ย้อนวิบากกรรมพรรคส้ม สส.ก้าวไกล-ประชาชน ก่อเรื่องฉาวเขย่าความเชื่อมั่น ล่าสุดผู้สมัคร สส.กทม.เจอหมายจับ เอี่ยวฟอกเงินยาเสพติด 2 หมื่นล้าน สะเทือน “มีส้ม ไม่มีเทา” 

จากกรณีวันนี้ (28 ธ.ค.68)เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้เข้าตรวจค้นทลายเครือข่ายค้ายาเสพติด 7 หมายจับ ในจำนวนนั้นมีหมายจับนายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย พรรคประชาชน ว่าเกี่ยวข้องกับกรณีฟอกเงินยาเสพติด 20,000 ล้านบาท

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน ในฐานะผู้รับผิดชอบแคมเปญเลือกตั้งกรุงเทพฯ ได้ออกแถลงข่าวด่วน ขอโทษประชาชนและเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ชี้แจงว่าหมายจับออกมาหลังจากที่พรรคตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผู้สมัครเสร็จสิ้นแล้ว ยืนยัน “มีส้ม ไม่มีเทา” ไม่มีการปกป้องใครแม้เป็นผู้สมัครของตัวเอง ไม่อ่อนข้อต่อทุนเทา การทุจริต คอร์รัปชันใดๆ ด้วยการจัดการเรื่องนี้อย่างโปร่งใสและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ (อ่านต่อ : ปชน. แถลงขอโทษประชาชน เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. หลังพบถูกออกหมายจับคดีฟอกเงิน )

ขณะที่นายบุญฤทธิ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งลาออกจากพรรค พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ตามข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะที่นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร อดีต สส.กทม.ที่ก่อนหน้านี้ประกาศวางมือทางการเมือง ได้ออกมาอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตนี้แทน และล่าสุดเวลาประมาณ 16.30 น. มีรายงานว่า นายเท่าพิภพ ผ่านไพรมารีโหวตของพรรคแล้ว  

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน

...

ย้อนวิบากกรรมพรรคส้ม

“พรรคส้ม” ทั้ง 3 เจเนอเรชัน เจอปัญหาเกี่ยวกับตัวผู้สมัครอยู่บ่อยครั้ง ในเจเนอเรชันแรกอย่าง พรรคอนาคตใหม่ ก็เจอปัญหา “สส.งูเห่า” เกือบ 20 คน ทำให้ในเจเนอเรชันต่อมาอย่าง พรรคก้าวไกล มีการคัดสรรผู้สมัครที่เข้มงวดขึ้น โดยหลังการเลือกตั้ง 2566 แม้ไม่พบ สส.งูเห่า แต่ก็เจอปัญหา สส.รายบุคคลไม่น้อย

