คนไทยรวมใจทำดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชาวอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จัดพิธีอุปสมบทหมู่ 134 รูป ส่วนนายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โกนหัวบวชชี 9 วัน ขณะที่ หลายจังหวัดจัดรถฟรีออกบริการประชาชนเดินทางถวายสักการะพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวังช่วงวันหยุด เส้นทางอีสานรถแน่นทั้งวัน ด้านบรรยากาศการแลกเหรียญกษาปณ์และธนบัตรที่ระลึกยังเนืองแน่น ชาวบ้านแห่จองคิวแลกหมดในพริบตาพสกนิกรทั่วประเทศรวมพลังทำความดีจัดกิจกรรมแสดงความอาลัยเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยตลอดการครองราชย์ 70 ปี

แปรขบวนแผนที่แผ่นดินพ่อ

ที่หน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา 08.00 น. วันที่ 28 ต.ค. นายศุภวัชร ศักดา รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี นำหัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนกว่า 1 หมื่นคน พร้อมใจร่วมกัน แปรขบวนเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย (แผ่นดินของพ่อ) มีคำว่าพ่ออยู่ตรงกลาง และ SURAT อยู่ด้านล่างของแผ่นที่ประเทศไทย และร่วมกันประสานเสียงขับร้องเพลงจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเพลงสรรเสริญพระบารมีกันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ครู-นร.รำลึกช่วยพ้นน้ำท่วม

ที่โรงเรียนลาซาล มารดาพิทักษ์ จ.จันทบุรี อ.เมืองจันทบุรี ครูและนักเรียนกว่า 800 คน ร่วมกันแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หน้าอาคารเรียนด้วยการแปรอักษรเป็นรูปริบบิ้นและตัวอักษรเลข ๙ ไทย ลาซาลจันท์ เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องจากโรงเรียนลาซาล มารดาพิทักษ์ จ.จันทบุรี ตั้งอยู่ใกล้โครงการพระราชดำริคลองภักดีรำไพ ซึ่งเป็นโครงการที่พระองค์พระราชทานการช่วยเหลือแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเขตเมืองและที่ลุ่มต่ำ ถึงแม้ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ก็สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโรงเรียนซ้ำซาก จนกระทั่งปัจจุบัน สามารถผ่านพ้นปัญหาอุทกภัยได้เป็นอย่างดี

...

สร้าง “โรงเรียนพ่อ” ให้คนจน

วันเดียวกัน ร.ต.ท.ทวีป เสือเฒ่า อายุ 57 ปี รอง สว.สส.สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี เดินทางไปที่โรงเรียนวัดสันติการามราชานุเคราะห์ (โรงเรียนพ่อ) ตั้งอยู่หมู่ 15 ต.ทุ่งหลาง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้างโรงเรียนขึ้นเมื่อวันที่ 17 ต.ค. พ.ศ.2517 โดย ร.ต.ท.ทวีปเปิดเผยว่า ตนเป็นเด็กครอบครัวยากจนที่มีโอกาสเรียนหนังสือที่โรงเรียนพ่อแห่งนี้ ตอนนั้นมีเพื่อนในชั้นเรียนแค่ 7 คนเท่านั้น และในวันที่ในหลวงเสด็จฯเปิดอาคารเรียนก็ได้รับมอบให้เป็นตัวแทนนักเรียนถวายพานพวงมาลัย รู้สึกตื่นเต้นจนสุดบรรยายมาถึงทุกวันนี้ กระทั่งเรียนจบและเข้าศึกษาต่อและรับราชการตำรวจ และวันนี้ได้กลับมาที่โรงเรียนพ่อสร้างอีกครั้ง และขอยึดมั่นทำดีเพื่อพ่อต่อไป

ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง

นายสงวน มงคลศรีพันธ์เลิศ อายุ 56 ปี ชาวบ้านเขากลม หมู่ 7 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ กล่าวว่า ได้นำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงซึ่งมีหลากหลายรูปแบบไปใช้ในการทำ มาหากิน พระองค์ท่านได้ให้เราคิดรอด ก่อนที่จะคิดรวย หลายคนเกิดปัญหาเพราะคิดแต่จะรวยก็เลยไม่รอด แต่ตนทำให้รอด ให้พอกินในครอบครัวก่อน จนประสบผลสำเร็จกลายเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงโครงการตามแนวพระราชดำริบ้านเขากลม ต.หนองทะเล รวมระยะเวลา 16 ปีแล้ว ภายในศูนย์มีกิจกรรม หลากหลาย ส่วนใหญ่สอนให้คนในเมืองสามารถทำได้ในพื้นที่เพียงเล็กน้อย เช่น การปลูกพืชผักสวนครัวในกระถางที่มีแนวทางที่ไม่เหมือนใคร เช่น ปลูกพริกห้อยหัว ปลูกตะไคร้ไร้ดิน ปลูกมะนาวแบบตะแคง และถือเป็นต้นแบบการปลูกกล้วยกลับหัวลงดิน และการคิดค้นให้กล้วยน้ำหว้ามีกลิ่น เช่น กลิ่นทุเรียน และกลิ่นสตรอเบอรี่ แห่งแรกของประเทศไทย

พลิกที่ร้าง 5 ไร่ งอกเป็น 62 ไร่

ด้านนายไม ไกรสุทธิ์ อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 6 หมู่ 2 ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เจ้าของรางวัลปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2552 เปิดเผยว่า เรียนจบ ป.4 แต่พยายามศึกษาเรียนรู้ และยึดแนวทางดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เดิมพื้นที่หมู่บ้านเป็นนาร้าง เนื่องจากถูกน้ำป่าไหลท่วมและได้พลิกฟื้นใช้ที่ดินจาก 5 ไร่ปลูกผัก ผลไม้ เลี้ยงปลา ปลูกหญ้าแฝกป้องกันการพังทลายของหน้าดิน และทำปุ๋ยหมักไว้ใช้จนปัจจุบันได้ขยายเป็น 62 ไร่ เท่ากับอายุตัวเอง สำหรับผลผลิตมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงบ้าน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000-25,000 บาท โดยไร่นาสวนผสมที่ทำเคยได้รับรางวัลดีเด่นมาแล้วนับไม่ถ้วน มีเกษตรกรจากทั่วประเทศมาศึกษาดูงาน จนเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน ส่วนการดำเนินชีวิตได้ยึดคติ “เหงื่อทุกหยด เพื่ออนาคตของแผ่นดินไทย”

อสม.เปลี่ยนโทมนัสเป็นพลัง

ที่ รพ.เทศบาลเมืองปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายฤทธิชัย ศรีเมือง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปากพูน เปิดโครงการ “เปลี่ยนโทมนัสเป็นพลัง ดูแลประชาชนให้ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชปลอดโรคภัย” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งนี้ รพ.เทศบาลเมืองปากพูน ได้เชิญชวนเจ้าหน้าที่ อสม.จากทุกหมู่บ้านรวมพลังลงพื้นที่ไปสำรวจสอบถามประชาชนในการเฝ้าระวังโรคที่เกิดจากยุงลายเป็นพาหะนำโรค รวมทั้งการป้องกันการเกิดภาวะซึมเศร้าของประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบเป็นเวลา 3 วัน คือวันที่ 28-30 ต.ค. แล้วรายงานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อแก้ปัญหาต่อไป

...

