร่อนได้เร็วกว่า ถ้าเกิดขุดเจอช้ากว่านี้สัก 1 เดือน รอยสักก็ไม่มีให้เห็น การย่อยสลายของศพที่มีเสื้อผ้ากับไม่มีเสื้อผ้ามีความแตกต่างกันมาก
"นี่คือเหตุผลหลักๆ อยู่ 2 ประเด็น ว่าทำไมต้องถอดเสื้อผ้าก่อนฝัง" ผู้การวิสุทธิ์ กล่าวอย่างมั่นใจ
ฝีมือนักฆ่าอาชีพ คนทั่วไปไร้ความรู้เรื่องเหล่านี้
นอกจากนี้ อดีตตำรวจผู้โชกโชนประสบการณ์ ยังบอกต่อว่า...ทีมที่ลงมืออุ้ม คนขับรถ หรือคนลงมือฆ่า อาจจะไม่มีความรู้เรื่องนี้ แต่..คนที่มีความรู้เรื่องเหล่านี้อาจจะเป็น ตำรวจ หมอ ซึ่งงานนี้แน่ชัดเลยว่า คนที่ร่วมขบวนการนี้มี “นักฆ่าอาชีพ”
งานนี้ถูกวางแผนอย่างดี วิธีการที่ใช้ จุดที่ฝัง ที่นำไปฝังที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นถิ่นของอดีตตำรวจเก่ารายหนึ่งที่มีความเกี่ยวพันกับผู้กำกับ นอกจากนี้ ยังมีทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง หากศพพิสูจน์ไม่ได้ว่าศพคือใครก็จะแจ้งข้อหา “ฆ่าคนตาย” ไม่ได้ เรื่องนี้ตำรวจรู้ดี ที่ผ่านมาก็เชื่อว่าเคยทำคดีในลักษณะนี้ ดังนั้นจึงลงมือด้วยวิธีนี้แต่กรรมมีจริง ดันเจอศพและเรื่องแดงเสียก่อน
ดิ้นหลุดยาก แม้จะเป็นตำรวจระดับผู้กำกับ เพราะหลักฐานแน่น โลกออนไลน์เฝ้าติดตาม
...
ช่วงท้าย ผู้การวิสุทธิ์ เน้นเสียงเข้ม โดยเชื่อว่า ผู้กำกับบ้านโป่งรายนี้ รอดยาก!!
งานนี้ไม่มีทางรอด...ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนกล้าช่วยเหลือแน่ เพราะเป็นคดีใหญ่ อัตราโทษสูง แล้วที่ผ่านมา ทางนครบาลเร่งรัดคดีมาก็มีการแถลงข่าวบ่อยๆ เจ้าหน้าที่คนอื่นก็กระโดดหนีหมด ที่สำคัญคือ โลกโซเชียลเขาคอยตามติดอยู่ พอมีเรื่องไหนที่ใกล้เคียงเกิดขึ้น ก็จะยกคดีนี้ขึ้นมาถามไถ่
“ขอบอกตรงนี้ชัดๆ เลย (เน้นเสียง)ผู้ต้องหาระดับพันตำรวจเอก ถ้าหลักฐานไม่แน่นหนาจริงเจ้าหน้าที่จะไม่ไปขอหมายจับ สิ่งที่ตำรวจทำที่ผ่านมาคือ การหาข้อมูลมาแถลงข่าวให้ประชาชนได้ทราบเพื่อทำให้สังคม “คลายความสงสัย” คดีนี้ต้องทำให้กระจ่างมากกว่าคดีทั่วไป เพื่อให้แรงกดดันจากสังคมน้อยลง ถ้าทำไม่ดี “สำนักงานตำรวจแห่งชาติพัง” อดีตตำรวจฝีมือดีกล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน