กรณีตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ เชิญตัวนายชัยรินทร์ หรือหม่อมบิ๊ก อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 44 ปี มาสอบปากคำหลังจากมีผู้เสียหายแจ้งความว่าถูกนายชัยรินทร์ แอบอ้างเป็นหม่อมและเป็นนายทหารหลอกยืมเงิน โดยมีผู้เสียหาย 4 ราย พร้อมหลักฐานการยืมเงิน ยอดเงินกว่า 2 ล้านบาท ตรวจค้นรถกระบะยี่ห้อฟอร์ดสีส้ม ทะเบียน กจ 1712 อุทัยธานี พบปืน 9 มม. ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก แมกาซีน 2 ตลับ กระสุนปืน 9 มม. จำนวน 32 นัด ชุดแต่งกายเลียนแบบทหาร 2 ชุด และบัตรประจำตัวแอบอ้างอีกหลายหน่วยงานนั้น
พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยว่า นายชัยรินทร์ได้เข้ามาพบ พงส.โดยไม่มีท่าทีหลบหนี จึงแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงและความผิดมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเจ้าตัวได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พงส.สามารถปล่อยตัวได้เลย เพราะไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี หากใครคิดว่าถูกนาย ชัยรินทร์ ฉ้อโกง ขอให้ไปแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจ ภูธรท้องที่ที่เกิดเหตุต่อไป
จ.อุทัยธานี ตอนบ่ายวันเดียวกัน ตำรวจสภ.ลานสัก นำทีมโดย พ.ต.ท.มนัส ปานสอน รอง ผกก. (สส.) สภ.ลานสัก พร้อมด้วย ร.ท.ธีรชาติ โชติพรหม หัวหน้าชุดหมวดรักษาความสงบเรียบร้อย อ.ลานสัก นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 3 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก บ้านของนายชัยรินทร์ ซึ่งมีการล็อกกุญแจบ้านไว้ แต่ไม่พบตัวนายชัยรินทร์พบเพียง น.ส.อรัญญา จันทร์จินดา อายุ 40 ปี อ้างว่านายชัยรินทร์ ให้มาดูแลบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์ไปหานายชัยรินทร์ได้ความว่า ขณะนี้ทำธุระอยู่ที่กรุงเทพฯ และจะเดินทางกลับบ้านในอีก 2 วัน เจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบรอบๆบริเวณบ้าน พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวนหลายปลอก แต่ไม่พบหลักฐานอะไร จึงยุติการตรวจค้นและเดินทางกลับ.