จัดพิธีอุปสมบทหมู่ 134 รูป

ที่ลานสยามมินทร์ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.หทัยเทพ กีรติอังกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 19 (ผบ.มทบ.19) นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว และนายกรชัย ศรีกูน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ร่วมกันเป็นประธานในพิธีโกนผมนาคในพิธีอุปสมบทหมู่ 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-6 พ.ย. อย่างไรก็ตาม มีประชาชนมาขอเข้าพิธีอุปสมบทเพิ่มเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 89 คน จึงต้องเพิ่มเป็น 134 คน โดยผู้ที่มีอายุมากสุดคือนายบรรจง มีศิริ อายุ 73 ปี ส่วนพิธีอุปสมบทจะเริ่มเช้าวันที่ 29 ต.ค.จะนำนาคทั้งหมดไปบวชตามวัดต่างๆจำนวน 4 วัด เป็นเวลา 9 วัน

นายกกิ่งกาชาดโกนหัวบวชชี

ที่วัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ พระครูปริยัตยาธิคุณ เจ้าอาวาสและเจ้าคณะอำเภอท่าเรือ ได้จัดพิธีบวชชีและชีพราหมณ์ให้กับหญิงสาวทั่วไปที่สมัครใจบวชชีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำหรับโครงการบวชชีพราหมณ์ดังกล่าวกำหนด 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.-31 ต.ค. มีนางศศิธร ปิ่นนิกร นายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าเรือเข้าพิธีบวชชีโกนศีรษะตั้งแต่เริ่มโครงการ ครั้งแรกมีผู้ร่วมพิธีเพียง 20 คนและมีคนทยอยมาบวชชีเพิ่ม ล่าสุดมีจำนวนกว่า 100 คนแล้ว

ขุดแท่นจารึกเสด็จเยี่ยมราษฎร

ที่วัดสันทรายหลวง ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย สายวันเดียวกัน ร.ต.คำลือ กันทะวัง กำนันตำบลสันทราย นำรถตักล้อไปขุดดินข้างซุ้มประตูทางเข้า-ออกวัด เพื่อหาแท่นจารึกที่บันทึกครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จเยี่ยมประชาชนเมื่อปี 2501 หลังขุดลึก 1 เมตรพบแท่นจารึกเป็นวงกลมแผ่นปูนมีฐานสี่เหลี่ยมเป็นลำดับ 3 ชั้น ด้านบนภายในวงกลม มีข้อความเขียนจารึกด้วยคำว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ” และบรรทัดที่ 2 เขียนว่า “ได้เสร็จแวะเยี่ยมพสกนิกรชาวตำบลสันทราย ณ.ที่นี่ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2501 ตรงกับวันอังคารแรม ๖ ค่ำ เดือน ๔ (เดือน ๖ เหนือ) ปีจอ เวลา 16.45 น.”

...

พ่อเฒ่าย้อนรำลึกเฝ้ารับเสด็จ

นายทองพัน นาวา อายุ 69 ปี ชาวบ้าน ต. สันทราย เปิดเผยว่าหลักฐานจารึกดังกล่าวอดีตผู้ใหญ่บ้านร่วมกับชาวบ้านได้จารึกไว้เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จมาเยี่ยมชาวสันทราย และฝังไว้ที่ประตูซุ้มวัด ตอนนั้นตนอายุแค่ 11 ขวบและบวชเณรอยู่ที่วัด แม้จะผ่านมา 58 ปีแต่ยังจำเหตุการณ์ได้ดี หลังการเสด็จสวรรคตจึงปรึกษาชาวบ้านเห็นว่าควรขุดแท่นจารึกขึ้นมา เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ว่า ครั้งหนึ่งในหลวง เคยเสด็จมาที่วัดแห่งนี้ จากนี้จะแจ้งวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายเพื่อพิจารณาว่าควรทำอย่างไรต่อไป

