รปภ.บริษัทดัง ระหองระแหงเพื่อนบ้านย่านคู้บอน 6 ออกเวรถึงฆาต กลับบ้านมีปากเสียงกับเมียคู่กรณี คราวนี้ทั้งผัวทั้งลูกชายลูกสะใภ้ ใช้ไม้เบสบอล มีด ไม้ ออกมารุมฟันแทงยับ ขณะผู้ตายสู้ยิบตาใช้มีดดวลสู้ แต่ไม่ไหวโดนแทงร่างพรุน แขนหัก กะโหลกแตกดับสยอง ด้านตำรวจตามจับคู่กรณีได้ทั้งหมด เผยก่อนหน้าวันเดียว เพิ่งทะเลาะกันเรื่องน้องชายคนตายจุดเตาถ่านต้มมาม่าควันลอยเข้าบ้าน จนมีปากเสียงถึงขั้นตำรวจต้องนำตัวไปไกล่เกลี่ยที่โรงพัก แต่ไม่วายเกิดเหตุสลดจนได้เหตุเพื่อนบ้านทะเลาะกันเรื่องต้มมาม่าถึงฆ่ากันตายครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 ก.ย. ร.ต.อ.ธนศักดิ์ พ้องเสียง รอง สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ที่หมู่บ้านมณีมาศ ซอยคู้บอน 6 ถนนคู้บอน แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว แพทย์เวร รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุเข้าไปประมาณ 50 เมตร พบศพนายสมชาย กลิ่นกล่อม อายุ 47 ปี อาชีพ รปภ. บริษัทธรรมนัสการ์ด ประจำตลาดปัฐวิกรณ์ นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน สภาพสวมเสื้อเชิ้ตสีแดง สวมกางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าผ้าใบ มีเลือดออกเต็มตัว มีบาดแผลถูกแทงตามลำตัวพรุน ศีรษะแตก แขนขวาหัก นอกจากนี้ ยังพบคราบเลือดเต็มถนน โดยมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คนทราบชื่อ นายสุชาติ อุตรา อายุ 50 ปี โดนฟันที่ ข้อมือซ้าย และท้อง น.ส.มนฑา มณทาเงินวัฒนาสุข อายุ 48 ปี โดนของมีคมที่คิ้ว นายสุรสีห์ อุตรา อายุ 24 ปี โดนฟันที่ลำตัว ทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูก ถูกนำส่ง รพ.นพรัตนราชธานีพ.ต.อ.สิงห์เปิดเผยถึงเหตุครั้งนี้ว่า ผู้ตายพักอยู่บ้านเลขที่ 35/155 ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 3 รายอยู่บ้านติดกัน เลขที่ 35/153-154 โดยทั้ง 2 บ้านมีปัญหา กระทบกระทั่งกันมาตลอด ล่าสุด เมื่อค่ำวันที่ 7 ก.ย.60 น้องชายผู้ตายทราบชื่อเล่นคือนายหนุ่ม อายุ 37 ปี มีอาการทางจิตต้องกินยารักษาตัว ใช้เตาถ่านจุดไฟเพื่อต้มมาม่า แต่ควันไฟลอยเข้าไปในบ้านคนเจ็บจนมีปากเสียงถึงขั้นทำลายข้าวของ เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.คันนายาว รับแจ้งต้องนำไปพูดคุยไกล่เกลี่ยตกลงค่าเสียหายที่ สน.คันนายาว จนวันนี้ผู้ตายออกเวรกลับมาบ้าน พบ น.ส.มนฑากำลังตากผ้าอยู่หน้าบ้าน เกิดมีปากเสียงอีกครั้ง น.ส.มนฑาตามคนในบ้านมาอีก 3 คน ประกอบด้วย สามี ลูกชาย และลูกสะใภ้ คือ น.ส.ศศินา สาตรพันธ์ อายุ 20 ปี เกิดการต่อสู้ในลักษณะ 4 รุม 1 ฝั่งผู้บาดเจ็บมีมีด คมแฝก และไม้เบสบอลรุมตี ขณะที่ฝั่งคนตายก็ใช้มีดสู้ยิบตาจนอีกฝ่ายบาดเจ็บ แต่สู้ไม่ไหว โดย น.ส.ศศินาหลบหนีไปได้ เบื้องต้นได้อายัดตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลมาสอบปากคำ เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไปค่ำวันเดียวกัน พ.ต.อ.สิงห์ เผยความคืบหน้าอีกครั้ง ขณะนี้สามารถควบคุมตัว น.ส.ศศินา สาตรพันธ์ อายุ 20 ปี ลูกสะใภ้ ได้แล้ว จับกุมได้ที่หน้าห้องฉุกเฉิน รพ.นพรัตนราชธานี เบื้องต้นแจ้งข้อหา น.ส.มนฑา มณทาเงินวัฒนาสุข อายุ 48 ปี และ น.ส.ศศินา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น เตรียมส่งฝากขังศาลจังหวัดมีนบุรีในวันที่ 9 ก.ย. ส่วนนายสุชาติ อุตรา อายุ 50 ปี และนายสุรสีห์ อุตรา อายุ 24 ปี 2 พ่อลูกยังไม่สามารถสอบปากคำได้ อยู่ระหว่างการรักษาตัว เจ้าหน้าที่ได้เตรียมออกหมายจับ และอายัดตัวดำเนินคดีต่อไป