  • น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคก้าวไกล ลำดับที่ 27 ถูกตำรวจจับในข้อหาเมาแล้วขับเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2566 ซึ่งเจ้าตัวได้ลาออกจากพรรคและเลื่อนลำดับ สส.ขึ้นมาแทนที่
  • นายนครชัย ขุนณรงค์ สส.ระยอง เขต 3  ประกาศลาออกจากตำแหน่ง สส. ในวันที่ 3 ส.ค.2566 จากกรณีเคยต้องโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน จากคดีลักทรัพย์เมื่อปี 2542 โดยเจ้าตัวเผยว่าขอลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบและยืนยันว่าไม่ได้จงใจสมัคร สส.ทั้งที่รู้ว่าขาดคุณสมบัติ 
  • นายสิริน สงวนศิลป์ สส.กทม. เขต 31 เกิดกรณีทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายแฟนสาว ซึ่งวันที่ 12 ต.ค. 2566 คณะกรรมการวินัยของพรรคได้สอบสวนและลงมติตัดสิทธิพึงมีในฐานะสมาชิกพรรค ไม่ให้รับตำแหน่งสำคัญ-ที่นั่ง กมธ. และกำหนดคาดโทษ ว่าหากมีการทำผิดวินัยอีกจะถูกขับออก ซึ่งในการเลือกตั้ง 2569 นายสิริน ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคประชาชน 
  • นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 ถูกร้องเรียนกรณีคุกคามทางเพศ คณะกรรมการวินัยพรรคได้ตรวจสอบและมีมติในวันที่ 1 พ.ย.2566 ให้ขับพ้นจากสมาชิกพรรค โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น ได้เปิดเผยว่านายวุฒิพงษ์ มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง ขัดต่อวินัย อุดมการณ์และคุณค่าของพรรคอย่างร้ายแรง
  • นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ปูอัด สส.กทม. เขต 26 ถูกร้องเรียนกรณีคุกคามทางเพศ ในวันที่ 7 พ.ย.2566 ที่ประชุมร่วมของ กก.บห.และ สส.พรรคก้าวไกล ได้มีมติขับนายไชยามพวาน จากความเป็นสมาชิกพรรค หลังก่อนหน้านี้ทางพรรคได้มีมติขีดเส้นตายให้นายไชยามพวาน แสดงท่าทีขอโทษและเยียวยาผู้เสียหาย โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่านายไชยามพวานไร้ท่าทีสำนึกผิด ซ้ำเติมผู้เสียหาย นำมาสู่การลงมติอีกครั้ง

ส่วนพรรคส้ม เจเนอเรชัน 3 อย่าง “พรรคประชาชน” เจอปัญหา สส.งูเห่า 1 คนคือ กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 ซึ่งประกาศตัวย้ายไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม โดยที่ทางพรรคประชาชนไม่ได้มีการขับออกแต่อย่างใด

ขณะที่ 16 ธ.ค. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 ซึ่งเป็นหนึ่งใน สส.ที่มีบทบาทโดดเด่นในสภาฯ ได้ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 2 ปี คดีปลอมใบสด.43 โดยตัดสินว่ามีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมและการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ขณะที่ข้อหาปลอมเอกสารราชการนั้น ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง โดยนายจิรัฏฐ์ ได้รับการประกันตัว โดยเจ้าตัวจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อ โดยในเขตนี้ พรรคประชาชน ได้ส่งนางแพรวนภัศร์ ทองสุวรรณ์ ภริยาของนายจิรัฏฐ์ ลงรับสมัครในการเลือกตั้ง 2569 พร้อมยืนยันว่าเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตามปกติ ไม่ได้มีสิทธิพิเศษ

ต่อมาหลังพรรคประชาชนได้มีการประกาศรายชื่อว่าที่ 100 ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2568 ปรากฏชื่อของนายโชติศักดิ์ อ่อนสูง นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และเกิดกระแสต่อต้านจากกรณีที่นายโชติศักดิ์เคยแสดงความเห็นในลักษณะวิพากษ์ศาสนาอิสลาม และความเห็นลักษณะเหยียดเพศ ซึ่งในวันเดียวกันนั้น นายโชติศักดิ์ ได้โพสต์ประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร ระบุเหตุผลว่าเพื่อไม่ให้ข้อถกเถียงที่เกี่ยวกับตนกระทบถึงพรรค

...

สะเทือน “มีส้ม ไม่มีเทา”

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยกับ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม นายทะเบียนพรรคประชาชน เปิดเผยว่า กระบวนการคัดเลือกผู้สมัคร สส. ต้องได้ใบรับรองจากทางพรรคก่อน เมื่อจะมีการเปลี่ยนตัวก็ต้องเข้าสู่กระบวนสรรหา ทำไพรมารีโหวตในนามของจังหวัด ซึ่งพรรคจะมีการนัดสมาชิกอย่างเร่งด่วนในวันนี้ 

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกระบวนการคัดสรรผู้สมัครก่อนหน้านี้ทางพรรคก็ต้องขอโทษพี่น้องประชาชน พร้อมน้อมรับในความผิดพลาด  โดยบุคคลนี้มีหมายจับที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบของพรรคไปแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางผู้สมัครได้ยืนยันกับทางพรรคว่าไม่เคยต้องคดีหรือมีประวัติในลักษณะนี้มาก่อน และไม่มีเบาะแสจากประชาชน

สำหรับกระบวนการตรวจสอบของพรรค เริ่มจากเมื่อมีผู้สมัครเข้ามาจะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม โดยให้ผู้สมัครนำเอกสารไปให้ทางกองพิสูจน์หลักฐาน (ศพฐ.) ตรวจสอบประวัติด้วยลายนิ้วมือ มีการตรวจสอบเรื่องของหนี้สิน เครดิตบูโร เส้นทางการเงินเท่าที่พรรคจะมีอำนาจทางกฎหมายตรวจสอบได้ 

ผู้สมัครต้องผ่านหลักสูตรต่างๆ ของพรรค ผ่านกระบวนการสรรหาที่มีคณะกรรมการไปดูทั้งในระดับจังหวัดและระดับภาค จนมาถึงคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ก่อนกลับมาที่คณะกรรมการบริหารอีกครั้งหนึ่ง ที่สำคัญคือจะมีการเปิดให้พี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคได้ส่งข้อมูลเข้ามาว่ามีบุคคลใดที่ไม่มีความเหมาะสม นอกจากนี้ในการเลือกตั้ง 2569 ทาง กกต. จะมีกระบวนการตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย

“ถ้าติดตามการดำเนินการของพรรค ก็จะมีหลายรายทั้งผู้สมัคร สส. เขต และบัญชีรายชื่อ ที่ถึงแม้จะถึงขั้นตอนสุดท้ายแต่เมื่อตรวจสอบพบการกระทำที่ไม่เหมาะสม และได้รับการแจ้งจากพี่น้องประชาชน เราก็มีการเอาออกและเปลี่ยนตัวผู้สมัคร แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ใช่ข้อกล่าวอ้างใดๆ ที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้”

...

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม นายทะเบียนพรรคประชาชน
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม นายทะเบียนพรรคประชาชน

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งถัดๆ ไปก็ต้องมาทบทวนว่ายังมีข้อผิดพลาด หรือจุดบกพร่องตรงจุดไหน โดยเฉพาะเมื่อทางพรรคประกาศชัดเจนว่า “มีส้ม ไม่มีเทา” เราต้องทำด้วยตัวของเราเองด้วย ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า ด้านหนึ่งถ้ามีเราไม่เอาตั้งแต่ต้น อีกด้านคือเมื่อทราบต้องดำเนินการเด็ดขาด หรือถ้าในอนาคตเกิดกรณีเช่นนี้อีก ก็ต้องดำเนินการเด็ดขาดเช่นเดียวกัน

“เคสนี้ยังไม่รู้ว่าในท้ายที่สุดจะเป็นความผิดจริงหรือไม่อย่างไร ซึ่งเขาเองก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ในเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ เราก็ต้องปรับปรุงอีกขั้นหนึ่งอย่างแน่นอน และอยากให้พี่น้องประชาชนมั่นใจกับพรรคประชาชน ว่าเราเอาจริงในเรื่องพวกนี้แน่นอน”

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นจะกระทบกับการหาเสียงหรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิ ก็ยอมรับว่ามีผลกระทบ เพราะประชาชนก็คาดหวังกับผู้สมัครของพรรคค่อนข้างสูง แม้เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ในทุกพรรคเพราะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่า แต่ในเมื่อสังคมคาดหวังสูงและทางพรรคก็ตั้งใจที่จะไม่ให้การเมืองเป็นการเมืองลักษณะสีเทา ก็คงต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ ว่าพรรคไม่ปล่อยปละกับเรื่องนี้แน่นอน และให้ประชาชนได้พิจารณาว่าจะยังไว้ใจเราในการทำหน้าที่ในรัฐสภาหรือคณะรัฐมนตรีในอนาคตหรือไม่

...