พรรคประชาชนแถลงขอโทษประชาชน เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.เขตบางพลัด-บางกอกน้อย หลังพบถูกออกหมายจับคดีฟอกเงิน ยัน ปชน. มีส้มไม่มีเทา ไม่ปกป้องใคร เร่งหาคนใหม่ลงสมัครแทน
วันที่ 29 ธันวาคม 2568 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน ในฐานะผู้รับผิดชอบแคมเปญเลือกตั้งกรุงเทพฯ แถลงข่าวด่วน ระบุว่าเมื่อช่วง 07.00 น. ที่ผ่านมา ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามตารางการหาเสียงช่วงปีใหม่ของบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย จึงได้ทราบว่านายบุญฤทธิ์ถูกออกหมายจับ ซึ่งหมายจับลงวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากมีชื่อในบริษัทที่เชื่อมโยงกับการฟอกเงิน
นายพิจารณ์ ระบุว่า “ผมต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนอย่างสูง โดยเฉพาะชาวบางพลัดและบางกอกน้อย พรรคได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครทุกคนอย่างละเอียด แต่ในกรณีของนายบุญฤทธิ์ ไม่มีการออกหมายเรียก ออกมาเป็นหมายจับเลยในวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พรรคได้ตรวจประวัติผู้สมัครทุกคนเสร็จสิ้นไปแล้ว พรรคจึงไม่ทราบเรื่อง มาทราบเมื่อเช้าตอนที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้สมัครแล้ว ทันทีที่ทราบเรื่องเมื่อเช้าวันนี้ พรรคก็ได้ดำเนินการแจ้งผู้สมัครและแถลงต่อประชาชนว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เรายืนยันว่าไม่มีการปกปิดหรือปกป้องใครทั้งสิ้น”
นายพิจารณ์ ยืนยันว่าพรรคจะต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัครใหม่ ซึ่งสามารถทำกระบวนการได้ทันก่อนหมดเขตรับสมัครในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ส่วนในคดีของนายบุญฤทธิ์ เจ้าตัวต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองตามสิทธิ์ ซึ่งพรรคจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พรรคประชาชนยืนยันเรื่อง “มีส้มไม่มีเทา” ไม่มีการปกป้องใครแม้เป็นผู้สมัครของตัวเอง โดยพิจารณ์ยืนยันว่าการที่ตำรวจออกหมายจับ ก็แสดงว่ามีพยานหลักฐานหนักแน่นพอสมควร ก็ต้องให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไปตามปกติ
...
นายพิจารณ์ย้ำว่า อยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนทุกท่าน ว่าพรรคประชาชนพยายามออกแบบกระบวนการคัดสรรผู้สมัครให้รัดกุมมากขึ้นทุกการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ผู้สมัครที่ดีที่สุด แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาด ต้องขอโทษประชาชนอีกครั้งที่ทำให้ท่านผิดหวัง แต่ “มีส้มไม่มีเทา” ไม่ใช่แค่สโลแกนหาเสียง เราพิสูจน์ด้วยการกระทำว่าเราไม่อ่อนข้อต่อทุนเทา การทุจริต คอรัปชั่นใดๆ ด้วยการจัดการเรื่องนี้อย่างโปร่งใสและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ในวันที่เราได้รับโอกาสให้เข้าไปบริหารประเทศ ประชาชนจะมั่นใจได้ว่าพรรคจะไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบ ไม่ปกป้องเครือข่ายพวกพ้องที่กระทำผิดกฎหมายอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องนี้จะกระทบกระแสนิยมพรรคหรือไม่ นายพิจารณ์ บอกว่า พรรคประชาชนยืนยันว่า “มีส้มไม่มีเทา” ไม่ปกป้องใคร ซึ่งพรรคก็ต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัคร หลังจากนี้กับผู้สมัครคนอื่นๆ สิ่งที่พรรคทำได้ ก็จะตรวจสอบรายละเอียดซ้ำอีกครั้ง ส่วนเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับคดีของนายบุญฤทธิ์ นายบุญฤทธิ์เล่าให้ฟังว่าได้เข้าไปเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทที่เพื่อนดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งเป็นธุรกิจการส่งออกน้ำมันไปต่างประเทศ
สำหรับคนใหม่ที่จะมาแทนที่ พรรคก็จะเร่งหาผู้สมัคร และผ่านกระบวนการให้ทันการรับสมัครในวันที่ 31 ธันวาคมนี้