ผญบ.นำเครือข่าย และปชช.รอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี จ.พิจิตร เข้ายื่นหนังสือร้อง รอง ผวจ.ให้ปลด 2 นักวิชาการในคณะกรรมการ 5 ฝ่ายตรวจสอบ หลังพบไม่มีความเป็นกลาง เป็นแกนนำประท้วงไม่เอาเหมือง และให้สอบความโปร่งใสการใช้เงินกองทุนประกันความเสี่ยง ผิดประเภทด้วย
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 29 พ.ค. นายศิวกร ช่วยค้ำชู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร นำทีมเครือข่ายตัวแทนผู้นำชุมชน และประชาชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี จำนวน 10 คน เข้ายื่นหนังสือแก่ นายพิษณุ เสนาวิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร เรียกร้องขอให้ปลดนักวิชาการ 2 คน (ตามรายชื่อที่ยื่นร้องเรียน) ออกจากการเป็นคณะกรรมการ 5 ฝ่าย ในการตรวจสอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี กล่าวหาว่าไม่มีความเป็นกลาง ไม่มีความโปร่งใสในการใช้กองทุนประกันความเสี่ยง โดยใช้ชาวบ้านเป็นเครื่องมือในการต่อต้านเหมืองแร่ทองคำชาตรี และหาประโยชน์เข้าตนเอง
นายศิวกร กล่าวว่าพฤติกรรมของนักวิชาการทั้ง 2 คนดังกล่าว ในฐานะคณะกรรมการ 5 ฝ่ายในการตรวจสอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี ได้ไปเป็นแกนนำประท้วงไม่เอาเหมืองแร่ทองคำชาตรี เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นเครื่องมือในการต่อต้านเหมืองแร่ทองคำชาตรี และไม่ได้ทำเพื่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณรอบเหมือง แต่ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองมากกว่า
นอกจากนี้ ทั้ง 2 คน ได้นำข้อมูลส่วนตัวของชาวบ้านที่เข้าตรวจเลือดไปเปิดเผยต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีการนำผลการตรวจเลือดมาแจ้งให้ชาวบ้านทราบ ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวเกิดความรู้สึกวิตกกังวล และเกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เห็นว่าการกระทำของทั้ง 2 คน ไม่เหมาะสมที่จะทำงานในฐานะคณะกรรมการ 5 ฝ่าย และไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักวิชาการ
...
ด้าน นางสาวศิริรัตน์ ม่วงวัดท่า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร กล่าวว่า ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจ และเกิดข้อสงสัยว่านักวิชาการทั้ง 2 คน ได้นำเงิน 4.7 ล้านบาท ของกองทุนประกันความเสี่ยงที่ บริษัท อัคราฯ ตั้งไว้ ไปใช้อะไรบ้าง และมีเหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนที่ตั้งไว้หรือไม่ มีความโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน
“พวกเราไม่เคยเห็นหลักฐานการใช้เงินของกองทุนประกันความเสี่ยง และอยากทราบถึงความสมเหุตสมผลของค่าใช้จ่ายที่นำไปใช้ ว่าเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน อย่างไร กองทุนประกันความเสี่ยงตั้งไว้เพื่อนำเงินมาใช้พัฒนาชุมชน และชีวิตของประชากรบริเวณรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี มากกว่าการนำเงินไปใช้ในการตรวจสุขภาพชาวบ้านโดยไม่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน อีกทั้งยังนำไปใช้ตรวจสุขภาพของคนที่ไม่ได้อาศัยอยู่บริเวณรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี ถือว่าเป็นการใช้เงินเพื่อวัตถุประสงค์อื่น และจะต้องมีหลักฐานการใช้จ่ายเงินด้วย จึงขอให้มีการตรวจสอบให้ชัดเจน” นางสาวศิริรัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ได้พยายามติดต่อเพื่อสอบถามนักวิชาการที่ถูกกล่าวหา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะเดียวกันได้ทราบจากข้อความที่เขียนทางโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า ได้พยายามเข้ามาช่วยเหลือชุมชน และการดำเนินการก็ได้แจ้งให้ทางจังหวัดทราบมาตลอด ซึ่งข่าวความคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป.