ชมรมโพธิคยา 980 สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ร่วมกับมูลนิธิวีระภุชงค์ ได้จัดงานประชุมเสวนา "พุทธพลิกสุวรรณภูมิ สามัคคีทำ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" ขึ้น เนื้อหาเสวนามุ่งให้สังคมเข้าถึงหลักธรรม...

ผู้สื่อข่าวไทยรัฐรายงานมาจากโรงแรมโซฟิเทล อังกอร์ กอล์ฟแอนด์สปารีสอร์ท จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ว่า ชมรมโพธิคยา 980 สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ร่วมกับมูลนิธิวีระภุชงค์ ได้จัดงานประชุมเสวนา "พุทธพลิกสุวรรณภูมิ สามัคคีทำ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" ขึ้นโดยมี พระมหาผ่อง สะมาเลิก อายุ 101 ปี เจ้าอาวาสวัดองค์ตื้อ ประธานศูนย์กลางองค์การศาสนสัมพันธ์ลาว (สปป.ลาว) เป็นประธานเปิดงาน มีประธานสงฆ์และพระธรรมทูตจาก 5 ประเทศได้แก่ กัมพูชา พม่า ลาว ไทย และเวียดนาม พร้อมอุบาสก อุบาสิกา เข้าร่วมประชุมจำนวน 300 รูป/คน และมีนายณัฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัคราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กล่าวต้อนรับ และนายชัช ชลวร ประธานชมรมโพธิคยา 980 กล่าวถึงการจัดงาน

ทางด้านนายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า ปัจจุบันคนในสังคมบางส่วนไม่เข้าใจในแก่นธรรมของพระพุทธศาสนา ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง ขณะที่ชมรมโพธิคยา 980 ที่ก่อตั้งมาถึง 7 ปี ได้มุ่งเน้นในการสนับสนุนการทำงานของพระธรรมทูต การเสวนาครั้งนี้จึงได้อาราธนาประธานสงฆ์จาก 5 ประเทศเข้าร่วมหารือในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตในแดนสุวรรณภูมิ พร้อมอยากให้เกิดความเชื่อมโยงของชาวพุทธในดินแดนนี้ เนื่องจากในดินแดนสุวรรณภูมินับถือพุทธศาสนาทั้งหมด โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง

...

นายสุภชัย กล่าวต่อไปว่า จากประสบกาารณ์ที่ตนเป็นนักธุรกิจค้าขายในดินแดนสุวรรณภูมิมากว่า 25 ปี ได้เห็นว่าทุกประเทศมีปัญหาที่คล้ายคลึงกันคือ พุทธบริษัท 4 ไม่เข้าใจแก่นและหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และการสอนให้ชาวพุทธเข้าถึงแก่นได้นั้น เป้าหมายอยู่ที่คณะสงฆ์ เพราะพระสงฆ์เป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย เป็นผู้ถ่ายทอดธรรมะ แต่ปัญหาคือพระสงฆ์ในแดนสุวรรณภูมิบางรูปไม่สามารถยกจิตต่อสู้กับกระแสโลกาภิวัฒน์ที่ถาโถมเข้ามาได้ ทำให้หลงในลาภสักการะ ยศฐาบรรดาศักดิ์ จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดในธรรมะ รวมทั้งคณะสงฆ์ยึดระบบอุปถัมภ์มากเกินไป

นอกจากนี้นายสุภชัย ยังกล่าวอีกว่า จากเหตุผลดังกล่าวชมรมโพธิคยา 980 จึงอยากให้เจ้าคณะผู้ปกครองมีหลักการในการบริหารกันผู้ที่บวชเพื่อแสวงหาลาภสักการะออกจากคณะสงฆ์ และอยากเห็นชาวพุทธเข้าใจในแก่นธรรม จนนำไปสู่การปฏิบัติได้ รวมถึงยกตนขึ้นเป็นครูสอนคนอื่นให้เข้าใจได้ พร้อมกับสามารถเชื่อมโยงมิติทางศาสนาใน 5 ประเทศให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีในเรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมตามาด้วย เพราะนี่คือหน้าที่ของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่จะต้องจรรโลงพระพุทธศาสนาต่อไปอีก 2,500 ปีตามพุทธกาล

ขณะที่พระมหาผ่อง สะมาเลิก กล่าวว่า ในฐานะที่อาตมามีอายุกว่า 101 ปี จึงอยากแนะนำว่าทำอย่างไรในการปฏิบัติธรรมของหมู่สงฆ์ในดินแดนสุวรรณภูมิ จะไปสู่เป็าหมายได้เร็วขึ้น จึงขอฝากให้พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ที่ได้มาเข้าร่วมเสวนาพยายามละสังโยชน์ 3 ได้แก่ 1. สักกายทิฏฐิ คือความเห็นเชื่อผิดในตัวตน 2. วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัยไม่แน่ใจในพระรัตนตรัย และ3. สีสัพพตปรามาส คือความถือมั่นในข้อบังคับและข้อปฏิบัติที่ทำตามกันมาอย่างงมงาย หากละ 3 สิ่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์คือว่าบรรลุโสดาแล้ว.

...