ประทับใจถวายพิณในหลวง

ที่บ้านเพชรพิณทอง ถนนนิคมสายกลาง(ท่าวังหิน) อ.เมืองอุบลราชธานี นายนพดล ดวงพร หรือนายณรงค์ พงษ์ภาพ อายุ 74 ปี เจ้าของบ้านและเป็นผู้ก่อตั้งวงดนตรี “เพชรพิณทอง” ที่โด่งดังในภาคอีสาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. พ.ศ.2514 เคยนำคณะวงดนตรีสมัยนั้นชื่อ “พิณประยุกต์” ไปแสดงหน้าพระที่นั่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถือเป็นวงแรกของเมืองไทยที่ได้รับเกียรติสูงสุดที่ได้แสดงหน้าพระที่นั่งที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ถึงแม้เวลาจะผ่านมานาน 45 ปีแล้ว แต่ยังคงจดจำความรู้สึกขณะนั้นอย่างแม่นยำ ครั้งนั้นได้ทำพิณขึ้นมา 2 ตัว ตัวแรกนำขึ้นถวายพระองค์ท่าน อีกตัวให้พระองค์ทรงดีด เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้วนำมาเก็บรักษาไว้ ขณะทรงดีดพิณพระองค์ตรัสว่า “เพชรก็คือเพชร” สร้างความปลาบปลื้มปีติแก่ตนและชาวคณะเป็นอย่างยิ่ง

ทำไปรษณียากร “ทรงเกี่ยวข้าว”

นายสุเทพ มงคลปทุมรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายไปรษณีย์เขต 1 บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทไปรษณีย์ไทยได้จัดทำตราไปรษณียากรที่ระลึกภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทรงเกี่ยวข้าวในนาที่ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำในพื้นที่รอบพระราชานุสาวรีย์ฯ ตามโครงการส่งเสริมอาชีพปลูกข้าวนาปรังเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2539 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวาระพิเศษที่ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานีวิจัยข้าวแห่งแรกของไทยก่อตั้งมาครบ 100 ปี ตามพระราชประสงค์ในรัชกาลที่ 5เมื่อปี 2459

...

ปาฏิหาริย์เหรียญ ร.9 ช่วยชีวิต

ร.ต.ต.สมมาต สมานพิกุลวงศ์ อดีตตำรวจชุด ฉก.ภ.จ.สตูล อยู่บ้านเลขที่ 60-67 ถนนติรสถิต อ.เมืองสตูล เปิดเผยว่า ได้สะสมเหรียญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชนิดต่างๆมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ ป.7 ถึงปัจจุบันประมาณ 400 เหรียญ เนื่องจากเคารพและเทิดทูนพระองค์ท่าน เมื่อปี 2521 ขณะรับราชการตำรวจ ได้ห้อยเหรียญ ร.9 รุ่นปี 2493 ติดตัวออกปฏิบัติหน้าที่ปราบปราม ผกค.เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ตัว กระทั่งเดือน เม.ย. 2522 ขณะลงพื้นที่ ต.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล ถูก ผกค.ลอบโจมตีรถยนต์ทำให้ผู้บังคับบัญชายศ พ.ต.อ.เสียชีวิต ส่วนตนไม่ได้รับอันตรายใดๆ ต่อมาปี 2526 ถูกโจรเรียกค่าคุ้มครองขว้างระเบิดสังหารใส่ ระเบิดโดนหัวเข่าแต่ระเบิดด้านไม่ทำงาน รอดชีวิตมาได้อีกครั้ง เชื่อว่าเป็นเพราะพระบารมีเหรียญในหลวง ร.9 ที่ห้อยคอช่วยปกป้องคุ้มครอง

แห่แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก

ที่สำนักงานธนารักษ์ จ.แพร่ เจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ผลิตออกมาในโอกาสต่างๆ โดยมีการเข้าแถวต่อคิวรอแลกหมดเกลี้ยงภายใน 1 ชั่วโมง นายชัยวัฒน์ ศรีสมนึก ธนารักษ์ จ.แพร่ เผยว่า เหรียญกษาปณ์มีให้แลก 4 ชนิดคือ เหรียญที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธ.ค.50 เหรียญที่ระลึกรางวัลนักวิทยาศาสตร์ทางดินเพื่อมนุษยธรรม 16 เม.ย.55 เหรียญที่ระลึกพระบิดาแห่งฝนหลวงครบ 50 ปี ฝนหลวงพระราชทาน 14 พ.ย.48 จำหน่ายพร้อมตลับใส่เหรียญในราคา 30 บาท และเหรียญที่ระลึกสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ปี 2549 ชนิดราคา 900 บาท จำหน่ายในราคาเหรียญละ 1,800 บาท

ธนบัตรหมดเกลี้ยงในพริบตา

ส่วนการเปิดให้แลกธนบัตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฉลองสิริราชสมบัติ 70 ปี 9 มิ.ย.2559 ฉบับละ 100 บาท และธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค.2554 ฉบับละ 200 บาท โดยธนาคารต่างๆหมุนเวียนกันเปิดให้แลก ล่าสุด วันที่ 28 ต.ค. เป็นคิวของธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ โดยบรรยากาศที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาต่างๆในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีประชาชนมาเข้าคิวรอแลกธนบัตรกันอย่างคึกคัก บางคนมารอตั้งแต่ช่วงตี 5 และหมดลงในเวลาไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น เนื่องจากเปิดให้แลกเพียง 100 ฉบับ และแลกได้เพียงคนละ 1 ฉบับเท่านั้น เช่นเดียวกับธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเมืองชัยนาท มีประชาชนมาจองคิวรอแลกตั้งแต่ช่วงเช้ามืด และธนบัตรที่ให้แลกหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว

ส่งปลานิลแดดเดียวไปเลี้ยง

ที่วัดอุทุมพร ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย นายสาธิต คำกองแก้ว ประมงอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ร่วมตัวแทนผู้เลี้ยงปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง อ.ท่าบ่อ เตรียมนำปลานิลมาทำปลานิลแดดเดียวเพื่อส่งให้กับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นำไปทอดเป็นอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพที่พระบรม มหาราชวัง กทม. เบื้องต้นจะใช้ปลาประมาณ 3,000 กิโลกรัม โดยนายสาธิตเปิดเผยว่า ผู้เลี้ยงปลานิลซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพันธุ์ปลานิลให้กรมประมงแจกจ่ายให้กับประชาชน 3 อำเภอ คือ อ.เมืองหนองคาย ศรีเชียงใหม่ และท่าบ่อ เลี้ยงปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง 259 ราย มีปลามากกว่า 10 ล้านตัว สร้างรายได้มากกว่าปีละ 1 พันล้านบาท ถือว่าเป็นแหล่งผลิตปลานิลมากที่สุดในภาคอีสาน

หัวหน้าลิเกขอบริจาคร่างกาย

ส่วนบริเวณหน้า อบจ.พิจิตร นายนันต์ เสาร์แก้ว อายุ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 6 ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร หัวหน้าคณะลิเก “นอ เสียงหนุ่ม” ออกเดินเท้ามุ่งหน้าไปถวายสักการะพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวัง กทม. โดยนายนันต์ หัวหน้าคณะลิเก เผยว่า การเดินเท้าเข้า กทม.ไปร่วมแสดงความอาลัยในครั้งนี้เป็นเพราะได้รับทราบข่าวสารต่างๆว่าพระองค์ท่านได้เหนื่อยเพื่อปวงชนชาวไทยมานานมาก เลยตั้งใจจะเดินไปพระบรมมหาราชวัง เพื่อกราบพระบรมศพ คงจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10 วัน หลังจากกลับจาก กทม.ก็จะไปบริจาคร่างกายที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลต่อไป

คนไร้สัญชาติเดินเท้า 269 กม.

ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายปัญญา ศรีทอง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 8 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ นายสมชาย ฉุนมี อายุ 56 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 23/14 หมู่ 7 ต.หินดาด และนายโมฮามัต อากบาร อยู่บ้านเลขที่ 76/5 หมู่ 5 ต.หินดาด ซึ่งเป็นบุคคลไม่มีสัญชาติ แต่อยู่ในผืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่เกิดได้พร้อมใจกันเดินทางออกจาก อบต.หินดาด ไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรม มหาราชวัง กทม. รวมระยะทาง 269 กิโลเมตรโดยนายโมฮามัต เผยว่า ตนเกิดบนแผ่นดินไทยแต่ด้อยโอกาสที่จะได้รับสัญชาติไทย แต่จิตใจก็มีความรัก พ่อหลวงไม่แพ้คนใดคนหนึ่ง พ่อหลวงทำเพื่อคนไทยมานาน ในฐานะที่เกิดในผืนแผ่นดินไทยก็อยากจะทำเพื่อพ่อเป็นโอกาสสุดท้ายของชีวิตสักครั้งหนึ่ง

หมอมาเลย์ข้ามแดนรักษาฟรี

ที่ด่านชายแดนวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล นายซาบีดี อับดุลราสัก ผู้บริหาร รพ.KMC รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย นำคณะแพทย์และพยาบาลจำนวน 160 คน ปั่นจักรยานข้ามชายแดนเข้ามาให้บริการรักษาชาวบ้านฟรีที่มัสยิดนูรุ้ลฮาลีม ต.เจ๊ะบิลัง อ.เมืองสตูล ก่อนเข้าพื้นที่คณะของนายซาบีดี ได้แวะ อบต.บ้านควน เพื่อลงนามแสดงความอาลัยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีชาวบ้านมาเข้าคิวรับการรักษากว่า 300 คน ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัด เจ็บคอ ปวดเมื่อยร่างกาย ซึ่งการเข้ามารักษาชาวบ้านครั้งนี้ถือเป็นการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องจากชาวมาเลเซียและชาวไทย โดยเฉพาะรัฐเคดาห์และรัฐเปอร์ลิสถือเป็นบ้านพี่เมืองน้องไปมาหาสู่กันตลอดเวลา และมีสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

จัดรถวิ่งฟรีกราบพระบรมศพ

นายรุ่งฤทธิ์ เศรษฐลักษณ์ ขนส่งจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดอ่างทองร่วมกับผู้ให้บริการรถตู้ บขส.ประจำทาง เปิดให้บริการรับส่ง ประชาชนฟรีในวันที่ 29 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยออกเดินทางจากท่ารถ บขส.อ่างทอง ไปที่สถานีขนส่งหมอชิต เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ ทั้งนี้ผู้ประกอบการ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบรมโพธิสมภาร สามารถทำมาหากินได้อย่างร่มเย็นเป็นสุขมาตลอดทั้งชีวิต จึงร่วมกันจัดบริการวิ่งรับส่งประชาชนที่จะเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพฟรี 1 วัน เป็นการทำดีถวายในหลวง

อีสานมุ่งหน้าเข้า กทม.-รถแน่น

ขณะที่ พ.ต.ต.กฤษดา บุญศิริ สว.สทล.2 กก.4 บก.ทล. (ตำรวจทางหลวงขอนแก่น) นำเจ้าหน้าที่ออกอำนวยความสะดวกการจราจรบนถนนมิตรภาพและถนนมะลิวัลย์เส้นทางฝั่งขาล่องที่มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ หลังมีประชาชนจำนวนมากใช้เวลาช่วง วันหยุด เดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรม มหาราชวัง โดย พ.ต.ต.กฤษดาเปิดเผยว่า ประชาชนเดินทางกันตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ไปจนถึงช่วงเช้าของวันที่ 29 ต.ค. โดยจัดตำรวจคอยให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ ผู้ใช้รถสามารถสอบถามสภาพการจราจรและขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลขสายด่วน 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

