จากกรณีข่าวการประกาศขอแยกทางกับ “พรรคประชาชน” ของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชลบุรี เขต 6 พื้นที่อำเภอศรีราชา (เฉพาะตำบลบางพระ ตำบลศรีราชา ตำบลสุรศักดิ์ และตำบลทุ่งสุขลา) และอำเภอเกาะสีชัง โดยระบุเหตุผลว่า อุดมการณ์ไม่ตรงกัน และไม่ต้องการร่วมงานต่อไปในอนาคตอีก แต่ไม่ต้องการลาออกเอง ขอให้เป็นทางพรรคใช้กระบวนการขับออกจากพรรค เพื่อให้สามารถย้ายไปเป็น สส.พรรคอื่นได้ ภายใน 30 วันตามระเบียบ
โดยพรรคประชาชนเอง นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคฯ ยืนยันว่า พรรคจะไม่ยอมใช้กระบวนการขับออก เพราะเอื้อต่อ สส.กฤษฎิ์ แต่ต้องการให้ลาออก และมาสู้กันใหม่ในสนามเลือกตั้ง ชี้ชะตาว่าประชาชนจะเลือกที่คน หรือศรัทธาที่พรรคมากกว่ากัน
หากย้อนกลับไปไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนชลบุรี โดยเฉพาะ อ.ศรีราชา และ อ.เกาะสีชัง เผชิญกับการเจอ “งูเห่าสีส้ม” หักหลัง ทรยศปลายปากกาของประชาชน เพราะเมื่อปี 2564 พรรคก้าวไกล (ในขณะนั้น) เคยมีมติขับ นายขวัญเลิศ พานิชมาท สส.ชลบุรี ออกจากพรรค เหตุโหวตสวนมติของฝ่ายค้าน ไปเห็นด้วยกับรัฐบาล ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2565 ก่อนถูกขับพ้นพรรคพร้อมกับ สส.อีกหลายราย
...
2 ปีต่อมา พรรคก้าวไกลได้ส่ง น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ มากอบกู้ฐานเสียงในพื้นที่เดิม มีคลิปที่เดินหาเสียง รับปากกับประชาชนว่า จะไม่ย้ายไปพรรคใดอีก สะท้อนความเจ็บปวดของคนในพื้นที่ที่เคยเจอเหตุการณ์มาแบบนี้มาแล้ว จึงต้องการถามย้ำให้แน่ใจว่าผู้สมัครพรรคก้าวไกลคนนี้จะไม่หนีไปไหนอีก
ปรากฏว่า น.ส.กฤษฎิ์ ชนะการเลือกตั้งขาดลอย ได้ไปถึง 38,572 คะแนน ได้เป็น สส.สมัยแรก พร้อมถีบ “ขวัญเลิศ” ที่ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้เพียงอันดับที่ 4 ด้วย 4,538 คะแนนเท่านั้น ลดลงไปกว่า 10 เท่า
เวลาล่วงเลยมาถึงเดือนพฤษภาคม 2568 น.ส.กฤษฎิ์ ทำสิ่งที่ทำให้ด้อมส้มถิ่นเดิมต้องอกหักอีกครั้ง เมื่อออกมาประกาศตัวว่าขอแยกทางกับพรรคประชาชน กลายเป็นแผลเก่าที่ถูกกรีดอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสว่า เขาจะโยกย้ายไปซบพรรคกล้าธรรม ที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้ต้องการกอบโกย สส.แปรพักตร์ทั่วทุกสารทิศ เพื่อต่อรองโควต้าเก้าอี้ในรัฐบาลเพื่อไทย
เป็นสิ่งที่น่าจับตาดูต่อไปว่าในการเลือกตั้งปี 2570 พรรคประชาชน จะส่งใครมาลงพื้นที่ จ.ชลบุรี ในเขต อ.ศรีราชา และ อ.เกาะสีชัง อีก ซึ่งคราวนี้ คงต้องปิดรอยแผลนี้ให้สนิท ไม่ถูกกรีดเป็นครั้งที่ 3 มิเช่นนั้น อาจจะไม่มีโอกาสกลับมาคว้าชัยในถิ่นนี้อีกก็เป็นได้