แสงแดดเป็นภัยร้ายที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวที่สาวๆ เป็นกังวล ไม่ว่าจะเป็นผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ จุดด่างดำ รวมทั้งส่งผลให้เกิดริ้วรอย ในแสงแดดนอกจากมีคลื่นรังสี UVB ที่ต้องป้องกันแล้ว ยังมีคลื่นรังสี UVA ที่เป็นภัยร้ายกว่าที่คิด ที่ทำลายผิวพรรณให้หมองคล้ำอีกด้วย บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญ ดร.โดมินิค โมยาวน์ นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านรังสียูวี แผนกวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม จากศูนย์วิจัยลอรีอัล ประเทศฝรั่งเศส มาให้ความรู้ พร้อมกับเปิดตัวที่สุดของผลิตภัณฑ์กันแดด ลาโรช-โพเซย์ (LA ROCHE-POSAY) ที่ป้องกันรังสี Long-UVA/UVB พร้อมค่า PPD สูง ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซ่า แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆนี้
ดร.โดมินิค กล่าวว่า จากที่ได้มีการวิจัยชี้ให้เห็นสัดส่วนของรังสีในแสงแดดที่ส่องผ่านมายังโลก มีคลื่นรังสี LONG-UVA ในสัดส่วน 75%, SHORT UVA ประมาณ 20% และเป็นคลื่นรังสี UVB 5% คลื่นรังสี LONG-UVA เป็นคลื่นที่ปกป้องลำบาก มีอำนาจทะลุทะลวงผ่านชั้นผิวหนังได้ลึกที่สุด และมีผลกระทบในวงกว้างต่อโครงสร้างชั้นผิวหนังแม้ได้รังสีในปริมาณน้อย ก็สามารถทะลุผ่านชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดการทำลายโครงสร้างผิวหนังตามมา เช่น คอลลาเจน และอีลาสติน ลดจำนวนการผลิตลง ทำให้เกิดริ้วรอย เกิดสีผิวที่เข้มขึ้น มีจุดด่างดำเพิ่มขึ้น หากเทียบผลของการได้รับคลื่นรังสีทั้ง 2 ชนิด คลื่นรังสี UVB จะทำให้ผิวไหม้ หลังจากนั้นจะทำให้ผิวดำเข้มในวันต่อมาและสีผิวอาจจะค่อยๆจางลง ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิวของคนคนนั้น ขณะที่คลื่นรังสี UVA จะไม่ก่อให้เกิดผิวไหม้ แต่จะทำให้ผิวคล้ำ และเมื่อสีผิวเปลี่ยนแล้วจะคงอยู่นานหรืออาจทำให้สีผิวเปลี่ยนไปเลย ดังนั้น อันตรายของรังสี LONG-UVA ต่อผิวพรรณนั้นจะส่งผลชัดทันตา แต่จะส่งผลในระยะยาวและค่อนข้างรุนแรง ซึ่งคนเอเชียจะได้รับแสงแดดที่มีรังสี LONG-UVA มากกว่าแสงแดดในประเทศแถบยุโรปหลายเท่าตัว โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน อย่างประเทศไทยได้รับรังสี LONG-UVA เข้มข้นกว่าประเทศฝรั่งเศสถึง 4 เท่าตัว ดังนั้น จึงไม่ควรละเลยที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องผิวจากแสงแดด
...
นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านรังสียูวี กล่าวอีกว่า แต่เดิมครีมกันแดดให้ความสำคัญกับการป้องกัน UVB เนื่องจาก UVB ทำให้เกิดผิวหนังแสบไหม้ แต่ปัจจุบันเป็นที่ทราบว่า แสงแดดเป็นอันตรายต่อผิวทั้งจาก UVA และ UVB โดยเฉพาะ LONG-UVA ทำให้ผิวหนังมีริ้วรอยเหี่ยวก่อนวัยได้มากกว่า จึงควรเลือกครีมกันแดดที่ปกป้องทั้ง UVA และ UVB ซึ่งสังเกตง่ายๆ คือ ค่า PPD (Persistent Pigment Darkening) ในสัญลักษณ์ UVA วงกลม เป็นมาตรฐานที่แนะนำโดยยุโรป หรือ ค่า PA (Protection UVA Class) ในมาตรฐานของเอเชีย ทั้ง 2 อย่างเป็นค่าที่บอกถึงความสามารถในการป้องกันรังสี UVA ส่วน SPF (Sun Protection Factor) เป็นค่าบอกถึงความสามารถในการป้องกันรังสี UVB.