กลุ่มรถตู้บริการด้วยจิตอาสา

ที่หน้า สภ.เมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร เปิดโครงการจิตอาสาทำดีถวายพ่อหลวง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มี พ.ต.อ.สุระพรรณ นาทวรทัต ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และตำรวจสังกัด สภ.เมืองสมุทรสาคร กลุ่มรถตู้มหาชัยแวนด์คลับสมุทรสาคร และประชาชนทั่วไปเข้าร่วม สำหรับจัดกิจกรรมดังกล่าวตำรวจร่วมกับกลุ่มจิตอาสา กลุ่มรถตู้มหาชัยแวนด์คลับสมุทรสาครจำนวน 35 คันที่มีจิตอาสาต้องการทำความดีถวายพ่อหลวง นำรถตู้ โดยสารไม่ประจำทางให้ประชาชนเดินทางเข้าไปพระบรมมหาราชวัง กทม. เริ่มบริการตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 ต.ค. เวลา 09.00-16.00 น. บริเวณด้านหน้า สภ.เมืองสมุทรสาคร

เมืองกาญจน์ปลื้มได้คิวแรก

ด้านนายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้จัดเตรียมรถเพื่อนำชาวบ้านเดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ และรู้สึกปลื้มปีติที่กาญจนบุรี เป็นจังหวัดแรกๆ ที่เข้าไปถวยสักการะพระบรมศพ โดย นัดหมายชาวบ้านทั้งหมด 750 คน รวมตัวกันที่ศาล หลักเมืองในเวลา 04.30 น. เพื่อขึ้นรถโดยสารที่ทางจังหวัดได้จัดหามาให้ และออกเดินทางเข้ากทม. เวลา 05.00 น. โดยมีทหาร รส.พล.ร.9 สนับสนุนกำลังพลทหารเสนารักษ์และทหารร้อย รส. มาร่วมในการอำนวยความสะดวกดูแลประชาชนทั้งไปและกลับ

เผยบันทึกครูส่วนพระองค์

นายลีซองดร์ เซ เซไรดารีส บุตรชายนายเกลย์อง เซ เซไรดารีส ครูส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระ บาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เมื่อครั้งทั้งสองพระองค์ประทับที่เมืองโลซาน สวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ระหว่างเดินทางมาประเทศ ไทย เพื่อร่วมลงนามแสดงความอาลัยว่า ได้นำหนังสือบันทึกความทรงจำของนายเกลย์อง บิดามาถ่ายทอดให้คนทั่วโลกได้รับรู้ผ่านหนังสือชื่อ “พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และเจ้านายไทยในโลซาน” โดยเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ทรงพระราชวิริยอุตสาหะ และตั้งพระราชหฤทัยแน่วแน่ที่จะทรงศึกษาเล่าเรียนและทรงเรียนรู้สิ่งต่างๆให้ได้มากที่สุด ดังที่ทรงตั้งพระราชปณิธานอันแน่วแน่ถึงพระราชภาระอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ แต่เมื่อรัชกาลที่ 8 เสด็จสวรรคต คนในครอบครัวของนายลีซองดร์ต่างรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงตั้งพระราชหฤทัยแน่วแน่ และทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ เมื่อเสด็จนิวัตประเทศไทยจะทรงนำความรู้ความสามารถกลับมาพัฒนาประเทศไทยเพื่อพสกนิกรชาวไทย

อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ลงนามอาลัย

วันเดียวกัน นายเบนิกโน เอส. อาคีโน ที่ 3 อดีตประธานาธิบดีประเทศฟิลิปปินส์ ได้ลงนามแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา มีนายธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัครราชทูต พร้อมภริยาและข้าราชการหัวหน้าสำนักงาน และลูกจ้างสถานทูตให้การต้อนรับ โดยนายอาคีโนได้ยืนแสดงความอาลัยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ก่อนลงนามในสมุดลงนาม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.2559 ผู้แทนรัฐบาลฟิลิปปินส์ นางกลอเรียอาร์โรโย อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ และรองประธานาธิบดี ตลอดจนคณะทูตานุทูตและคนไทยในฟิลิปปินส์และชาวต่างชาติได้ร่วมลงนามแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช