นับเป็นข่าวร้ายแห่งปี 2558 ก็ว่าได้ สำหรับเหตุระเบิดครั้งใหญ่ ที่บริเวณพระพรหมเอราวัณ ที่แยกราชประสงค์ โดยเหตุวางบึมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 1 ทุ่มของวานนี้ (17 สิงหาคม) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากกว่าสิบราย บาดเจ็บอีกนับร้อยคน...ที่สงสัยคือประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้ยังไง...?
พื้นที่ราชประสงค์ นับเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย มีเทวรูปองค์เทพให้สักการะ รวม 7 องค์ คือ ท้าวมหาพรหม ท้าวอัมรินทราธิราช พระนารายณ์ พระแม่ลักษมี พระพิฆเนศวร พระตรีมูรติ และพระแม่อุมาเทวี นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ตั้งห้างใหญ่ยักษ์ระดับประเทศ จึงไม่แปลกที่แยกดังกล่าว จะมีผู้คนทั้งไทยและเทศเดินทางมาสักการะและเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย
แต่แล้ววันหนึ่ง "ราชประสงค์" ก็เปลี่ยนไป หลังเกิดความขัดแย้งทางการเมือง สี่แยกศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นจุดชุมนุมทางการเมือง คนบางกลุ่มมองว่าเป็น "ไม้ตาย" ที่งัดมาใช้หวังจะทำลายเศรษฐกิจและดิสเครดิตความมั่นคงของชาติ แล้วอีกกี่ครั้งที่ต้องเกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้?
...
ไล่เรียงเสียงระเบิด ณ แยกราชประสงค์
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอไล่เรียงย้อนเหตุบึมป่วนเมือง ณ ใจกลางเศรษฐกิจ แยกราชประสงค์ ซึ่งเกิดมาแล้ว 2 ครั้ง...ครั้งแรก ถูกจุดชนวนขึ้น เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 31 ธ.ค.2549 ที่กำลังจะเข้าปี 2550 มือมืดวางระเบิดป่วนเมืองรวม 8 จุดตั้งแต่เย็น และช่วงข้ามคืนเข้าสู่ปีใหม่ เสียงระเบิดดังสนั่นในจุดที่ 7 ณ หน้าห้างเกษรพลาซ่าในพื้นที่แยกราชประสงค์ เสียงระเบิดที่ดังครั้งนั้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย เป็นชาวไทย 2 ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ หากนับรวม 8 จุด มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 30 ราย
พลังทำลายของระเบิดในตอนนั้น นอกจากคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์แล้ว ยังได้ทำลายระบบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสภาวการณ์ขณะนั้น ไม่แตกต่างจากปัจจุบัน เนื่องจากเกิดในสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ได้ก้าวสู่ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี หลังจากทาง คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ยึดอำนาจจากรัฐบาล พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 19 กันยายน 2549
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ทำงานกันอย่างรวดเร็ว ออกมาให้ข่าวได้อย่างรายวัน พร้อมซัดฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง และถึงแม้จะออกหมายจับ ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้หลายราย แต่ผลสุดท้ายของรัฐบาลในขณะนั้นก็คว้าน้ำเหลว ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้เพียง 2 ราย กับข้อหาครอบครองกระสุน และกรรโชกทรัพย์ ซึ่งนับเป็นคดีที่โทษไม่หนัก
M79 ลงม็อบ กปปส. เด็กชาย 5 ขวบ สังเวย
ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวอดีตนายกฯผู้ทรงอิทธิพล ก้าวเข้ามาในฐานะ "นารีขี่ม้าขาว" แต่ต้องเผชิญชะตาไม่ต่างจากพี่ชาย เนื่องจากเจอกับม็อบ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และในขณะที่ม็อบ กปปส. ตั้งฐานที่แยกราชประสงค์ ย้อนเกล็ดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เย็นวันที่ 23 ก.พ.57 เสียงระเบิดก็ดังสนั่นอีกครั้ง ณ แยกเดิม หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ระเบิดครั้งนี้มาจากอาวุธเอ็ม 79 ลงข้างรถสามล้อ ทะเบียน สก 2780 ส่งผลให้มีเด็กชายวัย 5 ขวบเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บทันที 24 ราย
...
สิ่งที่เกิดขึ้น กลายเป็นคำถามค้างคาใจว่าทำไมต้องเลือกราชประสงค์ เหตุเพราะสถานที่นี้ คือ สัญลักษณ์ทางการเมือง ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ หรือ มองว่าตรงนี้กลายเป็นเป้าหมายที่ใช้เป็นที่ใช้ประหัตประหารผู้คนไปแล้วหรือ ถึงได้เลือกระเบิดตูมเดียว ทำลายชีวิต เศรษฐกิจ และชาติไทย!?
สิ่งสุดท้ายที่หวัง ณ ตอนนี้ อยากจะเห็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถลากคอคนใจเหี้ยมผิดมนุษย์ที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังเหตุนองเลือดครั้งนี้มาดำเนินคดีให้ได้ ไม่คว้าน้ำเหลวเหมือนอดีตที่ผ่านมา.
...